กกพ.งดเก็บเงินส่งเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้าชั่วคราว ลดต้นทุนค่าไฟแพง เริ่ม ม.ค. 66

ค่าไฟฟ้า-728x485

“กกพ.” เดินหน้างดเก็บเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้าชั่วคราว บรรเทาภาระต้นทุนค่าไฟแพงให้ประชาชน เริ่ม ม.ค. 66

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้มีมติเห็นชอบทบทวนการกำหนดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้าตามมาตรา 97 (4) จากเดิม “โดยเรียกเก็บจากผู้รับใบอนุญาตจำหน่ายไฟฟ้าในอัตรา 0.5 สตางค์ต่อหน่วย” เป็น “โดยเรียกเก็บจากผู้รับใบอนุญาตจำหน่ายไฟฟ้าในอัตราไม่เกิน 0.5 สตางค์ต่อหน่วย” ตามที่ กกพ. เสนอ โดยมอบหมายให้ กกพ.ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

คมกฤช ตันตระวาณิชย์
คมกฤช ตันตระวาณิชย์

ทั้งนี้ เพื่อให้การบริหารจัดการ และการกำกับดูแลการนำส่งเงินเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้า เป็นไปตามกรอบนโยบายตามที่ กพช.ให้ความเห็นชอบ และเป็นไปตามมติ กกพ. ในการประชุมเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2565 และ 12 ตุลาคม 2565 ที่ให้ทบทวนอัตราการนำเงินเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้า ตามาตรา 97(4) และมาตรา 97(5) โดยเรียกเก็บจากผู้ได้รับใบอนุญาตจำหน่ายไฟฟ้า ในอัตรา 0 (ศูนย์) เป็นการชั่วคราว

สำนักงาน กกพ.จะเร่งดำเนินการออกประกาศ เรื่องการนำส่งเงินเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำหรับผู้รับใบอนุญาตจำหน่ายไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน และเทคโนโลยีที่ใช้ในการประกอบกิจการไฟฟ้า ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย (มาตรา 97(4)) และประกาศ เรื่องการนำส่งเงินเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำหรับผู้รับใบอนุญาตจำหน่ายไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมสังคมและประชาชนให้มีความรู้ ความตระหนัก และมีส่วนร่วมทางด้านไฟฟ้า (มาตรา 97(5)) ในอัตรา 0 (ศูนย์) และจัดให้มีให้มีการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะผู้ที่เกี่ยวข้อง ผ่านทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ.ต่อไป

“คาดว่าจากมาตรการงดเว้นการจัดเก็บเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้าเป็นการชั่วคราว จะสามารถลดภาระค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนโดยเฉพาะในปี 2566 ที่แนวโน้มค่าไฟยังคงมีแนวโน้มสูงและแพงต่อเนื่องได้รวม 1,534.92 ล้านบาท โดยจะลดภาระค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนลงเป็นจำนวน 0.0063 บาทต่อหน่วย คาดว่าจะเริ่มมีผลตั้งแต่มกราคม 2566 เป็นต้นไป” นายคมกฤชกล่าว