
กรมส่งเสริมการเกษตร เตือนเกษตรกรเตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ช่วง 27 พ.ค.-1 มิ.ย. 66 เฝ้าระวังป้องกันความเสียหาย พร้อมสั่งการเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมช่วยเหลือเกษตรกรเบื้องต้นและหลังเกิดภัย
วันที่ 24 พฤษภาคม 2566 นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตร สั่งการให้หน่วยงานภายใต้การกำกับลงพื้นที่แจ้งเตือนเกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัย น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 27 พฤษภาคม-1 มิถุนายน 2566 โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่ภาคตะวันออก และภาคใต้ของประเทศไทย
- พายุลูกใหม่จ่อเข้าไทย ชี้ความรุนแรงเท่า “เตี้ยนหมู่” ระวังน้ำท่วมใหญ่
- นายกฯตั้งบอร์ดใหญ่คุมแจกเงิน 10,000 บาท ห้าง-โมเดิร์นเทรดรับอานิสงส์
- กรมอุตุฯเตือน “พายุดีเปรสชั่น” เข้าไทย รับมือฝนตกหนัก-ท่วมฉับพลัน
“กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้มีประกาศเตือนให้เฝ้าระวัง กรมขอให้หน่วยงานเร่งลงพื้นที่แจ้งเตือนเกษตรกร และให้คำแนะนำในการรับมือก่อนเกิดเหตุ เพื่อป้องกันและระวังความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นต่อพื้นที่ทำการเกษตรไว้ด้วย โดยเฉพาะสวนไม้ผลซึ่งเป็นพืชที่ปลูกครั้งเดียวอยู่ได้นานหลายปี เกษตรกรจึงจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับปัญหาภัยธรรมชาติต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งภัยแล้ง ลมพายุ และน้ำท่วมไว้ล่วงหน้า”
ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ผลไม้ภาคตะวันออกหลายชนิดกำลังออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ทั้งทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง ส่วนภาคใต้ก็มีผลผลิตที่ใกล้ออกสู่ตลาดแล้วเช่นกัน
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรขอแนะนำ วิธีการดูแลสวนไม้ผล ไม้ยืนต้น ก่อนเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ด้วยวิธีการตัดแต่งกิ่งที่แน่นทึบหรือกิ่งที่ไม่ให้ผลผลิตออก เพื่อให้ทรงพุ่มโปร่ง ไม่ต้านลม สำหรับต้นไม้ผลที่อายุมากและมีลำต้นสูง อาจตัดทอนส่วนยอดให้ต่ำลงเพื่อป้องกันไม่ให้ต้นไม้โค่นล้มง่ายเมื่อถูกลมพายุพัดแรง
ขณะเดียวกันควรใช้เชือกโยงกิ่งและต้น เพื่อป้องกันกิ่งฉีกหัก รวมทั้งใช้ไม้ค้ำกิ่งและค้ำต้นเพื่อช่วยพยุงไม่ให้โค่นลงได้ง่าย รวมทั้งการทำเนินดินเพื่อป้องกันน้ำขังบริเวณโคน และทำระบบระบายน้ำ และควรเก็บผลผลิตที่แก่ออกไปบ่มหรือจำหน่ายก่อน เพื่อลดความเสียหาย และลดน้ำหนักบนกิ่งและต้นลง
นอกจากการเฝ้าระวังติดตามสภาพอากาศ และการการลงพื้นที่ให้คำแนะนำต่อเกษตรกรแล้ว ยังได้กำชับให้สำนักงานเกษตรจังหวัดและสำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่เสี่ยง เตรียมความพร้อมในการประสานความช่วยเหลือเกษตรกรในกรณีพื้นที่เกษตรได้รับความเสียหาย
ซึ่งเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายจะได้รับความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 และหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564 คือ เป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรก่อนเกิดภัย
โดยจะได้รับความช่วยเหลือครัวเรือนละไม่เกิน 30 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว ไร่ละ 1,340 บาท พืชไร่และพืชผัก ไร่ละ 1,980 บาท ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่น ๆ ไร่ละ 4,048 บาท ทั้งนี้เกษตรกรสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอและสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้านท่าน