เฉลิมชัย มั่นใจน้ำไม่ท่วมซ้ำรอยปี’54 อธิบดีกรมชลฯ ยันไม่มีน้ำการเมือง

สถานการณ์น้ำ

เฉลิมชัย ลงเรือติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ชี้ไม่ต้องกังวลปริมาณน้ำเหนือ มั่นใจน้ำไม่ท่วมเหมือนปี’54 แจ้งเตือนไปยัง 11 จังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยามาโดยตลอด รับปีนี้ปริมาณน้ำฝนช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาตกติดต่อกันมากกว่าวันละ 100 มิลลิเมตร ทำให้ปัญหาพื้นที่รังสิต-ประเวศ พร้อมเร่งระบายลงสู่ทะเลเร็วที่สุด ด้านอธิบดีกรมชลประทาน ยันไม่มีน้ำการเมือง หรือการรับน้อง

วันที่ 13 กันยายน 2565 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ภายหลังน้ำฝนตกหนักต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันกระทรวงเกษตรฯ โดยกรมชลประทานมีการบริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ 1,800-2,000 ลบ.ม./วินาที เพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชนและพื้นที่การเกษตร

โดยได้มีการแจ้งเตือนไปยัง 11 จังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ จังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ปัจจุบันปริมาณน้ำเหนือยังน้อย สังเกตได้จากสถานี C2 จังหวัดนครสวรรค์ ที่มีการระบายน้ำอยู่ที่ 1,851 ลบ.ม./วินาที ซึ่งปริมาณดังกล่าวจะระบายผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาออกทะเลเป็นหลัก จะยังไม่มีการระบายน้ำผ่านระบบบริหารน้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตกและตะวันออก

“เห็นได้ชัดว่า วันนี้ (13 ก.ย. 65) กรมชลประทานระบายน้ำเข้าฝั่งตะวันออกเพียง 41 ลบ.ม./วินาที เท่านั้น สำหรับใช้เพื่อการอุปโภค-บริโภค ขณะที่เจ้าพระยาฝั่งตะวันตกระบายเพียง 20 ลบ.ม./วินาที ดังนั้นปริมาณน้ำดังกล่าวจึงไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล แต่กรณีที่มีปริมาณน้ำมากในคลองรอบกรุงเทพมหานคร เช่น คลองรังสิต และคลองประเวศฯ เป็นผลมาจากปริมาณน้ำฝนที่ตกต่อเนื่องในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มากกว่าวันละ 100 มิลลิเมตร

จึงได้มอบหมายให้กรมชลประทานระดมเครื่องสูบน้ำ เพื่อช่วยระบายน้ำออกสู่ทะเลในพื้นที่คลองต่าง ๆ รอบกรุงเทพฯ เพื่อช่วยลดผลกระทบในพื้นที่ กทม. เช่น ระดมสูบน้ำในคลองรังสิตไปออกแม่น้ำบางปะกง และสูบในคลองประเวศฯ ไปออกทะเลที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร

ทั้งนี้ ระดับน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่กรุงเทพฯ นนทบุรี และปทุมธานี ซึ่งอยากเปรียบเทียบให้เห็นว่าในช่วงเวลาเดียวกันนี้ เดือนกันยายน ในปี 2564 มีการระบายน้ำอยู่ที่ประมาณ 2,800 ลบ.ม. แต่ในปีนี้ มีการปล่อยน้ำที่ 1,851 ลบ.ม./วินาที จึงอยากให้มั่นใจว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังอยู่ในสถานการณ์ปกติ

อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กทม. และจังหวัดทุกจังหวัด และจะมีการประกาศแจ้งเตือนให้กับพื้นที่ได้รับทราบทันที สำหรับข้อกังวลใจว่าจะเกิดสถานการณ์น้ำท่วมเหมือนปี’54 นั้น ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ส่วนการทำงานร่วมกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.นั้น ยืนยันว่า กระทรวงเกษตรทำงานร่วมกับ กทม.มาโดยตลอด เป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันอยู่แล้ว” นายเฉลิมชัยกล่าว

ส่วนการให้ความช่วยเหลือในปัจจุบัน ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หลังจากฝนที่ตกสะสมตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา กรมชลประทานได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 150 เครื่อง ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 260 เครื่อง เครื่องจักรอื่น ๆ 1 เครื่อง และกระสอบทราย 12,000 กระสอบ

นอกจากนี้ กรมปศุสัตว์ยังได้ดำเนินการอพยพสัตว์ 2,181 ตัว แจกจ่ายหญ้าพระราชทาน 173.46 ตัน อาหาร TMR 4.50 ตัน สร้างเสริมสุขภาพสัตว์ 41 ตัว รักษาสัตว์ 10 ตัว และสนับสนุนถุงยังชีพสัตว์ 106 ถุง พร้อมสนับสนุนเรือยางของกรมประมง จำนวน 1 ลำ พร้อมเจ้าหน้าที่

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มีน้ำการเมือง หรือการรับน้องแต่อย่างใด กรมชลประทานระบายน้ำเป็นไปอย่างปกติ ซึ่งต้องระบายในอัตราเพื่อรักษาระบบนิเวศ การอุปโภคของประชาชนให้สมดุล

“ปีนี้ยอมรับว่า ด้วยสถานการณ์ฝนที่ตกหนัก มากกว่า 100 มิลลิเมตรติดต่อกันหลายวัน ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง ซึ่งกรมชลประทานพร้อมสนับสนุนการระบายน้ำแก้ไขในทุกจุด รวมถึงที่ลาดกระบังก็มีการบริหารจัดการน้ำในคลองประเวศ หลังฝนตกหนักทำน้ำล้นตลิ่ง เร่งผลักดันลงแม่น้ำบางปะกง” นายประพิศกล่าว