ไฟท้ายดับ ชีวิตดับ

คอลัมน์ ชั้น 5 ประชาชาติ

โดย อมร พวงงาม

หลายปีมาแล้วที่ผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์ พยายามชี้ให้เห็นความสำคัญของไฟท้าย

เนื่องจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นตามท้องถนน จากสาเหตุมอเตอร์ไซค์ไฟท้ายไม่ติดมีมากขึ้นเรื่อย ๆ

ยิ่งในพื้นที่ต่างจังหวัด พบบ่อยมาก บ่อยกว่าในเมืองหลวงเป็นสิบ ๆ เท่า

เพราะบ้านนอกเรา เวลามืดต้องบอกว่ามืดมาก และถ้าเป็นคืนเดือนมืด

แทบมองอะไรไม่เห็นเลยละครับ

เรื่องเตือนให้ผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ตรวจตราอุปกรณ์ใช้งาน

โดยเฉพาะ “ไฟท้าย” ว่ายังติดดีอยู่รึป่าว ผมว่าทั้งภาครัฐและเอกชน

ตอกย้ำเตือนกันมาหลายสิบปี

แต่ทุกวันนี้เรายังเห็นมอเตอร์ไซค์ไม่มีไฟท้าย (ล้มแตกหัก) หรือไฟท้ายไม่ติด วิ่งกันเกลื่อนเมือง

จะไปโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่กวดขันจับกุมคงไม่ตรงจุดซะทีเดียว

อย่างแรก ผู้ขับขี่ต้องมีสำนึก

ผมเคยเตือนเพื่อน พี่ น้อง หลายคน ที่ใช้มอเตอร์ไซค์

“เฮ้ย…อันตรายมากนะไม่มีไฟท้ายอ่ะ”

ส่วนใหญ่มักสวนกลับมาว่า ไม่เห็นเป็นไร…ไฟด้านหน้ายังติด

ประเด็นนี้นับเป็นความเข้าใจผิดใหญ่หลวงมาก

คนขี่มอเตอร์ไซค์ส่วนใหญ่อาจไม่เคยขับรถยนต์ จึงมักเข้าใจว่ายังไงรถยนต์ต้องมองเห็น

หรือมีข้อโต้แย้งว่า ไกลหน่อยอาจเห็นลาง ๆ แต่พอเข้ามาใกล้ ๆ อย่างไงก็ต้องเห็นแน่นอน

ตรงนี้เขาใช้ความรู้สึกขณะที่ตัวเองขับขี่มอเตอร์ไซค์ แต่ลืมนึกไปว่า

รถยนต์ที่วิ่งตามหลัง บางคันวิ่งด้วยความเร็วสูงมาก

และถนนในต่างจังหวัด ส่วนใหญ่ที่เกิดอุบัติเหตุเป็นถนนสายรอง 2 ช่องทางวิ่งสวนเลน

ลองนึกตามดูนะครับ มอเตอร์ไซค์ถึงจะมีไฟหน้าแต่ไม่มีไฟท้ายวิ่งไปตามถนน

รถยนต์วิ่งตามหลัง แถมมีรถยนต์ฝั่งตรงข้ามวิ่งสวนมาอีก

เบลอไปหมดละครับ ! ทั้งมืดแถมยังมีไฟรถฝั่งตรงข้ามแยงตาอีก

พอมาเห็นมอเตอร์ไซค์ด้านหน้าระยะก็กระชั้นชิดเกินไป หยุดรถไม่ทันแน่นอน

บาดเจ็บล้มตายกันเป็นจำนวนมาก

ผู้ประกอบการจักรยานยนต์ในบ้านเราเกือบทุกยี่ห้อ พยายามเข้ามาช่วยลดปัญหานี้

สนับสนุนให้เจ้าของมอเตอร์ไซค์ ไม่ว่าจะยี่ห้อไหนก็ตาม นำมาเปลี่ยนได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

ฟรีไม่เก็บ “ตังค์” ด้วยครับ

ปีนี้ก็เช่นกันมีให้โควต้าเปลี่ยนถึง 5 หมื่นดวง

ยิ่งช่วงเทศกาลวันหยุดยาวอยากให้เร่งมือทำให้เรียบร้อย

ถึงแม้ว่าปีนี้สงกรานต์จะไม่ประกาศเป็นวันหยุด ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา ด้วยความพยายามป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

คุณกฤติยา ศรีสนิท ซีอีโอด้านธุรกิจสินเชื่อ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา บอกว่าปีนี้ทำกิจกรรมร่วมกับ 12 แบรนด์มอเตอร์ไซค์ชั้นนำ ทั้งฮอนด้า, ยามาฮ่า, ซูซูกิ, คาวาซากิ, เวสป้า, จีพีเอ็กซ์, เบเนลลี่, สตาเลียน, ริวก้า, ลีฟาน, ฮันเวย์, และแลมเบรตต้า

ปลูกฝังความรับผิดชอบบนท้องถนน ในโครงการ “LET’sponsible ไฟท้ายดับ ชีวิตดับ”

ส่งมอบความปลอดภัยให้ผู้ใช้รถใช้ถนน

เชิญชวนเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์ไม่เกิน 150 ซีซี

เปลี่ยนไฟท้ายฟรี จำนวน 50,000 ดวง ที่ผู้แทนจำหน่ายกว่า 1,000 สาขาทั่วประเทศ

โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้แทนจำหน่ายที่เข้าร่วมโครงการ และเงื่อนไขการรับบริการได้ที่ www.krungsriauto.com

รีบเลยครับ 23 มีนาคม-6 เมษายนนี้

อย่าให้คนที่บ้านต้องมาฟูมฟายเสียใจกับความไม่เอาใจใส่ของเราเลยนะครับ