กรมการค้าภายในถกห้าง กางแผนรับมือน้ำท่วม ย้ำสินค้ามีเพียงพอ ไม่ต้องตุน

สินค้า-mama-บะหมี่สำเร็จรูป

กรมการค้าภายในถกห้างโมเดิร์นเทรด เตรียมแผนรับมือสถานการณ์สินค้าช่วงน้ำท่วม ย้ำสินค้ามีเพียงพอ ประชาชนไม่ต้องกักตุน

วันที่ 5 ตุลาคม 2555 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมที่ทำให้มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ติดตามสถานการณ์ราคาและปริมาณสินค้าอย่างใกล้ชิดว่าได้มีการสำรองสินค้าไว้อย่างเพียงพอหรือไม่ และมีข้อติดขัดในการขนส่งสินค้าหรือไม่

วัฒนศักย์ เสือเอี่ยม
วัฒนศักย์ เสือเอี่ยม

กรมการค้าภายในจึงได้ประชุมหารือร่วมกับห้างค้าปลีก-ค้าส่ง ได้แก่ บิ๊กซี โลตัส แม็คโคร ฟู้ดแลนด์ ท็อปส์ เดอะมอลล์ เซเว่นอีเลฟเว่น ลอว์สัน และแม็กซ์แวลู จากการประชุมครั้งนี้แต่ละห้างยืนยันว่าได้จัดเตรียมสินค้าคงคลังไว้เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคแล้ว สำหรับการขนส่งไปยังศูนย์กระจายสินค้าและสาขาของห้างยังคงสามารถดำเนินการได้ และมีแผนรับมือในสถานการณ์ฉุกเฉินไว้ด้วย

               

“ได้กำชับให้ห้างเพิ่มปริมาณสต๊อกสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการ โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความจำเป็น เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง อาหารสำเร็จรูป และน้ำดื่ม อีกทั้งให้เพิ่มความถี่ในการเติมสินค้าบนชั้นวางอยู่เสมอ ปิดป้ายราคาให้ชัดเจน และให้ห้างบริหารจัดการการจัดส่งสินค้าหากศูนย์กระจายสินค้าได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เช่น จัดหาศูนย์กระจายสินค้าสำรอง และเน้นการส่งสินค้าจากผู้ผลิตไปยังสาขาห้างโดยตรง เพื่อป้องกันปัญหาด้านการขนส่งสินค้า”

ทั้งนี้ กรมการค้าภายในพร้อมที่จะสนับสนุนในการประสานงานกับผู้ผลิตเพื่อจัดส่งสินค้าอุปโภคบริโภคไปยังห้างค้าส่ง-ค้าปลีกเพิ่มเติมในกรณีที่จำเป็นด้วย ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าปริมาณสินค้ามีเพียงพออย่างแน่นอน ไม่จำเป็นต้องกักตุน และกรมจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้าและปริมาณอย่างต่อเนื่อง

หากประชาชนพบเห็นการกักตุนสินค้าหรือขายสินค้าโดยไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ หากตรวจพบว่ามีการจำหน่ายสินค้าในราคาแพงเกินสมควร หรือมีการกักตุน หรือปฏิเสธการจำหน่าย จะมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายจะมีโทษสูงสุดปรับไม่เกิน 10,000 บาท