เศรษฐกิจในประเทศ

จีนบุกตั้งโรงงานแบตโซเดียมไอออนรถ EV แก้เกมแร่ลิเทียมราคาพุ่ง-ขาดตลาด

โรงงานแบต จีน

ส.อ.ท.ชี้ปี 2566 ตลาดรถ EV ไปได้สวย มาตรการรัฐหนุนคาดยอดขายแตะ 25,000-30,000 คัน คาดอีก 4 ปี ราคาเท่ารถสันดาป เผยจีนเริ่มผลิตแบตเตอรี่ EV จากโซเดียมไอออนทดแทนแร่ลิเทียมที่กำลังขาดแคลนและราคาแพง คาดจ่อลงทุนไทย ด้านส่งออก ปี 2565 เฉียด 2 ล้านคัน ล่าสุด 9 เดือน ผลิต-ส่งออก-ขายในประเทศแล้ว 1.72 ล้านคัน

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงภาพรวมรถยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือน พ.ย. 2565 มีการจดทะเบียนใหม่มีจำนวน 2,878 คัน เพิ่มขึ้น 257.07% ซึ่งเป็นรถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่าง ๆ 1,314 คัน เพิ่มขึ้น 731.76%

โดยมีทั้งรถยนต์นั่ง รถยนต์นั่งโดยสารไม่เกิน 7 ที่นั่ง รถยนต์บริการธุรกิจ รถกระบะ รถแวน รถยนต์สามล้อรับจ้าง รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล รถจักรยานยนต์ รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล รถโดยสารที่เพิ่มขึ้นถึง 10,950% ส่งผลให้ 9 เดือนแรก มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 18,135 คัน เพิ่มขึ้น 234.53% ซึ่งมียอดจดทะเบียนในส่วนของรถบรรทุกเพิ่มเข้ามาถึง 23 คัน เพิ่มขึ้น 2,200%

สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์
สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์

สำหรับแนวโน้มของ EV ยังคงมีความต้องการจากผู้ใช้ คาดการณ์ว่ายอดขายปี 2565 จะถึง 10,000 คัน ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 8,000 คัน และในปี 2566 ยอดขายจะแตะ 25,000-30,000 คัน ยังคงเป็นผลมาจากมาตรการจากรัฐที่สนับสนุนเงินส่วนลดอยู่ 150,000 บาท ขณะที่รถมีการพัฒนามากขึ้น มีความปลอดภัย ราคารถเริ่มปรับลดลง ประชาชนมีกำลังซื้อมากขึ้น แนวโน้มยอดขายจึงยังดีต่อเนื่อง

ในส่วนของค่ายรถและนักลงทุนเอง มีความเชื่อมั่นมากขึ้น ในปี 2567 จะเห็นการเข้ามาตั้งฐานการผลิตรถ EV ในไทยเพิ่ม ตามข้อตกลงของมาตรการที่รัฐสนับสนุนด้านภาษีสรรพสามิตนำเข้า 0%

“ตอนนี้มีข้อมูลบ่งชี้ว่าแร่ลิเทียมกำลังขาดแคลน จึงมีการส่งสัญญาณว่าขณะนี้จีนเริ่มผลิตแบตเตอรี่จากโซเดียมไอออน จึงมีแนวโน้มว่าผู้ผลิตแบตเตอรี่ EV จากโซเดียมไอออนจะมาทำการศึกษาและใช้นวัตกรรมส่วนนี้ผลิตแบตป้อน EV แทนแบตลิเทียม ซึ่งจะทำให้ราคารถ EV ถูกลง เชื่อว่าในเวลาอีก 4 ปี ราคารถ EV จะเทียบเท่ากับราคารถสันดาป อยู่ที่ 7-8 แสนบาท/คัน เท่านั้น”

ในส่วนของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดปี 2566 คาดว่าจะอยู่ที่ 1,850,000-1,950,00 คัน แม้ราคารถจะแพงขึ้น แต่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ประชาชนมีความสามารถและรายได้เพิ่มขึ้น

นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงยอดผลิตรถยนต์ทุกประเภทเดือน พ.ย. 2565 มีจำนวน 190,155 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2564 ถึง 15% เนื่องจากได้รับชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์มากขึ้น จึงส่งผลให้ยอดผลิตรถยนต์เพื่อส่งออก 107,345 คัน เพิ่มขึ้น 19.12% และผลิตเพื่อขายในประเทศเพิ่มขึ้น 10.06%

ซึ่งหากรวม 9 เดือน (ม.ค.-พ.ย. 2565) มีจำนวน 1,724,909 คัน เพิ่มขึ้น 20.95% เป็นการส่งออกได้ 951,551 คัน หรือ 5.17% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้น 8.26%

ส่วนยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือน พ.ย. 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 68,284 คัน ลดลงจากปีที่แล้ว 4.79% เพราะมีน้ำท่วมในหลายพื้นที่ แต่ยังมีปัจจัยหนุนจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ 9 ล้านกว่าคน รวมทั้งนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศมีเงินลงทุนกว่า 1 แสนล้านบาท ส่งผลให้คนมีงานทำเพิ่มขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้น