เปิดประวัติ มาดามแป้ง นักธุรกิจหญิงเก่งมากคอนเน็กชั่น ประมุขลูกหนังเมืองไทย

มาดามแป้ง

เปิดประวัติ “มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ” นักธุรกิจหญิงเก่งมากคอนเน็กชั่น ทายาทรุ่นที่ 5 ของตระกูลล่ำซำ กับประสบการณ์ 16 ปีบนเส้นทางสายฟุตบอล สู่วันขึ้นเป็นประมุขลูกหนังหญิงคนแรกของเมืองไทย

“มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ” เกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2509 ปัจจุบันอายุ 57 ปี เป็นทายาทรุ่นที่ 5 ของตระกูลล่ำซำ บุตรีของ “โพธิพงษ์ ล่ำซำ” อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กับ “ยุพา ล่ำซำ” กรรมการผู้จัดการบริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) มีน้องสาว คือ “วรรณพร พรประภา” และน้องชาย คือ “สาระ ล่ำซำ”

สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ปริญญาตรีสาขาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท สาขาการจัดการ มหาวิทยาลัยบอสตัน สหรัฐอเมริกา พ.ศ. 2532

ชีวิตครอบครัว มาดามแป้ง สมรสครั้งแรกกับ “ดร.วัชระ พรรณเชษฐ์” ประธานกรรมการ บริษัทสิทธิผลเซลส์ และ บริษัทเยอรมันออโต้ โดยหย่าร้างกันเมื่อปี พ.ศ. 2548 มีบุตรสาวหนึ่งคน คือ “นวลวรรณ พรรณเชษฐ์” ปัจจุบัน มาดามแป้ง สมรสกับ “พันตำรวจเอก ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์” รองเลขาธิการพระราชวัง

ด้านธุรกิจ มาดามแป้ง มีบทบาทในการบริหารอยู่หลานบริษัท เป็นผู้นำเข้าสินค้าแบรนด์เนม 2 บริษัท คือ บริษัท วรรณมานี จำกัด ผู้นำเข้าสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมหรูจากต่างประเทศ ทั้ง Emporio Armani, JP Tod’s, Rodo, Christofle, Blumarine และบริษัท ซังออนอเร่ (กรุงเทพ) จำกัด ผู้นำเข้า แอร์เมส (Hermes) รวมทั้งดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งหลายคนอาจคุ้นกันดีกับตำแหน่งนี้

นวลพรรณ ล่ำซำ

16 ปีในวงการฟุตบอล

มาดามแป้ง เข้าสู่วงการฟุตบอลไทยเมื่อ พ.ศ. 2551 ในแหน่งผู้จัดการทีม “ชบาแก้ว” ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย สร้างประวัติศาสตร์พาสาวไทยไปเล่นในศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้สำเร็จถึง 2 สมัย ที่ประเทศแคนาดา เมื่อ พ.ศ.2558 และที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อ พ.ศ. 2562 และอีกผลงานคือการจบอันดับ 5 ในศึกเอเชียน คัพ เมื่อ พ.ศ. 2557 พาฟุตบอลหญิงไทยไปแข่งขันทุกเวทีทั้งระดับอาเซียน เอเชีย และระดับโลก

ต่อมาใน พ.ศ. 2558 มาดามแป้งได้เข้าบริหารทัพ “สิงห์เจ้าท่า” สโมสรฟุตบอลการท่าเรือ เอฟ.ซี. ในระดับไทยลีก พร้อมคำเตือนมากมาย แต่ก็พาสิงห์เจ้าท่า กลับสู่ความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ครั้งแรกในรอบ 10 ปี เมื่อฤดูกาล 2019 และมีมาตรฐานลงเล่นในศึกเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ตลอด 4 ฤดูกาลหลัง

รวมแล้วเป็นระยะเวลากว่า 8 ปี กับประสบการณ์ในลีกสูงสุดของประเทศ ก่อนจะประกาศลาออกจากตำแหน่งเพื่อเตรียมเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ในช่วงที่ผ่าน

จนกระทั่งวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2564 มาดามแป้งได้เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติไทย ชุดใหญ่และ U-23 ซึ่งนับเป็นภารกิจสำคัญที่สุดก็ว่าได้ในเส้นทางการเดินทางสายฟุตบอล เป็นเวลากว่า 890 ในตำแหน่งนี้กับกุนซือ 2 คน คือ “มาโน โพลกิ้ง” และ “มาซาทาดะ อิชิอิ”

คว้าแชมป์ 2 สมัยคือ อาเซี่ยน คัพ 2020 และ อาเซียน คัพ 2022 ก่อนจะสร้างประวัติศาสตร์ในรายการเอเชียน คัพ 2023 รอบสุดท้ายด้วยการชนะนัดเปิดสนาม และทำสถิติไร้พ่ายในรอบแบ่งกลุ่ม โดยไม่เสียแม้แต่ประตูเดียว

รวมผลงานในฐานะผู้จัดการทีม 42 นัด แบ่งเป็น ยุคมาโน โพลกิ้ง 37 นัด และ อิชิอิ 5 นัด ชนะไป 22, เสมอ 10 และแพ้ 10 นัด ยิงได้ 72 และเสีย 44 ประตู

ในที่สุด 16 ปีบนเส้นทางสายฟุตบอล มาดามแป้ง ก็ขึ้นแท่นเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ คนที่ 18 ชนะขาดด้วยคะแนน 68 จาก 73 เสียง หรือคิดเป็น 93%

กลายเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ผู้หญิงคนแรกของประเทศไทย นับตั้งแต่ก่อตั้งสมาคมมา 108 ปี และยังเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ผู้หญิง คนแรกในประวัติศาสตร์ของชาติสมาชิกในทวีปเอเชีย พร้อมกับเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ผู้หญิงคนที่ 7 ของโลกด้วย

มาดามแป้งเป็นหญิงเก่ง นักธุรกิจใหญ่ พร้อมกับคอนเน็กชั่นทางสังคมที่กว้างขวาง ยิ่งในวงการกีฬาดูจากการฟอร์มทีมบริหารสมาคมแล้ว ล้วนมีแต่บิ๊กเนมในวงการฟุตบอล โดยมี “เนวิน ชิดชอบ” แห่งบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดเป็นที่ปรึกษา พร้อมด้วยอุปนายกที่ชนะเลือกตั้งยกทีม ได้แก่ วิลักษณ์ โหลทอง, ปวิณ ภิรมย์ภักดี, อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ, ชาญวิทย์ ผลชีวิ และอรรณพ สิงห์โตทอง 69 คะแนน

ไม่แปลกใจที่แฟนชาวไทยจะคาดหวังในยุคที่มี นวลพรรณ ล่ำซำ เป็นประมุขลูกหนัง ฟุตบอลไทยจะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่ง