อู่ฮั่นหวนล็อกดาวน์ 1 ล้านคน – ผลวิจัยต้นตอโควิด 2 ชิ้นใหม่ย้ำเชื้อมาจากตลาดสด

อู่ฮั่นหวนล็อกดาวน์
แฟ้มภาพ ชาวเมืองอู่ฮั่นตรวจหาเชื้อโควิด-19 (Chinatopix via AP, File)

จีนยัน-ยึด โควิดเป็นศูนย์ ล่าสุด อู่ฮั่นหวนล็อกดาวน์ เขตที่มีประชากรเกือบ 1 ล้าน แม้ยังพบผู้ติดเชื้อเลขหลักเดียว ด้านงานวิจัยใหม่ 2 ชิ้นย้ำ ต้นตอโควิดมาจากตลาดสด ใจกลางอู่ฮั่น

วันที่ 28 กรกฎาคม​ 2565 บีบีซี รายงานว่า อู่ฮั่น เมืองที่พบการระบาดของโควิด-19 แห่งแรกในโลก หวนใช้มาตรการล็อกดาวน์ ประชาชนเกือบ 1 ล้านคนในเขตเจียงเซี่ย บริเวณชานเมือง แม้พบผู้ป่วยเพียง 4 ราย แต่จีนใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ หรือ (COVID Zero) ในการควบคุมเชื้ออย่างเข้มงวด

มาตรการที่บังคับใช้กับเขตเจียงเซี่ย ครอบคลุมประชากรเกิน 9 แสนคน กำหนดไว้อย่างน้อย 3 วัน นับจากวันพุธที่ 27 ก.ค. ห้ามจัดงานหรือกินอาหารตามภัตตาคารที่มีการรวมกลุ่มคนหมู่มาก สั่งปิดสถานบันเทิง ตลาดรับซื้อผลผลิตการเกษตร คลินิกขนาดเล็ก พร้อมระงับการใช้ระบบขนส่งมวลชน รถเมล์ และรถไฟใต้ดิน

REUTERS

เมืองอู่ฮั่น ซึ่งมีป​ระชากรกว่า 12 ล้านคน มักตรวจหาเชื้ออยู่เป็นประจำ กระทั่งสองวันก่อนพบผู้ติดเชื้อ 2 ราย ผ่านการสืบหาติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด 1 ราย และต่อมาพบอีกรายพบหลังจากที่มีการประกาศล็อกดาวน์ไปได้ไม่นาน

แม้จีนมีชื่อเสียงว่าประสบความสำเร็จในการควบคุมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้ ด้วยการใช้มาตรการการควบคุมได้รวดเร็วกว่าประเทศอื่น ๆ แต่นโยบายควบคุมโควิดให้เป็นศูนย์ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นทางธุรกิจอย่างกว้างขวาง ขณะที่หลายประเทศปรับตัวให้อยู่กับเชื้อต่อไป เน้นการฉีดวัคซีน เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจลง

จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ของสหรัฐอเมริกา จีนพบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากกว่า 2.2 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 14,720 ราย นับตั้งเเต่มีการระบาดปลายปี 2562

ผลวิจัยใหม่ชี้ต้นตอเชื้อโควิด

ขณะเดียวกัน สำนักข่าว เอพี รายงานผลการศึกษาต้นคอโรคระบาดโควิดชิ้นใหม่ 2 ชิ้น มีบทสรุปตรงกันว่า เชื้อเริ่มต้นที่ตลาดสดเมืองอู่ฮั่น ที่ขายสัตว์ป่ามีชีวิต ไม่ใช่หลุดออกจากห้องทดลอง

ผลการศึกษาหนึ่งตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ Science ระบุว่า ตลาดหัวหนาน ซีฟู้ด โฮลเซล น่าจะเป็นศูนย์กลางของเชื้อโรคโควิด-19 หรือ SARS-CoV-2 ในตอนเริ่มต้น ก่อนที่เชื้อจะแพร่ระบาดลามไปทั่วโลก คร่าชีวิตมนุษย์ไปแล้วเกือบ 6.4 ล้านราย

ตลาดหัวหนาน / Global Times

คริสเตียน แอนเดอร์เซน อาจารย์ประจำภาควิชาภูมิคุ้มกันวิทยา และจุลชีววิทยา ประจำสถาบันวิจัย สคริปปส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า จากเดิมที่เคยเชื่อว่า เชื้อน่าจะมาจากห้องแล็บ แต่เมื่อศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดแล้ว หลักฐานทั้งหมดบ่งบอกตรงกันว่า ตลาดสดกลางเมืองอู่ฮั่นเป็นต้นตอของเชื้อ

แอนเดอร์เซนกล่าวว่า ทีมงานพบคลัสเตอร์ภายในตลาดด้วยเช่นกัน เป็นจุดที่ขายสัตว์ป่าอย่างตัวแร็กคูนด็อก (raccoon dogs หรือ ทานูกิ ในภาษาญี่ปุ่น) เป็นตัวต้องสงสัยว่าติดเชื้อโคโรนาไวรัส

หลักฐานพุ่งไปที่ตลาดค้าสัตว์ป่า

ด้านนายไมเคิล โวโรบี นักชีววิทยา มหาวิทยาลัยแอริโซนา ที่ร่วมวิจัยด้วย อาศัยข้อมูลที่เก็บสะสมโดยนักวิทยาศาสตร์จีน ใช้อุปกรณ์การทำแผนที่จุดที่พบผู้ติดเชื้อรายแรกสุด 150 คน จากเดือนธันวาคม 2552 และยังใช้ข้อมูลจากแอปพลิเคชั่นที่เปิดให้คนที่ติดโควิดขอความช่วยเหลือช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 2563

“จุดที่เรากำหนด คือการค้นหาสถานที่พบผู้ติดเชื้อแห่งแรก ๆ ดูว่าคนเหล่านี้อาศัยอยู่ที่ไหน ปรากฏว่ามีรูปแบบที่พิเศษชัดว่า พบแหล่งที่มีการติดเชื้อสูงอย่างหนาแน่น ใกล้กับตลาดสดมากและเป็นศูนย์กลางอย่างยิ่ง” โวโรบีกล่าวและว่า ข้อมูลเหล่านี้บ่งชี้ว่าไวรัสเริ่มระบาดในกลุ่มคนที่ทำงานในตลาด จนนั้นแพร่ลามไปยังชุมชนท้องถิ่นใกล้ ๆ นั้น

ทางเข้าตลาดหัวหนาน

ส่วนงานวิจัยอีกชิ้น นำโดย นายโจเอล เวอร์เธียม ผู้เชี่ยวชาญด้านวิวัฒนาการการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ประจำมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ในซานดิเอโก ให้ข้อมูลงานศึกษาอีกชิ้น ที่วิเคราะห์จีโนมของเชื้อไวรัสที่เก็บตัวอย่างจากทั้งในและนอกตลาดหัวหนาน ช่วงเดือน ธ.ค. 2562 และขยายมาถึง ก.พ. 2563

ทีมงานพบว่าเชื้อมีสองสาย แยกเป็น A และ B พบว่า สาย A มีโครงสร้างพันธุกรรมคล้ายโคโรนาไวรัสของค้างคาว และสาย B มีลักษณะเหมือนกับเชื้อที่เริ่มระบาดสู่คน โดยเฉพาะคนในตลาดหัวหนาน การระบาดลักษณะดังกล่าวเกิดได้ยาก แต่สภาพแวดล้อมในตลาดที่ทั้งคนและสัตว์อยู่รวมกัน ทำให้ไวรัสแพร่จากสัตว์มาสู่คน และแพร่ระหว่างคนด้วยกันจนกำแพงที่เคยกั้นไว้ได้ลดต่ำลง กลายเป็นการระบาดใหญ่ในที่สุด

…..