น้ำผึ้ง บัวเจริญ เปิดใจ นิยายอีโรติกไม่ใช่แค่เรื่องเซ็กส์ ทุกเรื่องล้วนสะท้อนสังคม

น้ำผึ้ง บัวเจริญ

น้ำผึ้ง บัวเจริญ นักเขียนนิยาย Saturday I’m in Love เปิดใจ นิยายอีโรติกไม่ใช่แค่เรื่องเซ็กส์ ทุกเรื่องล้วนสะท้อนสังคมไม่ต่างจากนิยายแนวอื่น ๆ

การอ่านนิยายอาจเป็นงานอดิเรกและความชื่นชอบของใครหลายคน ซึ่งแน่นอนว่าความชื่นชอบนี้ก็จะแยกย่อยออกไปเป็นประเภทของนิยาย ไม่ว่าจะเป็นนิยายรัก แนวแฟนตาซี สยองขวัญ แนวสืบสวนสอบสวน วิทยาศาสตร์ ผจญภัย จิตวิทยาและกึ่งอัตชีวประวัติ

ขณะเดียวกันก็มีนิยายอีกประเภทหนึ่งที่เชื่อว่ามีคนนิยมอ่านจำนวนไม่น้อย แต่จะมีใครบ้างที่กล้าเปิดหน้ายอมรับว่าชอบอ่าน หรือเคนอ่านนิยายแนวนี้ นั่นคือ “อีโรติก”

คุณน้ำผึ้ง บัวเจริญ นักประชาสัมพันธ์และนักเขียนนิยายอีโรติกเรื่อง Saturday I’m in Love เปิดใจถึงการเขียนผลงานชิ้นนี้ว่า เราเรียนจบคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แล้วมาทำงานเป็นนักประชาสัมพันธ์ จึงได้สะสมประสบการณ์การเขียนเป็นเวลากว่า 20 ปี

กระทั่งวันหนึ่งเกิดภาวะเบิร์นเอาต์ รู้สึกอิ่มตัวจากการทำงาน น้ำผึ้ง บัวเจริญ ในวัย 40 ปี ต้องถกถียงกับตัวเองว่าจะไปต่ออย่างไรดี จนในที่สุดก็ตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อเดินทางไปเรียนคอร์สด้านการตลาดเป็นเวลา 1 ปี ที่เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นการตอบโจทย์ชีวิตที่ยังไม่ได้ตอบตัวเองว่าอยากเรียนต่อ

น้ำผึ้ง บัวเจริญ

เปิดชีวิตหมอนวดต่างแดน

ในระหว่างที่คุณน้ำผึ้งอาศัยอยู่ที่เมลเบิร์น ได้จดบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ที่ประสบพบเจอลงในไดอารี่ ที่ต่อมาถูกสร้างสรรค์เป็นนิยายเรื่อง Saturday I’m in Love

คุณน้ำผึ้งถ่ายทอดเรื่องราวตั้งแต่ก่อนเดินทางไปยังเมลเบิร์น สาเหตุการตัดสินใจทิ้งงานประจำที่มั่นคงไปเรียนต่อต่างแดนวัย 40 ปี อุปสรรคใดบ้างที่ต้องเชิญ การไปเรียนและใช้ชีวิตที่นั่นเป็นอย่างไร วิธีการหาบ้านเช่า รวมถึงการหาอาชีพเสริม ทำให้นิยายเรื่องนี้เป็นเหมือนไกด์บุ๊กเล่มหนึ่ง และเป็นมากกว่านิยายอีโรติก

คุณน้ำผึ้งเริ่มสมัครงานหารายได้เสริมในช่วงเดือนที่ 2 เดือนที่ 3 โดยสมัครทั้งตำแหน่งพนักงานเสิร์ฟ บาริสต้า ซึ่งต้องยอมรับว่ายากมาก เนื่องจากระยะเวลาที่ไปอยู่ที่นั่นเพียง 1 ปี ในขณะที่ทางร้านก็ต้องการพนักงานที่สามารถทำงานกับทางร้านไปนาน ๆ สุดท้ายก็ได้มาทำงานในร้านนวดไทย เพราะคุณน้ำผึ้งเองเคยเรียนศาสตร์การนวดก่อนเดินทางไปยังเมลเบิร์น เนื่องจากเป็นคนที่ชอบนวด และที่สำคัญคือไม่ได้มีทัศนคติที่ไม่ดีต่ออาชีพนี้

การเข้าไปทำงานในร้านนวดไทย ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ทำให้คุณน้ำผึ้งอยากนำมาบอกเล่าให้ทุกคนได้รู้จักอีกด้านของอาชีพนี้ เริ่มตั้งแต่การเตรียมอุปกรณ์หลังร้านไปจนถึงการบริการนวดแผนไทยที่มีความละเอียดลออ รวมถึงวิธีการรับมือกับคนหลากหลายรูปแบบที่ต้องเจออย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยเป็นทั้งประสบการณ์ตรงและจากคำบอกเล่าของเพื่อนร่วมงาน นำไปสู่การเขียนนิยายที่ถ่ายทอดประสบการณ์ต่าง ๆ มีเรื่องความรัก ความสัมพันธ์ และความขัดแย้ง

น้ำผึ้ง บัวเจริญ

นิยายอีโรติกก็สะท้อนสังคมได้

เนื่องจากเป็นนิยาย จึงมีความฟุ้งฝันของอีโรติกเข้าไปให้ครบรส ทั้งยังมองว่าเรื่องเซ็กส์เป็นธรรมชาติของมนุษย์ นิยายดำเนินเรื่องไปตามความรู้สึกของตัวละคร และการใส่ประเด็นนี้เข้าไปในนิยาย ยังสะท้อนให้เห็นความแตกต่างของสองวัฒนธรรมผ่านตัวละคร 2 คน 2 สัญชาติ

“จริง ๆ แล้ว นิยายอีโรติกก็มีแก่นสาระสะท้อนสังคมไม่ต่างไปจากนิยายแนวอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับว่าผู้เขียนอยากฝากคีย์แมสเสจอะไรไปถึงผู้อ่าน”

นอกจากนี้ นิยายอีโรติกยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างคนรักได้เป็นอย่างดี เพราะรสนิยมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่หากหาจุดร่วมที่ตรงกันได้แล้ว ก็ย่อมเสริมความสัมพันธ์ให้ดียิ่งขึ้น

นิยายที่ต้องอ่านอย่างหลบซ่อน

ปฏิเสธไม่ได้ว่าสังคมไทยยังไม่เปิดรับนิยายอีโรติก ทำให้นิยายประเภทนี้ไม่แพร่หลายในประเทศมากนัก อย่างไรก็ดี จากการเช็กยอดการสั่งซื้อ Saturday I’m in Love พบว่ามีการตอบรับที่ดี และส่วนใหญ่คนอ่านเป็นผู้หญิงมากถึง 80% เลย แล้วยอดการสั่งซื้อก็ยังคงไปได้เรื่อย ๆ

และในปัจจุบันมีการเขียนนิยายลงบนเว็บไซต์ออนไลน์จำนวนมาก ซึ่งนิยายแนวอีโรติกก็เป็นหนึ่งในนิยายที่ได้รับความนิยม อาจเพราะการอ่านในโทรศัพท์ไม่มีใครรู้ว่าเราอ่านเรื่องอะไร เกี่ยวกับอะไร หากใครถามก็สามารถโกหกได้ว่าอ่านเรื่องอื่น แต่ในมุมของนักเขียนก็อยากให้หนังสือของตัวเองถูกตีพิมพ์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการที่สังคมยังไม่เปิดรับเท่าไรนัก สำนักพิมพ์ก็อาจจะไม่กล้าเสี่ยงที่จะลงทุน

การอ่านนิยายอีโรติก ไม่เพียงเพื่อความบันเทิง แต่ยังแฝงไปด้วยแก่นสาระมากมาย แต่ยังคงเป็นสิ่งที่คนไทยหลายคนยังไม่กล้าเปิดเผย เช่นเดียวกันกับการพูดถึงเรื่องเพศ ที่หากมองเป็นเรื่องปกติธรรมชาติของมนุษย์ แล้วให้ความรู้อย่างถูกต้อง ก็จะเป็นประโยชน์อย่างมาก