คำสัญญาอุ๊งอิ๊ง เปิดโรดแมปทักษิณกลับบ้าน การนิรโทษกรรม และ 112

อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร
ภาพเครือมติชน

แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เปิดโรดแมปทักษิณกลับบ้าน อ่านเกมนิรโทษกรรม ประเมินสถานการณ์คดีอาญามาตรา 112

การส่งสัญญาณ ทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศ แทบทุกวาระ ทั้งใน-นอกโซเชียล กลายเป็นคำถามที่หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย อย่างแพทองธาร ชินวัตร ต้องตอบแทบทุกเวที

อีกทั้งมีพลังผลักดันทั้งหน้า-หลังเวที จากผู้มีบารมีทางการเมือง ระดับคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ร่วมลงแรง ด้วยการปรากฏตัวทางการเมืองในรอบ 16 ปี

บนพื้นฐานแห่งความหวังของพรรคเพื่อไทยว่า จะชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ คุมการเมืองทั้งกระดาน และสะท้อนว่าการเลือกตั้งเที่ยวนี้ ครอบครัวชินวัตร “เอาจริง”

“แพทองธาร” ให้สัมภาษณ์ประชาชาติธุรกิจ และเครือมติชน ที่อาคารชินวัตร ถึงโรดแมปกลับบ้านของ “ทักษิณ” แผนนิรโทษกรรมที่ปรับปรุงใหม่ และการแก้ไขมาตรา 112 หากในอนาคต ถ้าเธอมีอำนาจตัดสินใจ

อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร
แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (ภาพเครือมติชน)

มองอย่างไรกับกระบวนการยุติธรรม 2 มาตรฐาน

เวลาที่เขาถามว่าอิ๊งกังวลใจเรื่องไหน ก็เรื่องนี้แหละ 2 มาตรฐาน กังวลใจเรื่องกระบวนการยุติธรรมที่ไม่ยุติธรรม ทำให้มีคำถามเกี่ยวกับความยุติธรรม อย่างคดีต่าง ๆ ที่เจอ ก็เป็นคดีที่ถูกตั้งขึ้นมาหลังรัฐประหาร ค่อนข้างชัดเจนว่ามีการแทรกแซง

หรือองค์กรอิสระต่าง ๆ ที่ตั้งขึ้นมา ตั้งคำถามครอบครัวอิ๊ง ก็ so special นะ มีองค์กรใหม่ ๆ ขึ้นมาตรวจสอบเรา เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น

ถามว่ารู้สึกอย่างไร แน่นอนค่ะ ไม่ชอบอยู่แล้ว ก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ถูก treat แบบไม่ยุติธรรมก็ไม่สามารถรู้สึกได้ว่ามันโอเค มันไม่ได้โอเคอยู่แล้ว ก็แค่หวังว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก และหวังว่าทุกอย่างจะอยู่ในระบบ ในกติกา เพราะนั่นคือจุดก้าวแรกที่ทำให้ประเทศเจริญ

มีไอเดียที่จะทำเรื่องนี้อย่างไร

มีค่ะ มีไอเดียอีกมาก ทุกอย่างต้อง fair game ทุกคนใช้กฎเดียวกัน สิ่งที่เราทำไม่ได้ คนอื่นก็ต้องทำไม่ได้ อันนี้ต้องทำให้เป็นกลางให้ได้ และไม่มีการแทรกแซงเกิดขึ้น เป็นสิ่งที่คิดในใจเสมอ

แต่ในกระบวนการ อิ๊งต้องปรึกษาฝ่ายกฎหมายอีกเยอะว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง เพื่อที่จะทำให้มันถูกต้องและเป็นที่ยอมรับ แต่แน่นอนมีการคิดเรื่องนี้อยู่แล้ว

จะแก้รัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายวิธีพิจารณาคดีของศาลต่าง ๆ

อยากให้จับมือกันทั้งในรัฐบาลและเอกชน อย่างภาคเศรษฐกิจ ธุรกิจ ต้องใช้เอกชนด้วยในการถกเถียง ใช้สมอง ระดมสมองร่วมกัน การแก้ปัญหาต่าง ๆ ไม่สามารถเป็นรัฐอย่างเดียวได้ ต้องอาศัยทุกคนในประเทศ

ส่วนเรื่องการเมือง ต้องชัดเจนตั้งแต่แรกว่า เรื่องต่าง ๆ ต้องอยู่ใน process ไม่ใช่จู่ ๆ ดำเนินไปสักพักก็ตั้งอันนี้ขึ้นมา เพื่ออันนี้ดีกว่า มันไม่อยู่ในระบบ อยากทำให้ได้นะ คือการไม่เล่นนอกกระดาน เพราะมันไม่แฟร์กับใครเลย ไม่ใช่ทำอันนี้เพื่อตัวเอง

ถ้าคุณอยู่ในกระดานนี้ ประเทศมันตกลงกันได้ มันคือจุดเริ่มต้น เป็นการไปต่อ ไม่ใช่เอะอะ ไม่พอใจ ล้ม กวาดเรียบ มันเด็กไป

อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร
แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (ภาพเครือมติชน)

ต้องเริ่มจากตรงไหน

นี่ไง คือการจับมือกัน คุยกันทุกฝ่าย ในจุดที่มีปัญหา ในหัวข้อที่ไม่ใช่เรื่องการเมืองโดยตรง เป็นเรื่องการทำธุรกิจ ที่อยากจะทำให้เป็น free zone หรือ เรื่อง soft power เราคุยกับนักธุรกิจหรือคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมนั้นเลยว่าเราเอง พรรคเพื่อไทยไม่ได้รู้ปัญหาลึกซึ้งของทุกคนได้ ถ้าเราไม่ได้คุย

เหมือนคนเชียงใหม่มีปัญหาอะไร คนกรุงเทพฯจะรู้ดีเท่าคนเชียงใหม่เหรอ…ก็ไม่ได้ เราถึงพยายาม customize ในเรื่องนโยบาย หรือ solution ในการแก้ปัญหาของแต่ละที่ แต่ละกลุ่ม เพราะพรรคเพื่อไทยต้องการคำตอบของภาพใหญ่ทั้งหมด ในการหาเสียงแลนด์สไลด์ เราให้ผู้สมัคร ส.ส. หรือผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ต้องเข้าไปคุยกับประชาชน ดูปัญหาจริง ๆ เพราะสุดท้ายเราก็มารวบรวมกันในการประชุมพรรคทุกสัปดาห์ พรรคก็ทำงานกันอยู่

และ 2 ปีที่ผ่านมาเราปรับตัวเยอะมาก เราไม่อยากถูกมองเป็นพรรคตั้งแต่สมัยก่อนเก่านานแล้ว ตอนนี้มีพลังของคนรุ่นใหม่เยอะมากที่จะเข้ามาทำงานในพรรค อย่างตัวอิ๊งอาจจะเป็นคนที่นำเสนอว่าเรามีการปรับตัวเยอะ ในเรื่องคนรุ่นใหม่ ที่เราจะมีความเข้าใจมากขึ้น ลดช่องว่างของคนหลาย ๆ Gen ให้มากขึ้น

2 ปีที่ผ่านมาจะเห็นว่าเราปรับตัวเยอะมาก เรื่องคน ความเข้าใจกันเองในพรรค เราทำได้ดีนะ…เอาจริง ๆ เรารู้สึกว่าได้รับความร่วมมือมากมาย

มีโรดแมปนำคุณทักษิณกลับบ้านอย่างไร

เอ่อ… นักโทษทางความคิด พวกคนที่ถูกข้อหาทางการเมือง อิ๊งว่าต้องผ่านกระบวนการที่ยุติธรรมก่อน ไม่ใช่แค่คุณทักษิณคนเดียว ที่ไม่ได้รับความยุติธรรมในเรื่องนี้ มันก็ต้องแก้ตรงนั้นก่อน แต่แน่นอนความเป็นลูก โรดแมปในใจคือพาใส่เครื่องบินแล้วกลับมานี่แหละ มันก็แค่นั้นเอง

อิ๊งเป็นลูกพ่อตั้งแต่เด็ก การที่…อยากให้เขามาอยู่ใกล้ ๆ การที่จะแค่พูดถึงเขามันก็เหนื่อย ก็คิดถึง

เคยมีความพยายามนิรโทษกรรมมาแล้วสมัยที่เคยเป็นรัฐบาล แต่ผิดคิว จะปรับปรุงแผนอย่างไร

นิรโทษกรรม มันพูดถึงมันเวิ้งทั้งหมด (ทำมือเป็นวงกลมประกอบ) แต่จริง ๆ มันต้องใช้เวลา case by case มีตั้งแต่นักโทษทางความคิดธรรมดา และมีเรื่องถึงอาชญากรรม ชีวิต มันต่างกันมาก มันต้อง analyze แบบ case by case ซึ่งนิรโทษกรรมถ้าใช้กับคนบางกลุ่มมันก็โอเค แต่กับบางกลุ่มมันก็ไม่ได้ อันนี้มากกว่าที่ต้องการความชัดเจน ว่า analyze แบบ case by case ไม่สามารถแบบเหมารวมได้ทั้งหมด เพราะมีรายละเอียดมากมาย ต้องออกแบบ แต่ก็คงต้องใช้เวลาและรายละเอียด อิ๊งคิดอย่างนั้นนะ ไม่ทราบว่าจะถูกผิดอย่างไร

แต่ของคุณพ่อเอง ท่านก็เข้าใจประมาณหนึ่งว่าไม่สามารถเหมารวมทั้งหมดได้

อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร
แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (ภาพเครือมติชน)

ประเทศไทยมีสิ่งที่เรียกว่าอำนาจที่มองไม่เห็นในการเปลี่ยนปรากฏการณ์ทางการเมือง ถ้าพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง และดีไซน์กระบวนการนิรโทษกรรมได้ เพียงพอหรือยังที่จะเป็นโรดแมปให้คุณทักษิณกลับบ้าน

ยากจัง…อิ๊งว่ามันต้องใช้อะไรมากกว่านั้นนะ บางเรื่องในการมองภาพตัวเองตอนนี้ก็อาจจะเกินความสามารถในการที่…เราเข้ามาผลักดันเรื่องนโยบายของพรรคแล้วแปลว่าเราผลักดันให้คุณทักษิณกลับมาได้ อิ๊งว่ามันไม่ได้ต่อเนื่องกัน

อิ๊งว่าคุณพ่อมีประสบการณ์ มีแนวทางของท่านที่จะตัดสินใจได้ว่าท่านจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร แต่อิ๊งขอเน้นไปที่พรรค เน้นไปที่เรื่องของประเทศ สำหรับอิ๊งเองให้เรื่องคุณพ่อ เป็นเรื่องทางใจของอิ๊ง เป็นเรื่องทางครอบครัวของอิ๊งแล้วกัน เราก็โฟกัสประเทศไป คุณพ่อจะกลับมาอย่างไร ก็เดี๋ยวว่ากัน

แต่ทุกวันนี้คือ ประเทศมากกว่าที่มีปัญหาบอบช้ำอย่างมากมาย

ถ้าคุณแพทองธาร มีตำแหน่งทางการเมืองก็ต้องทำทั้ง 2 ขา เรื่องบริหารจัดการประเทศ และกระบวนการยุติธรรม ที่พาคุณทักษิณกลับบ้าน จะทำอย่างไร

อันนั้น (กระบวนการยุติธรรม) ต้องถูกแก้อยู่แล้วนะคะ จะมีคุณทักษิณกลับมาหรือไม่ มันต้องถูกแก้อยู่แล้ว เพราะมันเป็นกระบวนการยุติธรรมที่มีปัญหา เหมือนกับเรียงลำดับความสำคัญ ถ้าสมมุติเพื่อไทยเป็นรัฐบาล พรรคเพื่อไทยก็ต้องเป็นตัวจัดตั้งในการแก้ปัญหา เรื่องกระบวนการยุติธรรมก็ต้องเป็นหนึ่งในนั้นแน่นอน ไม่ว่าอิ๊งจะเป็นแคนดิเดตนายกฯหรือไม่

ในยุคคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ คีย์เวิร์ด “แก้ไข ไม่แก้แค้น” ยุคคุณแพทองธาร จะมีหลักการทำงานอย่างไร

(ตอบกลับทันทีว่า) ทำไม…หน้าอิ๊งมันดูแบบแก้แค้น ไม่แก้ไข เหรอ (หัวเราะ) ยังคิดคำคล้องจองแบบนั้นไม่ได้ ถ้าจะอธิบายตัวเองก็เป็นคนตรง ๆ

แพทองธาร ชินวัตร
แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (ภาพเครือมติชน)

การที่คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ปรากฏตัว นักการเมืองในพรรคส่งสัญญาณกันว่า “แม่มาคือของจริง” ใช่มั้ย

มองหลักจิตวิทยาธรรมดา อิ๊งแค่คิดว่าเรามาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย มีคนเก่าคนแก่มากมาย มีคุณพ่อเป็นหัวหน้าพรรค คุณแม่ก็เป็นภรรยา ซึ่งการกลับมาได้เจอหน้ากันอีกครั้ง เพราะคุณแม่ไม่เคยโผล่หน้าทางการเมืองเลย 16 ปี ไม่มาจริง ๆ (เน้นเสียง) แล้วเขามา คนในพรรคเหมือนเห็นคนเดิม เป็นคำตอบทางใจ

เหมือนอิ๊งเอง เห็นแม่อิ๊งตอนพูดบนเวที ยังรู้สึกพูดไปยิ้มไปในขณะที่พูด ยังไม่มีอะไรซึ้งเลย มันดีต่อใจ เป็นเรื่องนี้มากกว่า ที่คนเก่าคนแก่ ดีใจได้เจอท่านอีก เพราะไม่ได้เจอคุณพ่อ แต่คุณแม่อยู่ เขาเห็นอิ๊งหน้าเหมือนพ่อก็ดีใจสุด ๆ แล้ว แต่แม่เนาะ เขามากับบารมีของเขา เขามากับการที่มีอายุแล้ว อยู่ตั้งแต่ไทยรักไทย

เพราะคุณหญิงพจมาน เป็นตำนานหรือเปล่า

ใช่มั้ย…เป็นคนที่เดินเข้ามาแล้วเป็นคนนั้น โห…เธอ คืออย่างนั้นเลย

ท่านเป็นตำนานทางการเมืองและมีวีรกรรมที่มองไม่เห็นหรือเปล่า

อื้ม…เหรอ ไม่ได้คิดถึงวีรกรรมที่มองไม่เห็นเหมือนกัน เพราะไม่ได้รู้สึกว่าคุณหญิงพจมานทำอะไร แค่คุณหญิงเขาเป็นคนอบอุ่น

บุคคลมีบารมีไม่ต้องทำอะไร

จริงค่ะ คุณหญิงเป็นคนอบอุ่น แค่เห็นหน้าท่าน อิ๊งก็สบายใจแล้ว เขาไม่ต้องพูดอะไรเลย

ระหว่างหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กับ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยอันไหนมีศักดิ์ศรี บารมีกว่ากัน

เอาย่างนี้ดีกว่า ถ้าเนื้องานท่านเป็นหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านอยู่แล้ว รู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในการเมืองตอนนี้อย่างละเอียด อิ๊งตอบไม่ได้ละเอียดเท่าแน่นอน ส่วนอิ๊งจะลุยในเรื่องหัวหน้าครอบครัวคือเข้าไปสื่อสารกับประชาชน หาเสียง ลดเส้นพี่น้องประชาชนกับพรรคการเมือง ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมได้มากขึ้น ส่วนหัวหน้าพรรค ก็ไปสื่อสารในรูปแบบของทางพรรค กฎหมาย นโยบายต่างๆ จะเน้นกว่า

แต่เวลาไปสัมภาษณ์ที่ไหน ถ้าคุณหมอชลน่าน ศรีแก้ว ไปด้วยก็เป็นภาพที่เรารู้สึกว่าเราทำงานด้วยกัน ทำงานควบคู่กันไป  เราทำงานเป็นทีมอยู่แล้ว แค่อยากตั้งหัวหน้าครอบครัวขึ้นมาให้ชัดเจนว่าคนนี้เป็นคนคุยกับประชาชน ว่าอยากจะทำอะไรเปลี่ยนแปลงให้ประเทศ แบ่งหน้าที่กันไป แต่หัวหน้าพรรคตอนนี้ทำงานหนักกว่าเยอะ

ขอถามเรื่องจุดยืนประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

จริง ๆ ไม่ต้องมาตรา 112 ทุก ๆ เรื่องที่ถก ๆ กันมันต้องผ่านกระบวนการของสภา ให้เป็นหลักนั้นดีกว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต้องอยู่ในหลักที่ต้องผ่านกระบวนการ ถ้าคุยกันแล้วจะต้องแก้ไขอย่างไร หรือต้องทำอย่างไรก็ต้องผ่านระบบสภา

ต้องแก้ไขมาตรา 112 ใช่หรือไม่

ต้องคุยกัน ต้องคุยกันว่าตัวบทกฎหมายมีปัญหาหรือเปล่า เพื่อจะตกลงกันว่าจะเอาอย่างไร

ประเมินปรากฏการณ์การใช้มาตรา 112 เวลานี้อย่างไร


จริง ๆ แล้วกฎหมายมีมานานมาก แต่ถ้าเรามาดูหลังรัฐประหารที่เกิดขึ้น จำนวนที่ถูกฟ้องด้วยข้อหา 112 เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ปัญหาอยู่ตรงไหนกันแน่ มันไม่ใช่ว่าจู่ ๆ ถูกใช้มาเรื่อย ๆ ในสังคมไทย แต่มันเพิ่งเกิดขึ้น แล้วเกิดขึ้นมากมายขนาดนี้ มันคือปัญหามากกว่า เป็นสิ่งที่น่าคิด