Chevron Enjoy Science ยกระดับสะเต็มศึกษาของชาติ

หากพูดถึงโครงการพัฒนาการเรียนรู้ในสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ หรือสะเต็มอย่างเต็มรูปแบบ จนเห็นผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมในประเทศไทย โครงการ “Chevron Enjoy Science : สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต” ที่ริเริ่มโดย บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด

ถือเป็นต้นแบบของโครงการรัฐร่วมเอกชนที่มุ่งยกระดับขีดความสามารถของประเทศผ่านสะเต็มศึกษา ภายใต้งบประมาณทั้งสิ้นกว่า 1,120 ล้านบาท พร้อมเป้าหมายในการสร้างรากฐานสำคัญเพื่อพัฒนานวัตกรรม และศักยภาพการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน

สำหรับปีนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่เชฟรอนและพันธมิตรพาโครงการสำเร็จลุล่วงมาตลอด 8 ปี โดยภายในงาน Southeast Asian STEM Education Fair and Exposition 2023 ที่ SEAMEO STEM-ED จัดขึ้นด้วยการสนับสนุนหลักจากเชฟรอน ถือเป็นเวทีสรุปผลความสำเร็จสำคัญของโครงการ

พร้อมเปิดแนวทางสานต่อสะเต็มศึกษาทั้งระดับประเทศและภูมิภาคให้ก้าวเดินต่อไป โดยภายในงานมีผู้เข้าร่วมกว่า 500 คน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ผู้กำหนดนโยบาย ผู้พัฒนาหลักสูตรการศึกษา พันธมิตรหลากหลายภาคส่วน และเยาวชนจากทั้งในประเทศและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ชาทิตย์ ห้วยหงษ์ทอง
ชาทิตย์ ห้วยหงษ์ทอง

“ชาทิตย์ ห้วยหงษ์ทอง” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวว่า ตั้งแต่ริเริ่มโครงการ “Chevron Enjoy Science : สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต” เมื่อปี 2558 เรามองถึงความยั่งยืนของโครงการ จึงทำอย่างต่อเนื่องถึง 8 ปี เพราะมีความตั้งใจจริงที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ดีของสังคม ผ่านการทำโครงการระยะยาวร่วมกับพันธมิตรที่มีเจตนารมณ์ร่วมกัน

“จากวัฒนธรรมที่เชื่อมั่นในพลังคน เราจึงมุ่งมั่นพัฒนาบุคลากรผ่านการปฏิรูปและยกระดับการศึกษา ตลอดระยะเวลาผ่านมาหลายทศวรรษ เราให้การสนับสนุนโครงการด้านการศึกษาหลากหลายโครงการ พร้อมมุ่งมั่นพัฒนาและผสานองค์ความรู้สาขาสะเต็มในระบบการศึกษาไทย เพื่อเป็นรากฐานสำคัญต่อการสร้างความเข้มแข็งทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม”

สำหรับโครงการ “Chevron Enjoy Science : สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต” แบ่งการดำเนินโครงการเป็นสองระยะ โดยระยะที่ 1 ในช่วง 5 ปีแรกของโครงการ เน้นการปรับใช้โมเดลสะเต็มศึกษาที่สำเร็จในต่างประเทศมาพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ทั้งในและนอกห้องเรียน ทั้งสายสามัและอาชีวศึกษา จากกว่า 700 โรงเรียน รวมกว่า 13,000 คน เพื่อให้มีศักยภาพในการจัดการเรียนรู้ด้านสะเต็ม

รวมถึงมีผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการทั้งสิ้นกว่า 3,100,000 คน โดยความสำเร็จดังกล่าวขยายผลสู่การดำเนินงานในระยะที่ 2 โดยศูนย์ภูมิภาคว่าด้วยสะเต็มศึกษาขององค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ศูนย์ SEAMEO STEM-ED) พร้อมมุ่งเสริมสร้างขีดความสามารถขององค์กรภาครัฐและผู้เกี่ยวข้อง สู่การสร้างความยั่งยืนในการยกระดับคุณภาพการศึกษา

ตลอดโครงการบรรลุผลสำเร็จในการบูรณาการสะเต็มศึกษากว่า 835 โรงเรียน รวมถึงมีผู้ได้รับผลประโยชน์จากโครงการกว่า 3,300,000 คน

ดร.กฤษฎ์ชัย สมสมาน
ดร.กฤษฎ์ชัย สมสมาน

“ดร.กฤษฎ์ชัย สมสมาน” ผู้อำนวยการศูนย์ SEAMEO STEM-ED เล่าถึงความสำเร็จของโครงการในระยะที่ 2 ว่า ความมุ่งมั่นจากทุกหน่วยงานพันธมิตรกว่า 236 องค์กร ส่งผลให้การดำเนินโครงการเกิดผลสำเร็จอย่างดีเยี่ยม โดยเรามุ่งเสนอผลลัพธ์ต่อผู้กำหนดนโยบายและตั้งเป้าหมายการดำเนินงานให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล

ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาศักยภาพสถาบันผลิตและพัฒนาวิชาชีพครูในโครงการ STEP เพื่อปลดล็อกยกระดับการผลิตครูมืออาชีพให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงโลกยุคใหม่ และริเริ่มโครงการนำร่องด้าน career academies พร้อมร่วมมือกับ Thai PBS ผ่านการผลิตรายการภารกิจพิชิตฝัน และร่วมมือกับองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ในการพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อให้เยาวชนเรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพยุคใหม่

“อีกทั้งยังพัฒนาสื่อการเรียนรู้ด้านสะเต็มศึกษาที่มีคุณภาพ และพัฒนาโรงเรียนคุณภาพสะเต็มศึกษา ไปจนถึงเสริมแกร่งเครือข่ายนักวิจัย โดยสำหรับงาน Southeast Asian STEM Education Fair & Exposition 2023 ปีนี้ เราจัดภายใต้ธีม Preparing a Prosperous Future for the Next Generation สะท้อนให้เห็นเป้าหมายสำคัญในการสร้างอนาคตเยาวชนไทยให้เข้มแข็งผ่านสะเต็มศึกษา พร้อม showcase จากเยาวชน ด้วยการนำโมเดลสะเต็มศึกษาไปปรับใช้ในระดับประเทศและภูมิภาค”

นอกจากนี้ บริษัท เชฟรอนยูเรเชียแปซิฟิกสำรวจและผลิต จำกัด ยังสนับสนุนเงินทุนราว 30 ล้านบาท เพื่อพัฒนาครูสาขาสะเต็มในโครงการ STEP ที่จะช่วยยกระดับครูมืออาชีพให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงโลกยุคใหม่ โดยขยายพื้นที่ครอบคลุม 5 ประเทศ ทั้งประเทศไทย คาซัคสถาน อินโดนีเซีย รวมถึงอีก 2 ประเทศในยูเรเชีย-แปซิฟิก พร้อมทั้งส่งเสริมด้านงานวิจัยและนโยบายผ่านการเสริมแกร่งเครือข่ายและพัฒนาศักยภาพนักวิจัย และผลักดันสู่ในระดับนโยบายของประเทศและภูมิภาค

คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช
คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช

“คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการมุ่งพัฒนาองค์ความรู้ด้านสะเต็มศึกษาผ่านการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหลายหน่วยงานอย่างจริงจัง เพื่อเตรียมเยาวชนให้พร้อมรับมือกับความผันผวนของโลกที่ถูก disrupt ด้วยเทคโนโลยีและสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดต่าง ๆ

โดยเราขับเคลื่อนนโยบายการจัดการเรียนการสอนสะเต็มศึกษาในสถานศึกษา พร้อมทั้งติดตาม ประเมินความก้าวหน้าและความสำเร็จในการปฏิบัติงาน รวมถึงพัฒนาหลักสูตรสะเต็มศึกษาครอบคลุมโรงเรียนทั่วประเทศ พร้อมเพิ่มศักยภาพครูยุคใหม่

โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดการเรียนการสอน coding ของประเทศไทยในทุกระดับ รวมถึงการเรียนการสอนแบบ unplugged coding ในลักษณะการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาเป็นขั้นเป็นตอน ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต พัฒนาศักยภาพคนไทยทุกช่วงวัย

รวมถึงการเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 เพื่อบูรณาการศาสตร์และศิลป์แห่งชีวิต (arts of life), ศิลปะในการดำรงชีวิต (arts of living) และศิลปะการทำงานร่วมกัน (arts of working together) ไว้ในการจัดการเรียนรู้สะเต็มศึกษา (STEM) สู่การจัดการเรียนรู้แบบผสมผสานในลักษณะที่เรียกว่า STEAM

เพื่อให้เห็นถึงความจำเป็นด้านวัฒนธรรม คุณค่า และอัตลักษณ์ เพื่อการดำรงชีวิตอย่างมีความหมาย มีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดี บนพื้นฐานของคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรม ซึ่งจะเป็นกุญแจและเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต

โครงการ “Chevron Enjoy Science : สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต” จะเดินทางสู่ความสำเร็จในวันนี้ไม่ได้ หากขาดพันธมิตรที่สำคัญทุกภาคส่วนไป ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวตอกย้ำถึง “พลังคน” ที่ยิ่งใหญ่ แม้จะเริ่มจากจุดเล็ก ๆ อย่างการพัฒนาการศึกษา จนนำมาสู่ความสำเร็จในระดับมหภาคที่ช่วยขับเคลื่อนโลกอย่างยั่งยืน