
สัมผัสประสบการณ์เที่ยวอิตาลีผ่านอาหารยอดนิยมของแต่ละภูมิภาค ที่ห้องอาหารอลาตี้ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ โดยนำเสนอเมนู “ลา ดอลเช่ วิต้า” (La Dolce Vita) อาหารอิตาเลียนรสชาติต้นตำรับขนานแท้
วันที่ 3 พฤษภาคม 2566 ห้องอาหารอลาตี้ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ และเชฟคาร์โล วาเลนเซียโน หัวหน้าพ่อครัวฝ่ายบริหาร นำเสนอเมนูอาหารอิตาเลียนรสชาติต้นตำรับขนานแท้ ที่จะพาทุกคนไปเยือนแคว้นต่าง ๆ ในประเทศอิตาลีผ่านอาหารยอดนิยมของแต่ละภูมิภาค
- กรมอุตุฯ จับตาพายุหมุนเขตร้อน มีหย่อมความกดอากาศก่อตัวใหม่อีก 1 ลูก
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 ตุลาคม ย้อนหลัง 10 ปี
- โปรดเกล้าฯให้ ขรก. 6 ราย ประดับเหรียญ จ๊อยน์ เซอร์วิซ คอมเมนเดชัน เมดัล
โดยเมนู “ลา ดอลเช่ วิต้า” (La Dolce Vita) จะสร้างความรู้สึกราวกับว่าชีวิตทุกคนได้ถูกเติมเต็มด้วยอาหารจานอร่อยมากมาย นำเสนอโดยทีมมากประสบการณ์ของห้องอาหารอลาตี้
ตื่นเต้นกับรสชาติของการรับประทานอาหารอิตาเลียนแท้ ๆ จากพ่อครัวชาวอิตาเลียน ที่ได้ออกแบบประสบการณ์การรับประทานอาหารในครั้งนี้ผ่านแรงบันดาลใจจากการเดินทางในประเทศบ้านเกิดเมื่อครั้งวัยเยาว์ ตั้งแต่ภาคเหนือจรดภาคใต้
อาทิ ซิซิลี (Sicily) เวนิส (Venice) เพียมอนเต (Piedmont) พาร์มา (Parma) กาปรี (Capri) โรม (Rome) เวโรนา (Verona) มิลาน (Milan) ปอร์โตฟิโน (Portofino) และเวเนโต (Veneto) เป็นต้น
ที่ต่างนำเสนอรสชาติผ่านวัตถุดิบและกรรมวิธีที่หลากหลาย โดยเชฟคาร์โลเชื่อมั่นว่าการรับประทานอาหารจากวัตถุดิบคุณภาพชั้นเลิศนั้นจะช่วยให้เราเข้าใจความสุขจากการรับประทานอาหารได้ง่ายมากขึ้น

เริ่มต้นการเดินทางด้วยเมนูเรียกน้ำย่อย
เริ่มต้นมื้ออาหารด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยขึ้นชื่อจากแคว้นซิซิลี ที่อยู่ใต้สุดของประเทศกับเมนู “Carpaccio di gamberi” การ์ปัชโช่กุ้งสด เสิร์ฟคู่กับยี่หรา ส้ม และเลมอนครีม

หรือเมนู “Polpo e patate” หมึกเมดิเตอร์เรเนียนนึ่ง รับประทานกับมันฝรั่ง ขึ้นฉ่ายฝรั่ง เลมอน มะกอก ผักชีฝรั่ง คลุกกับน้ำมันมะกอกคุณภาพดีจากซิซิลี

สำหรับแฟนโคลด์คัทส์ตัวยง สามารถเลือกรับประทาน “Affettati DOP” ที่รวมถึงเนื้อพาร์ม่าแฮมแกลโลนี (Galloni Parma ham) บ่มนาน 20 เดือน คาโปโคโลแฮม (Capocollo) ซาลามิ (Salami) และเอ็นดูญ่า (‘Nduja) เสิร์ฟคู่กับมะกอกดอง พร้อมกับขนมปัง

และอีกหนึ่งเมนูไฮไลต์จากเมืองพาร์ม่า ได้แก่ “Parmigiano-Reggiano” ชีสพาร์เมซานชุบแป้งทอด รับประทานคู่กับเห็ดทรัฟเฟิล น้ำผึ้ง องุ่นสด

เลือกรับประทานเมนูพาสต้ากับตัวเลือกเส้นพาสต้าสดสไตล์โฮมเมดมากมาย อาทิ “Gragnano Carbonara” คาโบนาร่าที่ปรุงจากเส้นสดสไตล์โฮมเมด ไข่แดงออร์แกนิก และแก้มหมูหมักพริกไทย
หรือ “Risotto all’ Amarone” เมนูริซอตโตข้าวคาร์นาโรลีจากเมืองเวโรนา ที่ปรุงรสชาติให้เข้มข้นด้วยไวน์อมาโรเน่ (Amarone Wine) และชีสพาร์เมซานชั้นดี บ่มนาน 30 เดือน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกคำจะให้ความรู้สึกประทับใจ

เต็มอิ่มระหว่างเดินทางด้วยอาหารจานหลัก
เริ่มต้นจานหลักด้วยเมนูที่เชฟคาร์โลภูมิใจนำเสนอ ได้แก่ “Costoletta alla Milanese” เมนูขึ้นชื่อของเมืองมิลาน ปรุงจากเนื้อลูกวัวชุบเกล็ดขนมปังทอด รับประทานคู่กับสลัดใบร็อกเก็ต

และเมนู “Rombo alla ligure” ปลาตาเดียวอบไวน์ขาว พร้อมด้วยมะเขือเทศ มะกอก ไธม์ ถั่วไพน์ และมันฝรั่ง

สิ้นสุดการเดินทางด้วยของหวาน
ปิดท้ายการเดินทางด้วยอาหารหวานหลากชนิด ที่จะมาทำให้การเดินทางของทุกคนจบลงอย่างน่าจดจำมากกว่าการรับประทานอาหารครั้งใด
เลือกรับประทาน “Crema Fritta” อันมีต้นกำเนิดมาจากเมืองเวนิส ทำจากคัสตาร์ด รสเลมอนกับวานิลลา โรยด้วยน้ำตาลไอซิงและราสป์เบอรี่

หรือ “Sicilian cannoli” จากแคว้นซิซิลี ที่ทำจากชีสริคอตต้า (Ricotta) ช็อกโกแลต ถั่วพิสตาชิโอ และส้มกงฟี

หรือทีรามิสุ อันมีต้นกำเนิดมาจากเมืองเวเนโต ทำจากชีสมาสคาร์โปน เลดี้ฟิงเกอร์รสกาแฟ โรยด้วยผงโกโก้และดาร์กช็อกโกแลต ซึ่งเชฟคาร์โลและทีมห้องอาหารอลาตี้ทำขึ้นอย่างพิถีพิถัน เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวอันน่าตื่นเต้นนี้ให้กับทุกคนได้รู้สึกถึงความทรงจำดี ๆ จากการเดินทางในครั้งนี้

สำหรับเมนูลา ดอลเช่ วิต้า (La Dolce Vita) ห้องอาหารอลาตี้ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ พร้อมให้บริการตั้งแต่วันนี้-31 สิงหาคม 2566