ใน “วิกฤตมีโอกาส”

file. Photo by Borja Sanchez-Trillo/Getty Images

คอลัมน์ สามัญสำนึก

โดย ดิษนีย์ นาคเจริญ

วิกฤตมาพร้อมโอกาสเสมอ? ในวิกฤตโควิด-19 เช่นกัน อย่างน้อยก็ในเรื่องการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้อย่างจริงจัง บริษัท ร้านค้า สถาบันการศึกษาหลายแห่งหันมาโปรโมตแคมเปญ #อยู่บ้านหยุดเชื้อช่วยชาติชวนคนไทยเข้าสู่ “social distance” เพิ่มระยะห่างในการเข้าสังคม พร้อมนโยบายทำงานจากที่บ้าน (work from home : WFH) ลดความเสี่ยงให้ตนเอง และครอบครัว

อย่างที่รู้กันว่าธุรกิจออนไลน์ได้รับผลบวกอย่างยิ่ง บริษัทไหน ร้านไหน ไม่เคยมีช่องทางออนไลน์ ถึงเวลานี้ไม่มีไม่ได้แล้ว หรือที่มีอยู่แล้วยิ่งต้องเพิ่มให้มากขึ้นกว่าเดิม

ดังเช่นเครือข่ายร้านสะดวกซื้อ “เซเว่นอีเลฟเว่น” ประกาศรับคนเพิ่มอีก 2 หมื่นคน เพื่อการนี้โดยเฉพาะ เพราะมองเห็นโอกาส ทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นด้วย

เชื่อว่าบรรดาผู้ประกอบการในธุรกิจค้าปลีกทั้งหลายคงคิดไม่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าจะทำได้มากน้อย-เร็วช้าแค่ไหน

ในธุรกิจ “ฟู้ดดีลิเวอรี่” เติบโตมากอยู่แล้ว ยิ่งโตไปกันใหญ่ จากมาตรการล่าสุดของกรุงเทพมหานครที่ให้ผู้ประกอบการร้านอาหารในศูนย์การค้า, โรงแรม และร้านข้างนอกเปิดขายอาหารได้ แต่ลูกค้าต้องซื้อกลับไปกินที่บ้านเท่านั้น

“พนักงาน” ในร้านที่แต่เดิมทำหน้าที่เสิร์ฟอาหารก็ต้องปรับหน้าที่ไปทำอย่างอื่นจะแค่ 22 วัน หรือนานกว่านั้นยังไม่มีใครรู้

ใช่หรือไม่ว่าในวิกฤตมีโอกาส อยู่ที่ว่าจะมองในมุมไหน และทำอย่างไร

แต่ถ้าคิดจะก้าวให้ข้ามไปได้ จำเป็นต้องปรับตัวขนานใหญ่

“ศุภชัย เจียรวนนท์” แม่ทัพ ซี.พี. และกลุ่มทรู มองวิกฤตครั้งนี้ว่า จะเป็นโอกาสให้ทุกองค์กรได้ปรับตัว ทรานส์ฟอร์มเข้าสู่ยุค 4.0 และว่า “ถ้าผลักดันกันเต็มที่ องค์กรในประเทศไทยจะมีความทันสมัย โรงเรียน มหาวิทยาลัยต่าง ๆ จะเป็น “สมาร์ทสกูล” อันนำไปสู่การปฏิรูปการศึกษาอย่างแท้จริงได้”

การระบาดของไวรัสโควิด-19 เปรียบได้กับตัวเร่ง สปีดให้คนไทยต้องปรับทั้งการทำงาน การใช้ชีวิต และการเรียนมาสู่ระบบ “ออนไลน์” เร็วขึ้นกว่าเดิมมาก

“กลุ่มทรูเองมีคน 3-4 พันที่ต้องเข้าออก ตอนนี้ลดเหลือหลักร้อยคนแล้วให้ทำงานที่บ้าน ทุกอย่างจะทำงานบน คลาวด์เทคโนโลยี ที่เรียกว่า TRUE VIRTUAL WORLD ซึ่งในนั้นมีโซลูชั่นที่เป็น ดิจิทัลเวิร์กเพลซ ที่มีการใช้งานต่อเนื่องมาตลอด เพียงแต่ไม่ได้ขยายการใช้งาน เมื่อผสมผสานการใช้งานกับเทคโนโลยีต่าง ๆ ทำให้การทำงานที่บ้าน หรือการเรียนหนังสือที่บ้านมีประสิทธิภาพขึ้น”

จากวิกฤตในครั้งนี้ ในฐานะบริษัทเอกชนไทย กลุ่มทรูจึงได้พัฒนาแพลตฟอร์ม “TRUE VIRTUAL WORLD” ให้องค์กรธุรกิจ ภาคการศึกษา และคนไทยได้ใช้งานฟรี

ส่วนแรก TRUE VIRTUAL WORLPLACE- VWORK โซลูชั่นที่รองรับการทำงานโดยเฉพาะ ตั้งแต่แจ้งข่าวสำคัญขององค์กร ค้นหารายชื่อพนักงาน มอบหมายและติดตามความคืบหน้าของงาน จัดประชุมออนไลน์ได้ทั้งแบบรายบุคคลและแบบกลุ่มสูงสุด 1,500 คน

ส่วนที่สอง TRUE VIRTUAL LEARN-VLEARN” สนับสนุนองค์กร และสถาบันการศึกษาจัดการเรียนการสอนออนไลน์ มี VIRTUAL CONNECT ให้ครู นักเรียน เรียนออนไลน์เสมือนอยู่ในห้องเรียนจริง

และ TRUE VIRTUAL LIVE-VLIVE ใช้ชีวิตที่บ้านได้สาระความรู้ ความบันเทิง ผ่านแอป TrueID และ TrueID TV รวมระบบค้าขายออนไลน์ Wemall-Weshop ให้เปิดร้านค้าออนไลน์ และลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าจ่ายผ่าน “ทรูมันนี่ วอลเล็ท” ได้

ครบทั้งเรื่อง “งาน-เรียน -บันเทิง”

เฉพาะลูกค้า “ทรูมูฟ เอช” ใช้ฟรีไม่เสียค่าอินเทอร์เน็ต ในช่วงแรกของการปรับตัวเข้าสู่ “ดิจิทัล” บิ๊กกลุ่มทรูมองว่า หลายคนอาจไม่คุ้นเคย แต่ต่อไปจะเป็นสิ่งใหม่ที่กลายเป็น “วิถีปกติ” (New Normal) แม้ต้องมีทักษะในการใช้เทคโนโลยี มีความเชี่ยวชาญแบบใหม่ (new skill) อาจเป็น “วิกฤต”แต่ถ้าปรับตัวได้จะเป็น “โอกาส” ทันที

มากไปกว่านั้น ความเป็นอิสระในการใช้ชีวิตและการทำงานด้วยเทคโนโลยีอาจทำให้ชีวิตมีความสุขขึ้นด้วย