บาทอ่อนสุดเป็นประวัติการณ์ สุพันธุ์ แนะหารายได้เพิ่ม พลิกวิกฤตเป็นโอกาส

หวั่นเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.75% ค่าเงินบาทได้อ่อนค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ระดับ 37 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ฉุดเงินทุนสำรองของไทยลดมูลค่าลงไปทันทีจาก 2.78 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เหลือ 2.4 แสนล้านเหรียญสหรัฐ คาดการณ์ 28 ก.ย.นี้ กนง.เตรียมปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีกประมาณ 0.25-0.50% เท่ากับครึ่งปีหลังดอกเบี้ยนโยบายรวม 0.75% กระทบต่อประชาชน

วันนี้ 21 กันยายน 2565 นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคไทยสร้างไทย ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า

จริง ๆ แล้วปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่เงินบาทอ่อนเกินไป แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจาก ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐนั้นแข็งเกินไป เพราะถ้าหากดูสัดส่วนอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว ความเป็นจริงคือค่าเงินบาทไทยนั้นถือว่าแข็งกว่าหลายสกุลเช่น เงินบาทไทยต่อเยน หรือเงินบาทไทยต่อปอนด์ แต่ปัญหาใหญ่เป็นเพราะค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งเกินไป

“หาก กนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ยตามเฟดนั้นจะไม่ได้แก้ปัญหาอะไร แต่จะนำมาซึ่งปัญหาที่มากขึ้นคือประชาชนจะไม่มีเงินจับจ่ายใช้สอย การลงทุนก็อาจมีแนวโน้มที่ต่ำลง สิ่งที่รัฐบาลควรทำคือการสร้างรายได้ให้กับประเทศ และพลิกวิกฤตนี้เป็นโอกาส”

นายสุพันธุ์มองว่า สิ่งแรกที่รัฐบาลควรทำคือการสนับสนุนการส่งออกให้กับธุรกิจในประเทศ เพราะเมื่อค่าเงินอ่อนลง การส่งออกจะเติบโตได้มากขึ้นแต่ปัญหาจะติดอยู่ที่ต้นทุนการผลิตของสินค้าส่งออกจำนวนมากในประเทศนั้นยังต้องนำเข้าอยู่ จึงต้องมีการส่งเสริมทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าในประเทศถูกลงเพื่อที่จะส่งออกได้ และปัจจุบันสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกานั้น ทำให้ประเทศไทยได้เปรียบเพราะสินค้าจำนวนมากที่ผลิตจากประเทศจีนนั้นถูกแบน จึงมีความเป็นไปได้สูงมากที่นักลงทุนจำนวนมากจะย้ายฐานการผลิตจากจีนออกไปข้างนอก

ซึ่งโจทย์ใหญ่วันนี้คือจะทำอย่างไรให้นักลงทุนกลับมาเลือกไทยเป็นฐานการผลิต รัฐจำเป็นจะต้องออกนโยบายที่ให้ผลประโยชน์แก่นักลงทุนมาลงทุนในไทยมากขึ้น เพื่อหารายได้เข้าประเทศและเสริมสร้างอุตสาหกรรมและการเป็นฐานการผลิตในเอเชีย

“เมื่อค่าเงินเราอ่อนลง เราต้องมองถึงศักยภาพอื่นๆที่เรามีที่จะดึงเงินเข้าสู่ประเทศได้ คือด้านการท่องเที่ยว เพราะกำลังจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น รัฐจึงควรเร่งสร้างมาตรการต่างๆเพื่อดึงนักท่องเที่ยวกลับมาให้เร็วที่สุด เช่นการกลับมาเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ

การสร้างแพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น แพลตฟอร์มจองที่พัก และร้านอาหาร ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจัดทำขึ้นมาเอง โดยไม่ต้องพึ่งพา แพลตฟอร์มของต่างชาติ โดยให้ราคาและส่วนลดที่มากกว่า ที่แพลตฟอร์มของต่างประเทศทำได้ การลดระเบียบและกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ให้กับโรงแรมขนาดเล็ก และเกสต์เฮาส์ต่าง ๆ เพื่อดึงให้นักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวที่ประเทศไทยมากขึ้น”

พร้อมกันนี้ ได้เสนอประเด็นสุดท้ายคือการเปิดโอกาสทางด้านอสังหาริมทรัพย์ ให้คนต่างชาติสามารถถือครองที่ดินเพื่ออยู่อาศัยได้ โดยมีมาตรการป้องกัน เช่น อนุญาตให้ต่างชาติถือครองที่ดินได้ไม่เกิน 1 ไร่ และ ราคาไม่เกิน 30 ล้านบาท และมีการเก็บภาษีที่ดินในอัตราที่สูงกว่าคนไทยทั่วไป โดยอนุญาตให้เป็นที่อยู่อาศัยเท่านั้นและไม่อนุญาตให้ทำการค้า หรือการเกษตร

นายสุพันธุ์อธิบายต่อว่า การออกโยบายดังกล่าวจะไม่ส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจในภาพรวมแต่จะเป็นการเสริมเศรษฐกิจมากขึ้น เพราะในความเป็นจริงนั้นต่างชาติได้เข้ามาถือครองที่ดินในไทยอยู่แล้วเป็นจำนวนมาก แต่เป็นการถือครองผ่านนอมินี

การอนุญาตให้ต่างชาติสามารถถือครองได้นั้น จะเป็นการนำสิ่งที่อยู่นอกระบบ กลับเข้ามาในระบบ ให้รัฐได้ภาษีมากขึ้นจากคนต่างชาติที่ต้องจ่ายแพงกว่า และจะไม่ทำให้กระทบราคาอสังหาริมทรัพย์ในตลาดมากนัก เพราะที่ดินประมาณ 1 ไร่ ในราคา 30 ล้านบาทนั้นไม่สามารถหาได้อยู่แล้วในพื้นที่ใจกลางเมือง

นายสุพันธุ์ได้ทิ้งท้ายว่า ปัญหาที่เราเผชิญอยู่ในปัจจุบันไม่ได้อยู่ที่เงินบาทอ่อนค่า เพราะหากเทียบแล้วเงินบาทไทยถือว่าแข็งกว่าหลายสกุล แต่ทางสหรัฐก็ต้องหาทางแก้ปัญหาเงินเฟ้อในชาติตัวเองจึงออกนโยบายต่าง ๆ มา และการแก้ปัญหาแบบนี้จะเป็นไปเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น


ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้รัฐบาลไทยไม่ควรแก้ด้วยการเพิ่มดอกเบี้ยตาม แล้วมาเยียวยาคนในประเทศด้วยการอัดเงินเข้าไป แต่ควรหาแนวทางที่จะสร้างรายได้ให้กับคนในประเทศและรู้จักพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ดึงศักยภาพของประเทศออกมาใช้ให้เต็มที่มากกว่า