ชิม ช็อป ชมแชลเลนจ์ทำอาหารจากเชฟดังที่งาน Heliconia Food Festival

Heliconia Food Festival
ภาพจาก YouTube MasterChef Thailand

Heliconia Food Festival เทศกาลอาหารที่รวบรวมร้านของเซเลบริตี้เชฟกว่า 80 คน จากรายการเชฟกระทะเหล็ก มาสเตอร์เชฟ ท็อปเชฟ และอีกมากมาย จัดใหญ่เรียลิตี้อีเวนต์ กับสงครามประชันยอดขาย วันที่ 11-20 สิงหาคมนี้ ที่ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์

Heliconia Food Festival จัดใหญ่กับเทศกาลอาหารที่รวบรวมเซเลบริตี้เชฟแถวหน้าของเมืองไทยจากรายการในเครือ Heliconia ทั้งเชฟกระทะเหล็ก, มาสเตอร์เชฟ, ท็อปเชฟ และอีกมากมาย เตรียมสร้างปรากฏการณ์เรียลิตี้อีเวนต์แบบใหม่ กับสงครามประชันยอดขายครั้งแรกในเมืองไทย

“หนุ่ม-กิติกร เพ็ญโรจน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮลิโคเนีย เอช กรุ๊ป จำกัด เผยกับ ”ประชาชาติธุรกิจ” ว่า Heliconia Food Festival เริ่มจากความต้องการที่จะต่อยอดความสำเร็จจากหน้าจอทีวีสู่ชีวิตจริงในรูปแบบ Festival

Heliconia เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์รายการอาหารระดับโลกมากมาย เมื่อเป็นผู้นำด้านรายการอาหารแล้ว ต้องเป็นผู้นำการจัดอีเวนต์ด้านอาหารด้วย

คนรู้จักรายการที่เราทำแล้ว ทั้งเชฟกระทะเหล็ก, มาสเตอร์เชฟ, ท็อปเชฟ และอีกมากมาย ต่อไปคือจัดอีเวนต์ให้คนได้ไปเดิน ไปกิน ไปเจอเชฟ ได้สัมผัสสิ่งที่อยู่ในจอทีวีจริง ๆ หนุ่มกิติกรกล่าว

Food Theme Park

Heliconia Food Festival เป็นการรวบรวมเชฟจากรายการทั้งหมดในเครือ Heliconia ไม่ว่าจะเป็น เชฟกระทะเหล็กประเทศไทย, มาสเตอร์เชฟ ประเทศไทย, ท็อปเชฟ และอีกหลายรายการ เป็นการรวมเซเลบริตี้ เชฟ ที่มากที่สุดกว่า 80 คน มาจัด Food Festival โดยผู้ที่เข้าชมงานจะได้พบปะกับเชฟและกรรมการในรายการ ขณะเดียวกันก็จะได้สัมผัสอาหารที่บรรดาเชฟได้รังสรรค์

Heliconia Food Festival จัดขึ้นเป็นครั้งแรก มาในคอนเซ็ปต์ “Food Theme Park” หรืออุโมงค์เขาวงกตมหัศจรรย์ บรรยากาศจึงสนุกสนานกว่างาน Food Festival ทั่วไปที่นำบูทมาวางเรียงกัน

โดยมีการแบ่งเป็น 3 โซน ประกอบไปด้วย โซนอาหารว่าง ที่เชฟจะทำอาหารว่างในธีมทะเลแคริบเบียนหรือโจรสลัด เพราะฉะนั้นวัตถุดิบที่ใช้จึงมาจากใต้ท้องทะเล

ถัดมา โซนอาหารจานหลัก มีการตกแต่งภายในเหมือนเมืองของพ่อมดและแม่มด เชฟจะทำอาหารในกิมมิกเวทมนตร์

สุดท้าย โซนของหวาน มีการตกแต่งบรรยากาศเป็น Wonderland ดินแดนแห่งเทพนิยาย นอกจากนี้ทั้ง 3 โซนจะมีเวทีแสดงดนตรีและ Cooking Show จากเชฟที่หมุนเวียนมาทำอาหารให้ชมกันสด ๆ ซึ่งเป็นรูปแบบการจัด Food Festival แบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน

เรียลิตี้โชว์ สงครามแข่งขันยอดขาย

หนุ่ม กิติกรเผยว่า เนื่องจาก Heliconia เป็นบริษัททำรายการเรียลิตี้โชว์ด้านอาหาร ความเป็นเรียลิตี้จึงถูกนำมาไว้ในอีเวนต์ด้วย นั่นคือ เชฟและกรรมการทุกคนจะต้องแข่งขันทำยอดขายอาหารกัน โดยทุก 30 นาที จะมีการแสดงยอดขายผ่านหน้าจอภายในงาน ว่าใครเป็น 5 อันดับที่ขายได้มากที่สุด และใครกำลังอยู่ใน 5 อันดับท้าย

เชฟที่ไปอยู่ในอีเวนต์นี้จึงต้องพยายามอย่างหนักที่จะทำอาหารให้ที่ดีที่สุด เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้าบูท นี่คือ Reality Food Festival

หนุ่ม กิติกรกล่าวอีกว่า ในอีเวนต์นี้จะไม่มีการกำหนดราคาอาหารเพราะเป็นเรียลิตี้โชว์ ถ้าขายแพงคนอาจไม่ซื้อ หรือขายถูกคนอาจซื้อเยอะซึ่งขึ้นอยู่กับเชฟแต่ละคน และขึ้นอยู่กับว่าราคาจะสมความอร่อยหรือไม่

กรรมการในรายการและเชฟดัง ๆ อาจทำยอดขายแพ้เชฟเด็ก ๆ ก็ได้ นี่คือไฮไลต์ ซึ่งทุกคนจะต้องใช้ช่องทางโซเชียลของตัวเองด้วยเพื่อโปรโมตให้มากที่สุด

“ไม่มีใครสามารถทำแบบนี้ได้ ถ้าเจ้าอื่นทำคงไม่มีใครมาขายเพราะต้องจัดอันดับยอดขายขึ้นจอ แต่เชฟที่มาออกบูทเป็นเชฟที่เคยร่วมงานกับเรา โตมากับเรา และเข้าใจธรรมชาติของความเป็น Heliconia ดี เราทำมาด้วยกันหลายอย่างทั้งเชฟกระทะเหล็ก มาสเตอร์เชฟ ท็อปเชฟ และอีกมากมาย”

สุดท้ายเราเชื่อว่าคนที่ไปงานนี้ไม่ได้กินแค่บูทเดียว นี่คือการเปิดสงครามการแข่งขันการขายอาหารในฟู้ดเฟสติวัล ที่ทุกคนต้องมีกลยุทธ์ของตัวเอง ซึ่งมีทั้งข้อได้เปรียบและเสียเปรียบ เสียเปรียบบนความได้เปรียบ ได้เปรียบบนความเสียเปรียบ

นอกจากนี้ เราจะนำการแข่งขันในเฟสติวัลไปทำเป็นรายการ เราจะเข้าไปถามเลยว่า เชฟครับ ทำไมยอดขายถึงได้เท่านี้ ทำไมเด็กคนนั้นถึงขายดีกว่าเชฟ นี่คือเรียลิตี้โชว์ ซึ่งคนที่ทำยอดขายได้ดีที่สุดเป็นอันดับ 1 จะได้รับความชื่นชม จะถูกนำโปรดักต์ไปพัฒนาต่อ

กิติกร เพ็ญโรจน์
กิติกร เพ็ญโรจน์

คาดหวังความสำเร็จ

หนุ่ม กิติกรเผยว่า Food Festival ครั้งนี้เป็นพื้นที่ให้แฟนคลับได้สัมผัสประสบการณ์จริงกับอาหารของเชฟ แน่นอนต้องคาดหวังให้คนมาร่วมงานเยอะ ๆ เพราะไม่มี Food Festival ไหนที่ทำแบบนี้

รายได้ของเรามาจากสปอนเซอร์ 100% เชฟที่มาออกบูทไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพราะเราต้องการให้เชฟได้มีหน้าร้านของตัวเองและเจอบรรดาแฟนคลับ

ตลอด 10 วันตั้งเป้าว่าคนเข้างานประมาณ 3-5 แสนคน หรือเฉลี่ยวันละ 3-5 หมื่นคน

อีเวนต์ทำให้เชฟมีประสบการณ์มากขึ้น สร้างสรรค์มากขึ้น ต้องมีการแข่งขัน พัฒนาอาหารไปในตัว

ภายในงานไม่จำเป็นต้องเป็นอาหารไทยเท่านั้น สามารถเอาไปผสมผสาน หรือเป็นอาหารต่างชาติได้ แต่ในอนาคตเราก็จะทำเฟสติวัลที่เป็นอาหารไทยล้วน เหมือนที่เราทำมาสเตอร์เชฟอาหารไทย

อีเวนต์ต่อไปเราจึงวางไว้เเล้วว่าจะเชิดชูอาหารไทย เพราะสามารถนำเสนอได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นไทยแท้ดั้งเดิมที่จัดจานสวยและรสชาติเป็นไทย ไทยผสมผสาน หรือไทยโมเดิร์น

ท้ายที่สุดฟู้ดอีเวนต์เป็นอีกหนึ่งโรดแมปของภาครัฐ และเราจะทำอีกในปีหน้า โดยเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ไปเรื่อย ๆ ซึ่งจะทำให้พื้นที่กลายเป็นจุดท่องเที่ยวแห่งใหม่ หรือเป็นการต่อยอดด้านวัฒนธรรมอาหารของประเทศไทยต่อไป

เตรียมพบกับการออกบูทจากร้านของเซเลบริตี้เชฟ และสงครามประชันยอดขายในงาน Heliconia Food Festival ระหว่างวันที่ 11-20 สิงหาคม 2566 ที่ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์