โควิด-19

รู้จักโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ระบาดพุ่งทั่วโลก จังหวะคลายล็อก

(Hannah A. Bullock, Azaibi Tamin/CDC via AP, File)

หลังจากนักวอลเลย์หญิงทีมชาติไทยเพิ่งติดโควิดกันไปหลายคน และล่าสุด มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ก็โพสต์แจ้งติดโควิดด้วยอาการไข้สูง พร้อมๆ กับอีกหลายคนใกล้ตัวเราๆ ท่านๆ ต่างติดเชื้อนี้กันมากขึ้นในช่วงเวลานี้

วันที่ 18 มิถุนายน 2565 บีบีซีไทย เผยแพร่รายงานของ มิเชลล์ โรเบิร์ตส์ บรรณาธิการข่าวสุขภาพ บีบีซี นิวส์ ออนไลน์ ที่สรุปข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับเชื้อไวรัส BA.4 และ BA.5 เชื้อสายพันธุ์ย่อยชนิดใหม่ของเชื้อกลายพันธุ์โอมิครอนที่แพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วกำลังทำให้ยอดผู้ติดเชื้อโรคโควิดพุ่งสูงขึ้นทั่วโลก

จากรายงานของรอยเตอร์ก่อนหน้านี้  BA.4 และ BA.5 สายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน มีสัดส่วนสูงขึ้นเป็น  8.3% และ 13.3% ของโคโรนาไวรัสที่ระบาดในสหรัฐอเมริกา และทั้งสองสายพันธุ์บ่อยนี้ติดบัญชีที่องค์การอนามัยโลก จับตาตั้งแต่เดือนมีนาคม เพราะเป็นเชื้อสายพันธุ์ที่น่ากังวลในยุโรปด้วย

People walk along a platform at Kings Cross train station during morning rush hour, amid the coronavirus disease (COVID-19) outbreak in London, Britain,  REUTERS/Henry Nicholls/File Photo

บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขระบุว่า เชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยทั้งสองชนิดซึ่งตรวจพบครั้งแรกในประเทศแอฟริกาใต้นั้น อาจกลายเป็นโควิดสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในสหรัฐ และยุโรปเร็ว ๆ นี้

BA.4 BA.5 แพร่เร็วกว่าชนิดอื่น

สำหรับเชื้อ บีเอโฟร์ และบีเอไฟว์ มีความใกล้ชิดอย่างมากกับเชื้อกลายพันธุ์โอมิครอนที่ทำให้เกิดการระบาดระลอกใหญ่ช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา

มีการตรวจพบเชื้อ BA.4 และ BA.5 ระบาดในแอฟริกาใต้เมื่อช่วงต้นปีนี้ และดูเหมือนว่าเชื้อทั้งสองชนิดจะแพร่ระบาดรวดเร็วกว่าโควิดสายพันธุ์อื่น ๆ

ปัจจุบันพบ BA.4 และ BA.5 ระบาดในแทบทุกประเทศของยุโรป และกำลังจะกลายเป็นโควิดสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในแถบนี้ ดังเช่นที่เกิดขึ้นแล้วในโปรตุเกส ซึ่งเชื้อ BA.5 ได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดที่นั่น

(FILES) The Moderna Covid-19 vaccine is prepared for administration at Union Station in Los Angeles.

มาจังหวะเริ่มคลายล็อก

ขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญยังไม่ทราบแน่ชัดว่า BA.4 และ BA.5 จะส่งผลกระทบต่อประเทศต่าง ๆ มากน้อยเพียงใด

เชื่อกันว่า เชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อยทั้งสองชนิดไม่ได้มีอันตรายมากกว่าโควิดสายพันธุ์อื่น ๆ

นอกจากนี้ ผู้คนจำนวนมากยังมีภูมิคุ้มกันโรคที่เกิดจากการติดโควิดมาแล้ว หรือจากการฉีดวัคซีนต้านโควิด ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยให้โรคนี้มีอันตรายน้อยลงโดยรวม

แต่ดูเหมือนว่า BA.4 และ BA.5 จะสามารถแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น นี่อาจเป็นเพราะภูมิคุ้มกันที่ผู้คนมีในร่างกายเริ่มลดลง หรืออาจเป็นเพราะเชื้อไวรัสเกิดการกลายพันธุ์

เชื้อ Sars-CoV-2 virus Photograph: Phanie/Alamy

ขณะเดียวกัน การที่ประเทศต่าง ๆ เริ่มยกเลิกมาตรการควบคุมโรคโควิด แล้ว ก็ทำให้เชื้อไวรัสชนิดนี้มีโอกาสที่จะแพร่ระบาดได้มากขึ้น

BA.4 และ BA.5 ยังทำให้คนที่เพิ่งติดเชื้อโอมิครอนชนิดอื่นติดเชื้อซ้ำได้อีก และการระบาดระลอกใหม่อาจทำให้มีผู้ป่วยเข้ารักษาที่โรงพยาบาล หรือมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก

เตือนกลุ่มเสี่ยงอาจล้มป่วยหนัก

เช่นเดียวกับโควิดสายพันธุ์อื่น ๆ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัวร้ายแรง คือกลุ่มเสี่ยงที่สุดที่จะล้มป่วยหนักจากการติดเชื้อ BA.4 และ BA.5

แม้วัคซีนต้านโควิดที่มีอยู่ในปัจจุบันจะไม่ใช่สูตรที่พัฒนาขึ้นเพื่อต่อต้าน BA.4 และ BA.5 โดยเฉพาะ แต่ก็ยังเป็นเครื่องมือดีที่สุดในการต่อสู้กับเชื้อทั้งสองชนิด

ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์กำลังพัฒนาและทดสอบวัคซีนชนิดใหม่สำหรับต้านเชื้อ BA.4 และ BA.5 และบริษัทต่าง ๆ เร่งการผลิตได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน ขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลของรัฐก็มีการหารือถึงการเร่งกระบวนการอนุมัติใช้วัคซีนชนิดนี้ให้ได้อย่างรวดเร็ว

…..

รายงานข่าวบีบีซีไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว