เเฟรนไชส์ชื่อดัง โดมิโน่ พิซซ่า ไปไม่รอด ตัวเลขติดลบในเเดนต้นกำเนิดอย่างอิตาลี
วันที่ 10 สิงหาคม 2565 นิวยอร์กไทมส์ รายงานว่า โดมิโน่ พิซซ่า ฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกาจำใจต้องดับเตาอบพิซซ่าในอิตาลี พร้อมปิดแฟรนไชส์ทั้งหมด 29 สาขา หลังไม่สามารถเอาชนะใจลูกค้าในดินแดนต้นตำรับนี้ได้
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- พบรอยร้าวบ่อฝังกลบกากแคดเมียมของ เบาด์ แอนด์ บียอนด์
- เปิดไทม์ไลน์ลูกค้าซิตี้แบงก์ต้องรู้! ก่อนโอนย้ายบัญชีมาเป็น “ยูโอบี” 21 เม.ย.นี้
ตามรายงานของ บลูมเบิร์ก เมื่อวันที่ 9 ส.ค. และเอกสารของศาล บริษัท ePizza Spa-อีพิซซา สปา เจ้าของโดมิโน่ พิซซ่า ในอิตาลี ยื่นขอล้มละลายตั้งแต่เดือนเมษายน เพื่อขอพิทักษ์ทรัพย์ใน 90 วัน ซึ่งหมดเวลาไปแล้วเมื่อเดือนก่อน และทางบริษัทยุติบริการดีลิเวอรี่ไปตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม
กิจการของโดมิโน่ พิซซ่าในอิตาลี ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากช่วงโรคระบาดโควิด-19 เมื่อเจอคู่แข่งเป็นร้านพิซซ่าในท้องถิ่นที่หันมาใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่น สำหรับดีลิเวอรี่มากขึ้น เช่น Deliveroo Glovo หรือ Just Eat
บลูมเบิร์กรายงานด้วยว่า โดมิโน่ พิซซ่าในอิตาลี มีหนี้เมื่อปี 2020 (พ.ศ. 2563) สูงกว่า 10.6 ล้านยูโร หรือราว 385 ล้านบาท สวนทางกับแผนขยายร้านค้าในประเทศอื่น ๆ อีก 900 สาขาภายในปี 2030 (พ.ศ. 2573)
Domino’s Pizza เริ่มเปิดธุรกิจในอิตาลีในปี 2015 (พ.ศ. 2558) ด้วยเห็นว่า เป็นตลาดผู้บริโภคพิซซ่าที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา
จุดเด่นของโดมิโน่ พิซซ่า คือไม่ใช้ท็อปปิงแต่งหน้าพิซซ่าแบบฉบับดั้งเดิมของอิตาลี แต่โรยหน้าด้วยวัตถุดิบอื่น เช่น สับปะรด ตามแบบอเมริกัน และมีจุดเด่นการขายแบบจัดส่งดีลิเวอรี่ ตามสาขาในเมืองต่าง ๆ เช่น มิลาน ตูริน แบร์กาโม โบโลญา โรม และเวเนโต
ปี 2021 (พ.ศ. 2564) ตัวเเทนของโดมิโน พิซซ่า เพิ่งระบุว่าชาวอิตาลีได้เปิดใจรับพิซซ่าสไตล์อเมริกันเเล้ว และว่า “ชาวอิตาเลียนที่ไม่กลัวที่จะใส่สัปปะรดลงบนพิซซ่าแล้ว”
บีบีซี รายงานว่า การถอนกิจการของโดมิโน่ พิซซ่า ออกจากอิตาลี สร้างความดีใจให้ชาวเน็ตในอิตาลีจำนวนมาก เช่น เดฟ เจมิสัน โพสต์ความเห็นว่า “ผมเคยสงสัยมาตลอดว่า ร้านพิซซ่านี้จะอยู่รอดในนิวเจอร์ซีย์ได้อย่างไร อย่าว่าแต่อิตาลีเลย”
ส่วน อลิเซีย สมิธ ผู้ใช้ทวิตเตอร์ กล่าวเชิงเยาะเย้ยว่า “การเปิดร้านพิซซ่าในอิตาลีก็เหมือนกับการขายหิมะในขั้วโลกเหนือ” เพราะอิตาลีเป็นต้นกำเนิดของพิซซ่า
อย่างไรก็ตาม ตามมุมมองของ สเตฟาโน โอริกคีโอ ผู้อำนวยการสมาคมปกป้องพิซซ่าดั้งเดิมแห่งเนเปิลส์ ที่ให้สัมภาษณ์นิวยอร์กไทมส์ เห็นว่า การปิดตัวของโดมิโน่ พิซซ่า น่าเสียดายในมุมที่ทำให้ตลาดลดความคึกคักไปโดยปริยาย และทำให้มีตัวเลือกน้อยลง
ขณะเดียวกัน โอริกคีโอมองว่า ไม่กี่ปีมานี้ชาวอิตาลีเปลี่ยนความชื่นชอบในรสชาติ หันไปหาสินค้าที่บรรจงทำมากกว่าแบรนด์สินค้า แนวโน้มตอนนี้จึงไปเน้นที่ผลงานของเชฟ และคุณภาพของสินค้ามากขึ้น
โดมิโน่ พิซซ่า เป็นร้านพิซซ่าที่มีตลาดใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยมีสาขาในอังกฤษและไอร์แลนด์มากถึง 1,200 สาขา ทั้งยังเป็นร้านพิซซ่าอันดับ 1 ของโลก ที่มีสาขาทั่วโลกมากกว่า 18,300 สาขาใน 90 ประเทศทั่วโลก แต่กลับไม่สามารถเอาตัวรอดในตลาดอิตาลีได้
ผิดกับสตาร์บัคส์ ที่เปิดสาขาแรกในอิตาลีเมื่อปี 2018 (พ.ศ. 2561) เดิมคิดว่าจะไปไม่รอด เพราะชาวอิตาลีคุ้นเคยกับกาแฟเอสเพรสโซ่ขนาดจิ๋ว และดูถูกกาแฟสตาร์บัคส์ที่ขายแก้วขนาดใหญ่ยักษ์และราคาแพง แต่ตอนนี้ บริษัทเปอร์พาสซี ผู้รับใบอนุญาตดำเนินกิจการของ Starbucks ในอิตาลี กลับเปิดร้านไปเเล้วกว่า 18 สาขา ทั่วตอนเหนือและตอนกลางของอิตาลี รวมถึงบริการ ไดรฟ์ทรู ด้วย