ราคาน้ำมันดิบ (26 ธ.ค. 65) ปรับเพิ่ม หลังรัสเซียส่งสัญญาณลดกำลังผลิต

ราคาน้ำมันดิบ
Photo by Mladen ANTONOV / AFP

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังรัสเซียส่งสัญญาณลดกำลังการผลิต เพื่อตอบโต้มาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมัน

วันที่ 26 ธันวาคม 2565 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสเทกซัสและเบรนต์ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังนายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซียเปิดเผยว่า รัสเซียอาจลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 5%-7% ในช่วงต้นปี 2566 เพื่อตอบโต้มาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมัน โดยการหยุดขายให้กับประเทศที่สนับสนุนมาตรการดังกล่าว โดยการส่งออกน้ำมันทะเลบอลติกของรัสเซียอาจลดลง 20% ในเดือน ธ.ค. จากเดือนก่อนหน้า หลังจากสหภาพยุโรปและกลุ่มประเทศ G7 กำหนดมาตรการคว่ำบาตรและจำกัดราคาน้ำมันดิบรัสเซียตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค.

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 23 ธ.ค. 2565 อยู่ที่ 79.56 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +2.07 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 83.92 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +2.94 เหรียญสหรัฐ

               

ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุน จากผลผลิตน้ำมันและก๊าซจากรัฐนอร์ทดาโคตาที่ส่งไปยังรัฐเท็กซัสก็หยุดชะงัก เนื่องจากประสบภาวะผลึกน้ำแข็งค้าง โดยในสัปดาห์นี้บ่อน้ำมันของรัฐนอร์ทดาโคตาได้ลดกำลังการผลิตลง 300,000 ถึง 350,000 บาร์เรลต่อวัน หรือหนึ่งในสามของกำลังการผลิตปกติ

โรงกลั่นน้ำมันตามแนวชายฝั่งอ่าวสหรัฐ หยุดดำเนินการ เนื่องจากอุณหภูมิที่เย็นจัด จากพายุฤดูหนาว ส่งผลให้อุปกรณ์ขัดข้อง คาดว่ากำลังการผลิตจากโรงกลั่นจะหายไปราว 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในขณะที่แผนการเดินทางของผู้ขับขี่รถยนต์ในช่วงคริสต์มาสและปีใหม่หยุดชะงัก ส่งผลให้ปริมาณการใช้น้ำมันก็ลดลงเช่นกัน

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นทางตอนใต้ของอเมริกา อีกทั้งการส่งออกของจีนที่มีแนวโน้มปรับลดลง เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในประเทศเริ่มฟื้นตัวขึ้น

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ ปรับเพิ่มขึ้น 3.14 % แตะระดับ 7.17 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ราคายังได้รับแรงกดดันจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากไต้หวัน และจีน