ส่องโควิด “อาเซียน”

สามัญสำนึก
พิเชษฐ์ ณ นคร

โลกทั้งใบกำลังป่วยโรคโควิด-19 ไม่รู้ต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่ภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติจะเกิดขึ้น ทำให้เชื้อไวรัสโคโรนาเป็นเหมือนเชื้อไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ กลายเป็นโรคประจำถิ่น เพราะโควิดจะยังอยู่กับเราอีกนาน

แต่กว่าจะถึงวันที่ทั่วโลกมีภูมิคุ้มกันหมู่ การสร้างภูมิคุ้มกันจากวัคซีนยังจำเป็น

วันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา ข้อมูลองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า มีผู้ติดเชื้อโควิดสะสมทั่วโลก 210,236,805 คน ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 4,408,728 คน

ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงที่สุด 5 อันดับแรก สหรัฐอเมริกา ยังครองแชมป์ ผู้ติดเชื้อสะสม 38,072,656 คน เสียชีวิต 641,346 คน รองลงมาเป็นอินเดียติดเชื้อ 32,320,898 คน เสียชีวิต 433,063 คน บราซิลติดเชื้อ 20,458,221 คน เสียชีวิต 571,703 คน รัสเซียติดเชื้อ 6,684,531 คน เสียชีวิต 172,700 คน ฝรั่งเศสติดเชื้อ 6,533,383 คน เสียชีวิต 112,976 คน

ขณะที่ไทยยอดผู้ติดเชื้อ 989,859 คน เสียชีวิตสะสม 8,586 คน ติดอันดับ 34 ของโลก

เทียบกันเฉพาะสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ การแพร่ระบาดของโควิดในไทยรุนแรงเป็นอันดับ 4

โดยอินโดนีเซีย มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด ณ วันที่ 18 ส.ค.อยู่ที่ 3,892,479 คน เสียชีวิต 120,013 คน ฟิลิปปินส์ ติดเชื้อ 1,765,675 คน เสียชีวิต 30,462 คน มาเลเซีย ติดเชื้อ 1,444,270 คน เสียชีวิต 13,077 คน

เมียนมา อยู่อันดับ 5 ติดเชื้อ 360,291 คน เสียชีวิต 13,623 คน เวียดนามติดเชื้อ 293,301 คน เสียชีวิต 6,472 คน กัมพูชาติดเชื้อ 87,190 คน เสียชีวิต 1,730 คน สิงคโปร์ติดเชื้อ 66,281 คน เสียชีวิต 45 คน ลาวติดเชื้อ 10,648 คน เสียชีวิต 9 คน และบรูไนติดเชื้อ 852 คน เสียชีวิต 3 คน

แต่ละประเทศมีมาตรการรับมืออย่างไร คุมเข้มมากน้อยแค่ไหน ศูนย์ข้อมูลข่าวอาเซียน กรมประชาสัมพันธ์ รวบรวมข้อมูลล่าสุดไว้ดังนี้

บรูไนมาตรการที่นำมาใช้ ได้แก่ สนับสนุนให้ประชาชนป้องกันตนเอง เช่น ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ โดยผ่อนคลายมาตรการเปิดให้สถานที่บางประเภทดำเนินการได้

กัมพูชาใช้มาตรการควบคุมโควิดในกรุงพนมเปญเข้มข้นตั้งแต่ 7 ก.ค. 64 ปิดสถานที่บางประเภท เช่น กาสิโน โรงภาพยนตร์ สนามกีฬา ไนต์คลับ ปิดชายแดน

อินโดนีเซียประกาศขยายมาตรการควบคุมโควิด-19 ทั่วประเทศ จากเดิมครอบคลุมแค่เกาะชวาและบาหลี

สปป.ลาว lockdown นครเวียงจันทน์และแขวงต่าง ๆ ถึง 19 ก.ค. 64 ผ่อนคลายมาตรการ เช่น ให้เปิดร้านค้า ร้านอาหาร ตลาด ร้านเสริมสวย สถานที่ท่องเที่ยว ฯลฯ

มาเลเซียมีมาตรการควบคุมในกัวลาลัมเปอร์และเซลังงอร์ ควบคุมการเดินทาง ให้เดินทางและทำกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงเวลา 08.00-20.00 น. ให้ทำงานที่บ้าน

ส่วนเมียนมาบังคับใช้มาตรการควบคุมโควิดในย่างกุ้งอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ 2 ก.ค. 64

ขณะที่ฟิลิปปินส์ ปิดสวนสนุก สถานบันเทิง สนามกีฬา ให้ร้านอาหาร ฟิตเนส สถานที่ท่องเที่ยวในร่ม รับลูกค้าไม่เกิน 40%

สิงคโปร์ผ่อนคลายมาตรการตั้งแต่ 12 ก.ค. 64 ให้รวมกลุ่มได้ไม่เกิน 5 คน เช่น ทานอาหารในร้าน ออกกำลังกายในที่ร่ม ให้จัดงานแต่งงาน เริ่มขายชุดตรวจหาโควิด-19 แบบง่ายในร้านสะดวกซื้อและซุูเปอร์มาร์เก็ต

ส่วนเวียดนามขยายมาตรการรักษาระยะห่างในนครโฮจิมินห์ถึง 23 ก.ค. 64 ระงับธุรกิจบางประเภทและขนส่งสาธารณะ ฯลฯ

สำหรับไทยจากก่อนหน้านี้ประกาศมาตรการล็อกดาวน์ ห้ามเดินทางเวลา 21.00-04.00 น. ปิดสถานที่บางประเภทใน 29 จังหวัด ถึง 31 ส.ค.

ล่าสุดแม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จะส่งสัญญาณว่าถ้าหากมาตรการคุมเข้มได้ผล จะค่อย ๆ ผ่อนคลายมาตรการ แต่สถานการณ์โควิดที่ยังทำสถิตินิวไฮ ยอดผู้ติดเชื้อกดไม่ลง ยังต้องลุ้นว่าข่าวดีจะมาได้เร็วหรืออีกยาว