
Heliconia Food Festival เทศกาลอาหารที่รวบรวมร้านของเซเลบริตี้เชฟกว่า 80 คน จากรายการเชฟกระทะเหล็ก มาสเตอร์เชฟ ท็อปเชฟ และอีกมากมาย จัดใหญ่เรียลิตี้อีเวนต์ กับสงครามประชันยอดขาย วันที่ 11-20 สิงหาคมนี้ ที่ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์
Heliconia Food Festival จัดใหญ่กับเทศกาลอาหารที่รวบรวมเซเลบริตี้เชฟแถวหน้าของเมืองไทยจากรายการในเครือ Heliconia ทั้งเชฟกระทะเหล็ก, มาสเตอร์เชฟ, ท็อปเชฟ และอีกมากมาย เตรียมสร้างปรากฏการณ์เรียลิตี้อีเวนต์แบบใหม่ กับสงครามประชันยอดขายครั้งแรกในเมืองไทย
“หนุ่ม-กิติกร เพ็ญโรจน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮลิโคเนีย เอช กรุ๊ป จำกัด เผยกับ ”ประชาชาติธุรกิจ” ว่า Heliconia Food Festival เริ่มจากความต้องการที่จะต่อยอดความสำเร็จจากหน้าจอทีวีสู่ชีวิตจริงในรูปแบบ Festival
Heliconia เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์รายการอาหารระดับโลกมากมาย เมื่อเป็นผู้นำด้านรายการอาหารแล้ว ต้องเป็นผู้นำการจัดอีเวนต์ด้านอาหารด้วย
คนรู้จักรายการที่เราทำแล้ว ทั้งเชฟกระทะเหล็ก, มาสเตอร์เชฟ, ท็อปเชฟ และอีกมากมาย ต่อไปคือจัดอีเวนต์ให้คนได้ไปเดิน ไปกิน ไปเจอเชฟ ได้สัมผัสสิ่งที่อยู่ในจอทีวีจริง ๆ หนุ่มกิติกรกล่าว
Food Theme Park
Heliconia Food Festival เป็นการรวบรวมเชฟจากรายการทั้งหมดในเครือ Heliconia ไม่ว่าจะเป็น เชฟกระทะเหล็กประเทศไทย, มาสเตอร์เชฟ ประเทศไทย, ท็อปเชฟ และอีกหลายรายการ เป็นการรวมเซเลบริตี้ เชฟ ที่มากที่สุดกว่า 80 คน มาจัด Food Festival โดยผู้ที่เข้าชมงานจะได้พบปะกับเชฟและกรรมการในรายการ ขณะเดียวกันก็จะได้สัมผัสอาหารที่บรรดาเชฟได้รังสรรค์
Heliconia Food Festival จัดขึ้นเป็นครั้งแรก มาในคอนเซ็ปต์ “Food Theme Park” หรืออุโมงค์เขาวงกตมหัศจรรย์ บรรยากาศจึงสนุกสนานกว่างาน Food Festival ทั่วไปที่นำบูทมาวางเรียงกัน
โดยมีการแบ่งเป็น 3 โซน ประกอบไปด้วย โซนอาหารว่าง ที่เชฟจะทำอาหารว่างในธีมทะเลแคริบเบียนหรือโจรสลัด เพราะฉะนั้นวัตถุดิบที่ใช้จึงมาจากใต้ท้องทะเล
ถัดมา โซนอาหารจานหลัก มีการตกแต่งภายในเหมือนเมืองของพ่อมดและแม่มด เชฟจะทำอาหารในกิมมิกเวทมนตร์
สุดท้าย โซนของหวาน มีการตกแต่งบรรยากาศเป็น Wonderland ดินแดนแห่งเทพนิยาย นอกจากนี้ทั้ง 3 โซนจะมีเวทีแสดงดนตรีและ Cooking Show จากเชฟที่หมุนเวียนมาทำอาหารให้ชมกันสด ๆ ซึ่งเป็นรูปแบบการจัด Food Festival แบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
เรียลิตี้โชว์ สงครามแข่งขันยอดขาย
หนุ่ม กิติกรเผยว่า เนื่องจาก Heliconia เป็นบริษัททำรายการเรียลิตี้โชว์ด้านอาหาร ความเป็นเรียลิตี้จึงถูกนำมาไว้ในอีเวนต์ด้วย นั่นคือ เชฟและกรรมการทุกคนจะต้องแข่งขันทำยอดขายอาหารกัน โดยทุก 30 นาที จะมีการแสดงยอดขายผ่านหน้าจอภายในงาน ว่าใครเป็น 5 อันดับที่ขายได้มากที่สุด และใครกำลังอยู่ใน 5 อันดับท้าย
เชฟที่ไปอยู่ในอีเวนต์นี้จึงต้องพยายามอย่างหนักที่จะทำอาหารให้ที่ดีที่สุด เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้าบูท นี่คือ Reality Food Festival
หนุ่ม กิติกรกล่าวอีกว่า ในอีเวนต์นี้จะไม่มีการกำหนดราคาอาหารเพราะเป็นเรียลิตี้โชว์ ถ้าขายแพงคนอาจไม่ซื้อ หรือขายถูกคนอาจซื้อเยอะซึ่งขึ้นอยู่กับเชฟแต่ละคน และขึ้นอยู่กับว่าราคาจะสมความอร่อยหรือไม่
กรรมการในรายการและเชฟดัง ๆ อาจทำยอดขายแพ้เชฟเด็ก ๆ ก็ได้ นี่คือไฮไลต์ ซึ่งทุกคนจะต้องใช้ช่องทางโซเชียลของตัวเองด้วยเพื่อโปรโมตให้มากที่สุด
“ไม่มีใครสามารถทำแบบนี้ได้ ถ้าเจ้าอื่นทำคงไม่มีใครมาขายเพราะต้องจัดอันดับยอดขายขึ้นจอ แต่เชฟที่มาออกบูทเป็นเชฟที่เคยร่วมงานกับเรา โตมากับเรา และเข้าใจธรรมชาติของความเป็น Heliconia ดี เราทำมาด้วยกันหลายอย่างทั้งเชฟกระทะเหล็ก มาสเตอร์เชฟ ท็อปเชฟ และอีกมากมาย”
สุดท้ายเราเชื่อว่าคนที่ไปงานนี้ไม่ได้กินแค่บูทเดียว นี่คือการเปิดสงครามการแข่งขันการขายอาหารในฟู้ดเฟสติวัล ที่ทุกคนต้องมีกลยุทธ์ของตัวเอง ซึ่งมีทั้งข้อได้เปรียบและเสียเปรียบ เสียเปรียบบนความได้เปรียบ ได้เปรียบบนความเสียเปรียบ
นอกจากนี้ เราจะนำการแข่งขันในเฟสติวัลไปทำเป็นรายการ เราจะเข้าไปถามเลยว่า เชฟครับ ทำไมยอดขายถึงได้เท่านี้ ทำไมเด็กคนนั้นถึงขายดีกว่าเชฟ นี่คือเรียลิตี้โชว์ ซึ่งคนที่ทำยอดขายได้ดีที่สุดเป็นอันดับ 1 จะได้รับความชื่นชม จะถูกนำโปรดักต์ไปพัฒนาต่อ

คาดหวังความสำเร็จ
หนุ่ม กิติกรเผยว่า Food Festival ครั้งนี้เป็นพื้นที่ให้แฟนคลับได้สัมผัสประสบการณ์จริงกับอาหารของเชฟ แน่นอนต้องคาดหวังให้คนมาร่วมงานเยอะ ๆ เพราะไม่มี Food Festival ไหนที่ทำแบบนี้
รายได้ของเรามาจากสปอนเซอร์ 100% เชฟที่มาออกบูทไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพราะเราต้องการให้เชฟได้มีหน้าร้านของตัวเองและเจอบรรดาแฟนคลับ
ตลอด 10 วันตั้งเป้าว่าคนเข้างานประมาณ 3-5 แสนคน หรือเฉลี่ยวันละ 3-5 หมื่นคน
อีเวนต์ทำให้เชฟมีประสบการณ์มากขึ้น สร้างสรรค์มากขึ้น ต้องมีการแข่งขัน พัฒนาอาหารไปในตัว
ภายในงานไม่จำเป็นต้องเป็นอาหารไทยเท่านั้น สามารถเอาไปผสมผสาน หรือเป็นอาหารต่างชาติได้ แต่ในอนาคตเราก็จะทำเฟสติวัลที่เป็นอาหารไทยล้วน เหมือนที่เราทำมาสเตอร์เชฟอาหารไทย
อีเวนต์ต่อไปเราจึงวางไว้เเล้วว่าจะเชิดชูอาหารไทย เพราะสามารถนำเสนอได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นไทยแท้ดั้งเดิมที่จัดจานสวยและรสชาติเป็นไทย ไทยผสมผสาน หรือไทยโมเดิร์น
ท้ายที่สุดฟู้ดอีเวนต์เป็นอีกหนึ่งโรดแมปของภาครัฐ และเราจะทำอีกในปีหน้า โดยเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ไปเรื่อย ๆ ซึ่งจะทำให้พื้นที่กลายเป็นจุดท่องเที่ยวแห่งใหม่ หรือเป็นการต่อยอดด้านวัฒนธรรมอาหารของประเทศไทยต่อไป
เตรียมพบกับการออกบูทจากร้านของเซเลบริตี้เชฟ และสงครามประชันยอดขายในงาน Heliconia Food Festival ระหว่างวันที่ 11-20 สิงหาคม 2566 ที่ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์