ออกเดินทางวันนี้ นายกฯเศรษฐาเยือนจีน ต่อไปประชุมซาอุดีอาระเบีย

นายกฯ เศรษฐา เยือนจีน ต่อไปซาอุดีอาระเบีย

นายกรัฐมนตรีออกจากประเทศไทยแล้วบ่ายวันนี้ อยู่ต่างประเทศ 6 วันรวด เยือนจีน ประชุมเวทีเส้นทางสายไหมใหม่ 16-19 ต.ค. เดินทางต่อไปซาอุดีอาระเบีย ขึ้นเวทีประชุมคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ

วันที่ 16 ตุลาคม 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการเดินทางไปประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Forum for International Cooperation : BRF) ครั้งที่ 3 ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน และการประชุมสุดยอดอาเซียนคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (ASEAN-GCC Summit) ครั้งที่ 1 ที่ซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 16-22 ตุลาคม 2566

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จะใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวพูดคุยขอความช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอลที่ต้องการจะเดินทางไทยด้วย และอย่างที่ทราบกันดีต้องอาศัยการทูต ทั้งช่องทางที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ ซึ่งในโอกาสที่จะพบผู้นำหลายประเทศครั้งนี้จะมีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ และเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้นำประเทศทุกคนให้ความสำคัญ และเป็นห่วงเป็นใยจริง ๆ อยากให้ทุกอย่างจบได้ด้วยดี นอกจากนี้ ยังเป็นเรื่องของการค้าและทางการทูตอีกหลายอย่างที่เรามีแผน ตารางแน่นเอี้ยด

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเดินทางไปจีนครั้งนี้ จะมีโอกาสพูดคุยถึงการจัดซื้อเรือดำน้ำที่ยังมีปัญหาอยู่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า มี จะไปคุยเรื่องนี้ด้วย และหวังว่าจะได้คุย ตอนนั้นไปประชุมสมัชชาประชาชาติที่สหรัฐอเมริกา ก็นึกว่าจะมีข้อสรุป ก็ไม่อยากที่จะให้คาดหวังเกินไป เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จะต้องบริหารจัดการที่ดี แต่ยืนยันว่าเป็นปัญหาที่จะต้องมีการแก้ไขอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้จะพูดคุยเพื่อหาทางออกให้ทุกฝ่ายยอมรับได้ เอาแบบนี้ดีกว่า เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และเป็นปัญหาคาราคาซังมานาน อยากให้หาซื้อมาแล้วต้องใช้ได้ ไม่เป็นเรือดำน้ำจะแลกเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้หรือไม่ เป็นเรือเหนือน้ำหรือไม่ แต่ต้องตอบโจทย์ทางกองทัพเรือให้ได้ด้วย หากเป็นเรือเหนือน้ำก็ต้องเสริมศักยภาพทางด้านการทะเลของกองทัพเรือด้วยเหมือนกัน ย้ำว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องพูดคุยกัน หวังว่าจะหาข้อสรุปได้

Advertisment

เมื่อถามว่า รถไฟความเร็วสูง จะทำต่อกับประเทศจีนหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าจะมีการประกาศเรื่องรถไฟความเร็วสูงหรือไม่ แต่จะมีการพูดคุยในรายละเอียด เพราะเรื่องโลจิสติกส์เป็นเรื่องสำคัญในการที่จะดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศเข้ามา ตนจึงได้เกริ่นในเรื่องแลนด์บริดจ์ เพราะรถไฟความเร็วสูงไม่ใช่ทางออกทั้งหมด เป็นส่วนหนึ่งของทางออก ดังนั้น เราต้องมีทางออกทั้งหมด

เมื่อถามถึงกรณีที่ไม่สามารถบินผ่านเส้นทางของซาอุดีอาระเบียได้ การเดินทางไปเยือนครั้งนี้จะใช้โอกาสพูดคุยขอความช่วยเหลือในเรื่องนี้หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เป็นข้อเสนอแนะที่ดี และคิดว่าคงต้องคุย โดยตนจะได้เจอเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย คงจะได้เจรจากันหลายเรื่อง

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เวลา 13.00 น.วันนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีกำหนดการเดินทางออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อไปเข้าร่วมการประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Forum for International Cooperation : BRF) ครั้งที่ 3

เป็นการเดินทางตามคำเชิญของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมถึงจะเดินทางต่อไปยังกรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (ASEAN-GCC Summit) ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 16-21 ตุลาคม 2566

Advertisment

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในส่วนของการเข้าร่วมการประชุม BRF ซึ่งเป็นการประชุมที่รัฐบาลจีนให้ความสำคัญนั้น จะเป็นโอกาสให้นายกรัฐมนตรีเพิ่มความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนจีน และทั่วโลก ในด้านความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจของไทย โครงสร้างพื้นฐาน ดิจิทัล และการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ในการเดินทางครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการพบหารือกับผู้นำและบุคคลสำคัญหลายท่านของจีน ได้แก่ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน และนายจ้าว เล่อจี้ ประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านระหว่างไทย-จีนให้แน่นแฟ้น และได้เสริมสร้างความร่วมมือที่ใกล้ชิด ทั้งด้านการค้า การลงทุน ความเชื่อมโยง และความสัมพันธ์ระดับประชาชน

ส่วนการเดินทางเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (ASEAN-GCC Summit) ครั้งที่ 1 ณ กรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์อาเซียน และ GCC ซึ่งมีสมาชิก ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน กาตาร์ คูเวต และโอมาน

ในเวทีดังล่าว นายกรัฐมนตรีจะได้หารือถึงแนวทางในการส่งเสริมความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม ทั้งเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของทั้งสองภูมิภาค ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะเน้นผลักดันความร่วมมืออาเซียน-GCC และไทย-GCC ที่สำคัญ ได้แก่ เรื่องการค้าการลงทุน การพัฒนาที่ยั่งยืนและวาระสีเขียว รวมทั้งกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของทั้งสองภูมิภาค

เปิดคิวการทูต เศรษฐาเยือนจีน-ซาอุดีอาระเบีย เปิดดีลยักษ์ธุรกิจ