
ขณะนี้กำลังมีความกังวลเรื่องการระบาดของโควิด-19 ในจีน หลังจากทางการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวด
ขณะเดียวกันก็มีรายงานว่า โรงพยาบาลทั่วประเทศกำลังเผชิญคลื่นคนไข้จากการระบาดระลอกใหม่
- ราชกิจจาฯประกาศ อัตราผลประโยชน์เงินบำเหน็จชราภาพ ผู้ประกันตน ม.40
- เล็งปรับเงื่อนไขประกัน พ.ร.บ. เพิ่มคุ้มครองตัวรถ-ทรัพย์สิน
- ทุนใหญ่ สารสิน-มหากิจศิริ เปิดสายการบินใหม่รับท่องเที่ยวฟื้น
จีนมีผู้ติดเชื้อ-เสียชีวิตจากโควิดเท่าใด
ข้อมูลจากทางการระบุว่าจีนมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในเดือน ธ.ค.จำนวน 13 คน
อย่างไรก็ตาม จีนมีหลักเกณฑ์ยืนยันการเสียชีวิตจากโควิดที่ค่อนข้างจำกัด โดยกำหนดเฉพาะผู้ที่เสียชีวิตโดยตรงจากความเจ็บป่วยในระบบทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสโคโรนา แต่ไม่รวมถึงการเสียชีวิตที่เป็นผลข้างเคียงจากโควิด

มีรายงานว่า โรงพยาบาลทั่วประเทศจีนกำลังเผชิญคลื่นคนไข้จากการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19
นอกจากนี้ วิธีการนับจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิดยังไม่เป็นไปตามแนวปฏิบัติขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization หรือ WHO) ทำให้ตัวเลขนี้ต่ำกว่าหลายประเทศมาก
- หลายชาติคุมเข้มมาตรการรับ นทท.จีน ส่วนไทยยืนยันไม่เลือกปฏิบัติ
- นักท่องเที่ยวจีนมาไทยจะเหมือนเดิมหรือไม่ หลังจีนยกเลิกกักตัว
- จีนละทิ้งนโยบายปลอดโควิดอย่างเงียบ ๆ ป้องกัน สี จิ้นผิง ขายหน้า
ปัจจุบันจีนได้ยกเลิกการตรวจคัดกรองโรคประชาชนเป็นวงกว้างแล้ว และบันทึกตัวเลขผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการจากการตรวจที่สถานพยาบาลเท่านั้น แต่ไม่มีการเก็บบันทึกข้อมูลของผู้ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ ซึ่งตรวจพบเชื้อจากชุดตรวจด้วยตนเอง
ข้อมูลจากทางการระบุว่าจีนมีผู้ติดเชื้อวันละ 5,000 คน
Airfinity บริษัทวิจัยในสหราชอาณาจักรระบุว่า ผลการประเมินด้วยแบบจำลองของบริษัทบ่งชี้ว่าในเดือน ม.ค.จีนอาจมีผู้ติดเชื้อมากถึงวันละ 3 ล้านคน
โรงพยาบาลจีนเผชิญแรงกดดันเพียงใด
แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อของทางการจะต่ำ แต่ WHO เตือนว่าระบบสาธารณสุขของจีนกำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากคลื่นผู้ป่วยที่ถาโถมเข้ามา
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า โรงพยาบาลจีนต้องรับมือกับผู้ป่วยจำนวนมากในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่ผ่านมา โดยคลิปวิดีโอและภาพถ่ายเผยให้เห็นคนจำนวนมากเข้าคิวรับบริการที่คลินิกต่าง ๆ และภาพคนไข้บนเตียงผู้ป่วยในห้องรอเรียกอันแออัดของโรงพยาบาล

ตลอดเดือน ธ.ค.วิดีโอทางโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นภาพโรงพยาบาลที่เนืองแน่นไปด้วยผู้เข้ารับบริการ
จากการตรวจสอบข้อมูล และเปรียบเทียบกับรูปถ่ายอื่น ๆ ที่โพสต์ทางออนไลน์ บีบีซีสามารถยืนยันได้ว่าวิดีโอ 2 คลิปถ่ายได้จากโรงพยาบาลเด็กแห่งหนึ่งในเมืองเทียนจินทางภาคเหนือของจีน
当下中国现状,天津儿童医院人满为患,闹哄哄的,患者得不到医治已经发生医疗冲突。 pic.twitter.com/GMXPadJmmo
— ChinaNews JayPro (@JayPro_China) December 15, 2022
อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถยืนยันคลิปอื่น ๆ อีกหลายคลิปที่ปรากฏทางออนไลน์
นอกจากนี้ ยังเป็นการยากที่จะยืนยันสถานการณ์ในปัจจุบันกับช่วงเวลาตามปกติ เนื่องจากจีนมีมาตรการควบคุมข้อมูลข่าวสารในประเทศอย่างเข้มงวด
ทีมข่าวบีบีซีในกรุงปักกิ่งรายงานว่าตามคลินิกรักษาโรคต่าง ๆ มีคนเข้าคิวรับบริการยาวเหยียด ส่วนที่ร้านขายยาก็มีคนซื้อยารักษาอาการไข้จำนวนมาก
ขณะเดียวกันมีการตั้งศูนย์บริการด้านสาธารณสุขฉุกเฉิน และหน่วยรักษาผู้ป่วยอาการวิกฤตชั่วคราวขึ้นในเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศ
สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีรายงานว่า โรงพยาบาลเฉาหยางในกรุงปักกิ่งจะขยายการให้บริการ เนื่องจากมีคนไข้ที่เข้ารับบริการเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า
นอกจากนี้ มีรายงานว่าในนครเซี่ยงไฮ้มีการเพิ่มเตียงคนไข้ขึ้นอีก 230,000 เตียง
นโยบายโควิดของจีนเปลี่ยนไปอย่างไร
หลังจากชาวจีนทั่วประเทศลุกฮือขึ้นประท้วงมาตรการล็อกดาวน์เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ทางการจีนก็ตัดสินใจยกเลิกมาตรการควบคุมการระบาดของโควิดหลายข้อในทันที
ก่อนหน้านี้ จีนถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีมาตรการควบคุมโควิดที่เข้มงวดที่สุดในโลก โดยเป็นที่รู้จักโดยทั่วไปว่า “นโยบายโควิดเป็นศูนย์”
นโยบายดังกล่าวรวมถึงมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดแม้จะมีการพบผู้ติดเชื้อเพียงไม่กี่ราย การตรวจคัดกรองโรคประชาชนในพื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้อ และผู้ติดเชื้อจะต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน หรือที่ศูนย์กักโรคของรัฐบาล

แต่หลังจากการประท้วงใหญ่ ทางการได้ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ และข้อบังคับเรื่องการกักโรค
การใช้บริการขนส่งมวลชน ร้านอาหาร สถานออกกำลังกาย และอาคารสาธารณะอื่น ๆ ไม่จำเป็นต้องแสดงผลโควิดเป็นลบอีกต่อไป ยกเว้นกรณีการไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และบ้านพักคนชรา
ทางการจีนยังระบุว่าจะเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องการเดินทาง หรือมาตรการกักโรคสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศ
อย่างไรก็ตาม หลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ ได้ออกกฎให้ผู้เดินทางจากประเทศจีนต้องแสดงผลตรวจโควิด เนื่องจากกังวลกับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อพุ่งสูงในจีน
อัตราการฉีดวัคซีนของจีนเป็นอย่างไร
จีนระบุว่า 90% ของประชากรได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส
อย่างไรก็ตาม มีประชากรวัย 80 ปีขึ้นไปไม่ถึงครึ่ง (40%) ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 โดยอัตราการฉีดวัคซีนของคนกลุ่มนี้เมื่อเดือน เม.ย.ยิ่งต่ำกว่านั้น คือไม่ถึง 20%

ทางการจีนระบุว่าได้สั่งการให้หน่วยงานสาธารณสุขระดับท้องถิ่น “เพิ่มการฉีดวัคซีนให้ประชาชนทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ”
ที่ผ่านมา มีการตั้งข้อสงสัยว่าวัคซีนหลักที่ใช้ในจีน คือ ซิโนแวค และซิโนฟาร์ม มีประสิทธิภาพในการต่อต้านเชื้อกลายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดมากที่สุดในปัจจุบันหรือไม่
จีนปฏิเสธการนำเข้าวัคซีนที่ผลิตขึ้นโดยชาติตะวันตกมาใช้เป็นวงกว้าง
รัฐบาลไม่มีคำอธิบายเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ แต่ ดร. อวี๋ เจี่ย นักวิจัยอาวุโสเรื่องจีนที่สถาบันศึกษานโยบายต่างประเทศ แชตธัม เฮาส์ (Chatham House) ในสหราชอาณาจักร เชื่อว่าเรื่องนี้อาจมีปัจจัยมาความภาคภูมิใจในชาติ
“ดิฉันเชื่อว่า สี จิ้นผิง คิดถึงสิ่งต่าง ๆ ในแง่ของการพึ่งพาตนเองทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะต้องใช้สินค้าจีน และวัคซีนของตนเอง มากกว่าการนำเข้าจากต่างประเทศ” เธอกล่าว
รายงานโดย ว่านหยวน ซ่ง, เจค ฮอร์ตัน และเจเรมี ฮาวเอลล์
……
ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว