สินมั่นคง แถลงต่อศาลสัปดาห์หน้า ยืนยันจ่ายสินไหมน็อนโควิดตามปกติ

คปภ. เรียก สินมั่นคงประกันภัย ถกแนวทางแผนจ่ายเคลม-ดำเนินธุรกิจ ตีความชัดจ่อแถลงต่อศาลสัปดาห์หน้า ยืนยันจะจ่ายสินไหมน็อนโควิดตามปกติ

วันที่ 21 พฤษภาคม 2565 แหล่งข่าวสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า คปภ.เน้นย้ำสินมั่นคงประกันภัยต่อแผนฟื้นฟูกิจการ ต้องคำนึงการคุุ้มครองสิทธิผู้เอาประกันเป็นสำคัญ และให้คำแนะนำไปว่าการดำเนินการตามแผนควรจะต้องคงจำนวนเงินเอาประกันตามกรมธรรม์ไว้ก่อน เว้นแต่ที่ประชุมเจ้าหนี้จะตกลงเป็นอย่างอื่น หรือศาลเห็นสมควรสั่งเป็นอย่างอื่น อย่ามุ่งไปตัดหนี้(Hair Cut) เลยทันที

ทั้งนี้ จากการที่ศาลล้มละลายฯได้มีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทสินมั่นคงประกันภัย มีผลทำให้เกิดสภาวะการพักชำระหนี้ทุกกรณี เว้นแต่เป็นการดำเนินธุรกิจตามปกติ (ตามกฎหมายล้มละลายระบุไว้) ซึ่งตอนนี้อยู่ที่การตีความว่าอะไรคือการดำเนินธุรกิจตามปกติ

ดังนั้น คปภ.ไม่อยากให้สินมั่นคงตีความไปเอง เมื่อวันที่ 20 พ.ค.65 ที่ผ่านมา จึงได้เรียกสินมั่นคงประกันภัยเข้ามาพูดคุยถึงแนวทางการจ่ายเคลมและแผนการดำเนินธุรกิจหลังจากนี้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้เอาประกันภัยน็อนโควิด ซึ่งได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า

“ทางสินมั่นคงประกันภัยตีความว่าการค้าอื่นหมายถึงการประกันภัยประเภทอื่นๆ ที่ไม่ใช่ประกันภัยโควิด ยืนยันว่าจะจ่ายสินไหมทุกอย่างตามปกติ เพราะยังต้องการจะดำเนินธุรกิจต่อไป โดยสินมั่นคงประกันภัยจะไปแถลงต่อศาลฯ ภายในสัปดาห์หน้า หากศาลไม่โต้แย้งก็ถือว่าจบ ซึ่งทาง คปภ.ก็มองว่ามีความเป็นไปได้ที่ศาลจะเห็นชอบ”

ด้านแหล่งข่าวสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า ถ้าศาลฯไม่เห็นชอบคาดว่าจะสร้างความเดือดร้อนแก่บริษัทประกันอื่นด้วย และลูกค้า nonCOVID ของสินมั่นคงฯที่เกิดเคลมในช่วงนี้ เพราะอยู่ในนิติบุคคลเดียวกัน โดยเฉพาะการประกันภัยรถยนต์ หากลูกค้าประกันรถของสินมั่นคงฯเกิดชน ต้องนำรถเข้าอู่ซ่อม ทางอู่อาจจะไม่รับซ่อมเพราะกลัวเบิกเงินเคลมจากบริษัทไม่ได้

ส่วนกรณีรถที่ทำประกันสินมั่นคงฯ ชนรถที่ทำประกันกับบริษัทอื่น ประกันคู่กรณีก็จะต้องไปเรียกร้องจากสินมั่นคงฯ หลังจากซ่อมรถให้ลูกค้าแล้ว ก็จะเกิดหนี้ระหว่างกัน ซึ่งบริษัทประกันก็ต้องไปเรียกเงินจากสินมั่นคงฯ ถ้าเรียกได้ก็จบ แต่ถ้าไม่ได้ต้องดูเงื่อนไข หรือสุดท้ายอาจจะเป็นหนี้สูญไปเลย

แหล่งข่าวดีลเลอร์รถยนต์รายใหญ่ใน กทม.เปิดเผยว่า กรณีที่สินมั่นคงฯได้รับความคุ้มครองในการพักชำระหนี้ ทำให้ตอนนี้ทั้งอู่สีและศูนย์บริการรถหลาย ๆ ค่าย ปฏิเสธการรับเคลมรถที่ทำประกันกับสินมั่นคงฯ เพราะเกรงว่าจะไม่สามารถเรียกเก็บค่าซ่อมจากบริษัทได้

“อย่างไรก็ตาม ถ้ารถประกันสินมั่นคงฯเป็นฝ่ายถูก และคู่กรณีเป็นประกันภัยค่ายอื่นที่ไม่ใช่สินมั่นคงฯ หรืออาคเนย์ฯ ก็พร้อมเคลมให้เพราะเชื่อว่าในกรณีนี้จะสามารถเรียกเก็บค่าซ่อมได้ แต่ก็มีหลายศูนย์เลือกไม่รับเคลมเพื่อป้องกันปัญหาที่ตามมา”

นายสมศักดิ์ ศรีรัตนประภาส ประธานบริหารบีอาร์จีกรุ๊ป ผู้นำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศรายใหญ่ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรณีลูกค้าสินมั่นคงฯตอนนี้ปฏิเสธการซ่อมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผิดหรือถูก แต่ถ้าลูกค้ายอมสำรองจ่ายก็พอให้บริการ โดยจะจัดเตรียมเอกสารต่าง ๆ ไว้ให้เพื่อลูกค้าไปดำเนินการเรียกร้องค่าสินไหม หรือค่าซ่อมต่อจากบริษัทเอง

“เพราะเคลมเก่ายังค้างจ่ายอยู่ระดับหนึ่ง ตอนนี้คงต้องบอกกับลูกค้าตรง ๆ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เข้าใจ”

สำหรับเบี้ยประกันรับของสินมั่นคงปี 2564 มีมูลค่า 10,215 ล้านบาท โดยมาจากเบี้ยประกันภัยรถยนต์ 8,144 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยเบ็ดเตล็ด (รวมเจอ-จ่าย-จบ) 1,859 ล้านบาท เบี้ยประกันอัคคีภัย 187 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยทางทะเลและขนส่ง 26 ล้านบาท

ทั้งนี้ งบการเงินงวดไตรมาส 1/65 สินมั่นคงประกันภัยยังไม่ได้นำส่งตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยนายเรืองเดช ดุษฎีสุรพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ SMK ชี้แจงว่า เนื่องจากจำนวนเคลมสินไหมทดแทนโควิด ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน 2565 มีปริมาณมากและสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ บริษัทจำเป็นต้องใช้เวลาเพิ่มเติมในการตรวจสอบข้อมูลเพื่อให้การแสดงรายการและการเปิดเผยข้อมูลในงบการเงินของบริษัทมีความครบถ้วนถูกต้อง

ส่งผลให้บริษัทจำเป็นต้องจัดส่งงบการเงินล่าช้ากว่ากำหนด ดังนั้น บริษัทจึงขอเลื่อนการนำส่งงบการเงินสำหรับงวด 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565 ออกไป โดยบริษัทจะเร่งดำเนินการนำส่งงบการเงินดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยเร็วที่สุด หากมีความคืบหน้าประการใดเพิ่มเติม บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบต่อไป