ชิงปรับโครงสร้าง OR ดัน สุชาติ ผงาดขึ้น ผอ.ใหญ่

สุชาติ ระมาศ
สุชาติ ระมาศ

ศึกชิง CEO บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ได้ก้าวเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการแข่งขันแล้ว

ล่าสุดในวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา OR ได้ทำหนังสือแจ้ง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยอ้างถึงการประชุม “นัดพิเศษ” ครั้งที่ 3/2565 วันที่ 29 สิงหาคม 2565 กับ การประชุม “นัดพิเศษ” ครั้งที่ 4/2565 วันที่ 8 กันยายน 2565 ได้มีมติสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเกษียณอายุครบ 60 ปี ของ น.ส.จิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่และทิศทางของ OR ที่ว่า “ใคร” จะขึ้นมาเป็น “เบอร์ 1” ในบริษัทนี้

โดยมติสำคัญในการประชุมนัดพิเศษ อ้างถึง น.ส.จิราพร ได้ “ลาออก” จากการเป็นกรรมการของบริษัท เนื่องจากเกษียณอายุและบอร์ดบริษัทได้มีมติ 3 ข้อ คือ ข้อ 1 บอร์ด OR แต่งตั้งให้ นายวิศาล ชวลิตานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ศักยภาพองค์กร ให้ดำรงตำแหน่ง “รักษาการ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ Acting Chief Executive Officer แทน น.ส.จิราพร ขาวสวัสดิ์

โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2565 เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะสิ้นสุด “กระบวนการสรรหาบุคคล” เพื่อดำรงตำแหน่ง พร้อมมีวงเล็กหมายเหตุไว้ว่า เพื่อรองรับการปรับโครงสร้างองค์กร โดยตำแหน่งรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ หรือ Acting President and Chief Executive Officer (ซึ่ง น.ส.จิราพร ดำรงตำแหน่งทั้ง 2 ก่อนที่จะเกษียณอายุ) จะมีการเปลี่ยนชื่อเป็นตำแหน่งรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ Acting Chief Executive Officer ต่อไป

ข้อ 2 ให้มีการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ และข้อ 3 แต่งตั้งให้ นายสุชาติ ระมาศ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ หรือ President ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป

ทั้งนี้มีข้อน่าสังเกตว่า มติข้างต้นมีขึ้นก่อนที่จะถึงกำหนดเวลาที่ น.ส.จิราพร จะเกษียณอายุเพียงไม่ถึง 3 สัปดาห์ ที่ “ใคร” จะขึ้นมาแทนตำแหน่งของ น.ส.จิราพร ซึ่งนั่งควบอยู่ 2 ตำแหน่ง คือ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กับ กรรมการผู้จัดการใหญ่

โดยมี “แคนดิเดต” สำคัญ 2 คน คือ นายดิษทัต ปันยารชุน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ กับ นายสุชาติ ระมาศ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารศักยภาพองค์กรและธรรมาภิบาล อดีตรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจค้าปลีก OR ที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันว่า เป็นแคนดิเดตสำคัญที่คู่คี่กันมาตลอด (อ่านศึกชิง ปตท.โออาร์ 2 เก้าอี้ในหน้า 3)

ทว่า มติสำคัญในการประชุม “นัดพิเศษ” ทั้ง 2 ครั้งทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไป หากพิจารณาดี ๆ จะพบว่า OR ได้ก้าวเข้ามาสู่การปรับโครงสร้างองค์กร (organization structure) ซึ่งเป็นการปรับโครงสร้าง “ก่อนที่จะมี CEO ใหม่” จากผังองค์กรจะพบมีตำแหน่ง “ผู้อำนวยการใหญ่ (President)” เสมือนหนึ่งตั้งขึ้นเพื่อรองรับ นายสุชาติ ระมาศ โดยเฉพาะ

ตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ทำอะไรบ้าง ? ตามแผนผังการ “จัดสรร” ปรากฎมีระดับรองขึ้นตรง 5 ตำแหน่ง คือ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจเอนเนอร์ยีโซลูชั่น-รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการคลังปิโตรเลียม-รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจหล่อลื่น-รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจไลฟ์สไตล์-รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน และโครงการ ORion (หน่วยงานพิเศษเดิมขึ้นอยู่กับ CEO เท่านั้น)

ขณะที่ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน-รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลยุทธ์องค์กรและความยั่งยืน-รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจต่างประเทศ-รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารศักยภาพองค์กร พร้อมทั้ง ฝ่ายกฎหมาย ฝ่ายสื่อสารองค์กร สำนักประธาน CEO ฝ่ายธรรมาภิบาล ไม่ได้ขึ้นกับ “ผู้อำนวยการใหญ่” แต่ถูกจัดสรรไปให้กับ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ CEO แทน

เท่ากับเป็นการ “สลาย” ตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ของ OR ซึ่งเป็นตำแหน่งที่แทบทุกบริษัทในเครือ ปตท. คุ้นเคยและใช้โครงสร้างนี้อยู่แล้วในปัจจุบัน ตามมาด้วยการจัดสรรแบ่งหน้าที่ในการบริหารจัดการใหม่ จากเดิมที่ “เบ็ดเสร็จ” อยู่ในคนคนเดียวมาเป็น CEO คนหนึ่ง กับ ผู้อำนวยการใหญ่ อีกคนหนึ่ง

เพียงแต่การจัดสรรครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนที่กระบวนการสรรหา CEO คนใหม่จะเสร็จสิ้น อาจเป็น “แคนดิเดต” ที่เหลือ หรือบุคคลอื่นที่เหมาะสมที่อยากเข้ามาใน OR เพราะ OR คือ โอกาสที่เปิดกว้างให้กับผู้มีคุณสมบัติ “ต้องฟังซึ่งกันและกัน ทำงานเป็นทีม เข้าใจทิศทางการทำงานร่วมกัน และอยู่ในบริบทการเป็นรัฐวิสาหกิจ” ตามที่ น.ส.จิราพร CEO คนเก่าฝากไว้ทุกประการ