แอสตร้าเซนเนก้า ทำไมถูก สหภาพยุโรป ยื่นฟ้องอีกครั้ง ?

แอสตร้าถูกอียูยืนฟ้อง

ทนายของแอสตร้าเซนเนก้าและสหภาพยุโรป มีกำหนดขึ้นศาลในวันนี้ กรณีสหภาพยุโรปยื่นฟ้องแอสตร้าเซนเนก้าเรื่องไม่ส่งวัคซีนตามจำนวนที่ทำข้อตกลงไว้ 

วันที่ 26 พฤษภาคม 2564  “สหภาพยุโรป” ยื่นฟ้อง “แอสตร้าเซนเนก้า” อีกครั้งในวันนี้ หลังจากเคยยื่นฟ้องครั้งแรกเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยทนายความของทั้ง 2 ฝ่าย มีกำหนดขึ้นศาลในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมในวันนี้

อียูต้องการอะไร?

อียูเผยว่า อียูเพียงต้องการวัคซีนตามจำนวนที่แอสตร้าเซนเนก้าสัญญาไว้ คือ 300 ล้านโดส ภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งชัดเจนแล้วว่าเป็นสิ่งที่จะไม่เกิดขึ้น ขณะที่ทนายความของแอสตร้าฯเผยว่า บริษัทตั้งเป้าจะจัดส่งวัคซีนจำนวน 1 ใน 3 ให้อียู แต่ทางอียูเรียกร้องให้จัดส่งวัคซีนจำนวน 120 ล้านโดส

“สิ่งที่เรายืนกรานคือการจัดส่งวัคซีนในจำนวนที่เพียงพอ” สเตฟาน เดอ เคียร์สเม็คเกอร์ โฆษกด้านสาธารณสุขของคณะกรรมาธิการยุโรป เผยระหว่างการแถลงข่าวเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

การยื่นฟ้องครั้งนี้ แตกต่างอย่างไรกับครั้งแรก?

เคียร์สเม็คเกอร์เผยว่า การยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา เป็นการดำเนินคดีอย่างรวบรัด ซึ่งเป็นรูปแบบทางเลือกในการดำเนินคดี ที่เน้นการตัดสินทางกฎหมายอย่างรวดเร็ว ในคดีนี้ทนายความของคณะกรรมาธิการยุโรปกำลังขอให้ศาลเบลเยียมรับรู้ถึงความเร่งด่วนของสถานการณ์วัคซีนในสหภาพยุโรป และออกคำสั่งให้แอสตร้าเซนเนก้าส่งมอบวัคซีนให้ครบทันที

ส่วนคดีที่มีการยื่นฟ้องล่าสุดก็เรียกร้องในสิ่งเดียวกัน แต่ขอให้ศาลตรวจสอบความชอบธรรมของคดี และตัดสินว่าข้อตกลงระหว่างอียูกับแอสตร้าเซนเนก้านั้นถูกละเมิดหรือไม่

คดีนี้อาจนำไปสู่การเสียค่าปรับ แม้อียูจะยืนยันว่าเป้าหมายหลักไม่ใช่การลงโทษแอสตร้าเซนเนก้า อย่างไรก็ตาม อียูหวังว่าการขู่เรื่องค่าปรับจะกระตุ้นความพยายามในการผลิตวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าได้

เคียร์สเม็คเกอร์ เผยว่า เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ ไม่เพียงการดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนและสั่งให้บริษัทส่งมอบวัคซีน แต่ยังรวมถึงการจ่ายค่าปรับ หากบริษัทไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล

คำตอบของแอสตร้าเซนเนก้า

เกี่ยวกับคำร้องของอียู ทางแอสตร้าเซนเนก้าไม่ได้ตอบคำถามสื่อในทันที แต่ทนายความของบริษัทกล่าวในศาลว่า คดีที่ 2 นั้น ไม่จำเป็น เพราะมีการดำเนินการทางกฎหมายไปแล้ว ตั้งแต่อียูยื่นฟ้องครั้งแรกเมื่อช่วงปลายเดือนเมษายน พร้อมระบุว่า คดีนี้ไม่มีความชอบธรรม และทางบริษัทจะปกป้องตัวเองอย่างเต็มกำลังในศาล

แอสตร้าเซนเนก้ายืนยันมานานแล้วว่า ไม่ได้ละเมิดสัญญาที่ทำกับอียู เนื่องจากบริษัทแค่ให้สัญญาว่าจะ “พยายามอย่างสมเหตุสมผลที่สุด” เพื่อดำเนินการตามข้อตกลง นอกจากนี้แอสตร้าเซนเนก้ายังระบุด้วยว่า บริษัทประสบปัญหาหลายอย่างในการผลิต รวมถึงข้อจำกัดในการส่งออก ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำหนดการส่งมอบวัคซีน

สัญญาระหว่างแอสตร้าเซนเนก้ากับอียู

สัญญาที่แอสตร้าเซนเนก้าลงนามกับคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารของอียู คาดการณ์ว่าจะมีการจัดส่งวัคซีน 300 ล้านโดส ให้กับ 27 ประเทศสมาชิกอียู และเพิ่มอีก 100 ล้านโดสในอนาคต คาดว่าแอสตร้าเซนเนก้าจะส่งมอบวัคซีนทั้งหมดให้ตลอดปี 2564 แต่ปรากฏว่ามีการส่งวัคซีนให้เพียง 30 ล้านโดส ในไตรมาสแรกเท่านั้น

คณะกรรมาธิการยุโรปเผยว่า มีการส่งมอบวัคซีนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตั้งแต่นั้นมา โดยทางแอสตร้าเซนเนก้ามีกำหนดส่งมอบวัคซีนเพียง 70 ล้านโดส ในไตรมาสที่ 2 จากที่สัญญาไว้ 180 ล้านโดส

การขึ้นศาลครั้งล่าสุด

นายราฟาเอล จาฟเฟอราลี ทนายความอียู กล่าวกับศาลว่า ตอนนี้ทางแอสตร้าเซนเนก้า คาดว่าจะส่งวัคซีนทั้งหมดให้อียูภายในสิ้นเดือนธันวาคม ซึ่งถือว่าล่าช้ากว่ากำหนด 6 เดือน ถือเป็นความล้มเหลวอย่างเห็นได้ชัด

เขาได้ขอให้ศาลปรับแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเงิน 10 ล้านยูโร หรือราว 382 ล้านบาท จากการที่บริษัทละเมิดสัญญา และให้ศาลสั่งให้แอสตร้าเซนเนก้าจ่ายเงิน 10 ยูโร ต่อโดสต่อวัน เพื่อชดเชยที่ละเมิดสัญญาที่ทำไว้กับอียู

ข้อโต้แย้งหลักของเขาคือ แอสตร้าเซนเนก้าควรใช้สถานที่ผลิตในอียูและอังกฤษ เพื่อผลิตวัคซีนให้อียู ตามสัญญาที่ระบุว่า จะพยายามอย่างสมเหตุสมผลที่สุด เขากล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า คณะกรรมาธิการยุโรปตกลงที่จะจ่ายเงิน 870 ล้านยูโร หรือราว 33,251 ล้านบาท สำหรับค่าวัคซีน

ทนายยังบอกด้วยว่า วัคซีนจำนวน 50 ล้านโดส ที่ควรจะถูกส่งถึงอียู ได้ถูกส่งไปยังประเทศที่สามแทน ซึ่งถือเป็นการละเมิดสัญญาของทั้งสองฝ่าย

นายชาร์ล เอดูอาร์ด แลมเบิร์ต ทนายอีกคนของอียู กล่าวว่า แอสตร้าเซนเนก้าตัดสินใจสำรองการผลิตที่ออกซฟอร์ด เพื่อผลิตวัคซีนให้อังกฤษ

“นี่เป็นเรื่องร้ายแรงอย่างยิ่ง แอสตร้าเซนเนก้าไม่ได้ใช้ทุกวิถีทางเพื่อการจัดการของบริษัท เป็นการปฏิบัติสองมาตรฐานระหว่างอังกฤษกับประเทศสมาชิก” นายแลมเบิร์ดกล่าว

อียูยังคงกล่าวหาบริษัทว่าทำให้เข้าใจผิด ด้วยการให้ข้อมูลที่ขาดความชัดเจนเกี่ยวกับความล่าช้าในการจัดส่งวัคซีน

ด้านนายจาฟเฟอราลี กล่าวว่า ข้อมูลจากแอสตร้าเซนเนก้าไม่ได้ช่วยให้เราเข้าใจสถานการณ์ในช่วงก่อนกลางเดือนมีนาคม

อียูยืนยันว่ามีปัญหากับแอสตร้าเซนเนก้าในเรื่องการจัดส่งวัคซีนเท่านั้น พร้อมกับย้ำว่าไม่ได้มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยหรือคุณภาพของวัคซีนเลย เนื่องจากวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าได้รับการอนุมัติจากองค์การยาแห่งยุโรป ซึ่งเป็นหน่วยงานควบคุมยาของอียู

ขณะที่อียูยืนยันว่าแอสตร้าเซนเนก้าละเมิดข้อผูกพันตามสัญญา ทางบริษัทผู้ผลิตแอสตร้าเซนเนก้าโต้ว่าได้ปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างสมบูรณ์ โดยอ้างว่าวัคซีนผลิตได้ยาก และได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อส่งมอบวัคซีนให้ตรงเวลา

ทั้งนี้ อียูได้ลงทุน 2,700 ล้านยูโร ราว 1 แสนล้านบาท เพื่อจัดหาวัคซีน ซึ่งรวมถึงการให้เงินทุนในการผลิตวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าใน 4 โรงงาน จำนวน 336 ล้านยูโร หรือราว 12,842 ล้านบาท