คอลัมน์ ชั้น 5 ประชาชาติ
โดย ประเสริฐ จารึก
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
เปิดฉากเริ่มต้นอย่างสวยงาม แต่ดูเหมือนตอนนี้จะกลายเป็น “หนังชีวิต” ไปเสียแล้ว
โครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ “บางใหญ่-กาญจนบุรี
โปรเจ็กต์มาสเตอร์พีซของรัฐบาล คสช.
ยังไม่รู้ฉากจบจะแฮปปี้หรือเป็นเรื่องเศร้าเคล้าน้ำตา
เพราะยังมีผู้ถูกเวนคืนในพื้นที่ “นครปฐม-นนทบุรี” กว่า 3,000 ราย ที่ถูกลอยแพ ยังไม่ได้เงินชดเชยจากรัฐ
หลังรอมา 2 ปี ถึงขณะนี้ก็ยังไร้วี่แววและมีทีท่าจะลากยาวข้ามปี
รอสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่าที่ “กรมทางหลวง” กำหนดค่าเวนคืน
โดยใช้คู่มือการกำหนดเงินค่าทดแทนตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ 2530
นำราคาที่เสนอขายหรือประกาศขายที่ดินมาใช้อ้างอิงในการกำหนดค่าตอบแทน สอดคล้องตามมาตรา 21 ของ พ.ร.บ.เวนคืนฯหรือไม่
หลัง “สำนักงบประมาณ” ผู้จัดสรรเงิน ไม่มั่นใจกับค่าเวนคืนที่เพิ่มขึ้น 14,217 ล้านบาท จาก 5,420 ล้านบาทเป็น 19,637 ล้านบาท เลยยังไม่กล้าเซ็นอนุมัติ
ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้กรมทางหลวงต้องหอบหลักฐานพิสูจน์
และทำทุกหนทางเพื่อให้โครงการได้ไปต่อ แม้กระทั่งขอให้ผู้รับเหมาจ่ายค่าเวนคืนไปก่อน แล้วมาตกเบิกภายหลัง เพื่อให้เข้าพื้นที่ก่อสร้างได้
แต่ด้วยวงเงินที่สูง จึงไม่มีใครกล้าเสี่ยงตีเช็คให้
ขณะเดียวกันก็พยายามลดวงเงินก่อสร้างโครงการเพื่อโปะค่าเวนคืน ลดลงได้ร่วม 2,000 ล้านบาท
ทำให้ยอดค่าเวนคืนที่จะขอขยายกรอบวงเงินจากคณะรัฐมนตรีเหลืออยู่ที่ประมาณ 17,000 ล้านบาท
แต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายต้องส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ “ราคาที่ดิน” ที่เพิ่ม 10-15 เท่าไม่ใช่ “ราคาเทียม” อย่างที่หลายคนกังวล
ถ้าผลตีความออกมาว่าไม่สอดคล้อง กรมทางหลวงต้องยกเลิกราคาเดิม เริ่มนับหนึ่งกันใหม่
ถ้าหวยออกแบบนี้ น่าจะเป็นหนังม้วนยาวฉายยุค “รัฐบาลบิ๊กตู่ 2” ดูกันข้ามปีเลยทีเดียว
เพราะต้องทำตาม พ.ร.บ.เวนคืนฉบับใหม่อีกหลายขั้นตอน
เริ่มจากกระทรวงคมนาคมต้องออกกฎกระทรวงมารองรับ เพื่อตั้งคณะกรรมการกำหนดราคาใหม่ ถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการยกร่าง
โครงการมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติโครงการ ด้วยวงเงินลงทุน 55,620 ล้านบาท เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2558
กรมทางหลวงเปิดประมูลปี 2559 จำนวน 25 สัญญา
ณ ปี 2562 สร้างเสร็จแล้ว 1 ตอน คือ ช่วงปลายทางที่กาญจนบุรี
ยังเหลือ 1 สัญญายังไม่ได้ลงนาม เป็นงานสัญญาในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี
ล่าสุดได้ผู้รับเหมาเป็นบริษัทของนักการเมืองตระกูลดังในรั้วทำเนียบ ที่ชนะประมูลด้วยวงเงินกว่า 1,000 ล้านบาท
ตอนนี้สำนักงบประมาณยังไม่อนุมัติ รอผลตีความค่าเวนคืนจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สัญญาอื่น ๆ ที่เหลือยังเข้าพื้นที่ก่อสร้างไม่ได้ กระจายไปตลอดแนวเส้นทาง 96 กิโลเมตร
ถึงคิวสิ้นสุดสัญญาในเดือนกันยายน-พฤศจิกายน 2562 มีประมาณ 4-5 สัญญา
โดยกรมทางหลวงจะยกเว้นค่าปรับและขยายอายุสัญญาให้อีกอย่างน้อย 2 ปี
เพราะเป็นเหตุสุดวิสัย เกิดจากรัฐไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างให้ได้
ซึ่งผู้รับเหมามีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ แต่จะมีปัญหาตามมาภายหลังอีกเพียบ
ทั้งค่าก่อสร้างที่เบิกไปแล้วล่วงหน้า 15% ค่างานเพิ่มขึ้นจะทำยังไง
จับพลัดจับผลูกลายเป็นข้อพิพาทฟ้องร้องกันอีก
หนทางเดียว คือ ต้องกัดฟันสร้างให้เสร็จกันต่อไป
จากปัญหาค่าเวนคืน กระทบชิ่งทุกส่วน
งานก่อสร้างโครงการ จากปี 2559-2562 คืบหน้าอยู่ที่กว่า 32.5% ล่าช้าจากแผนงานร่วม 2 ปี คาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 2565
ขณะเดียวกันก็ฉุดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2562 ของกรมทางหลวงต่ำเป้า
ต้องโยกงบประมาณ 5,000 ล้านบาท ที่เตรียมจะจ่ายค่าเวนคืนโครงการนี้ไปจ่ายค่าอุทธรณ์มอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช และขอกันบางส่วนไปจ่ายค่าเวนคืนบางใหญ่-กาญจนบุรี ในปีงบประมาณ 2563 แทน
ด้านกลุ่ม BGSR นำโดย “บีทีเอส-กัลฟ์ฯ-ซิโน-ไทยฯ-ราชกรุ๊ป” ที่ชนะประมูลงานระบบเก็บค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์สายนี้ก็ขอยังไม่วางแบงก์การันตี จนกว่าจะเคลียร์เวนคืนเสร็จ
ทางผู้ถูกเวนคืนยิ่งเดือดร้อนหนัก เพราะไม่รู้ต้องรออีกกี่วันกี่ปีจะได้ค่าชดเชย เพื่อไปซื้อที่อยู่ใหม่
ยิ่ง “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่ ฮึ่ม ๆ ให้ตรวจสอบราคาที่ดินว่ามีการสร้างราคาเทียมอย่างที่ได้ยินได้ฟังมาจริงหรือไม่ ถ้ามีจริงเท่ากับเป็นการทุจริต
น่าสงสารกรมทางหลวง ผู้ถูกเวนคืน และผู้รับเหมา
Thailand only !