โจมตีอิสราเอล กระทบส่งออก-ท่องเที่ยวไทยจำกัด ชี้เหตุการณ์ไม่น่าบานปลาย

ชาวปาเลสไตน์ชี้ไปยังเศษซากมัสยิดอาห์เมดยัสสิน ซึ่งพังราบจากการโจมตีทางอากาศโดยอิสราเอล
ชาวปาเลสไตน์ชี้ไปยังมัสยิดอาห์เมดยัสสิน ซึ่งพังราบจากการโจมตีทางอากาศโดยอิสราเอล ภาพถ่ายเมื่อ 9 ตุลาคม 2566 (Photo by MOHAMMED ABED / AFP)

ม.หอการค้าฯคาดสงครามอิสราเอล-ฮามาส กระทบเศรษฐกิจไทยจำกัด ทั้งส่งออก-ท่องเที่ยว เชื่อไม่น่าบานปลาย คาดว่าไม่เกิน 1 เดือน เหตุการณ์จะซาลง ชี้สิ่งที่เห็นตอนนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกขึ้นทันที 4%

วันที่ 9 ตุลาคม 2566 นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษา ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง และเหตุโจมตีที่อิสราเอลว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงความขัดแย้งระหว่าง 2 กลุ่ม ยังไม่มีท่าทีว่าจะบานปลายไปในตะวันออกกลาง

แต่สิ่งที่มีผลกระทบต่อประเทศไทยคือ แรงงานไทยที่อยู่ในอิสราเอล ที่มีการรายงานว่าได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต หรือรายได้จะไม่แน่นอนมากขึ้น แต่เชื่อว่ารัฐบาลไทยและกระทรวงต่างประเทศจะดูแลจัดการได้ รวมถึงทางการอิสราเอลก็จะดูแลความปลอดภัย เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว

สำหรับปัญหาของ 2 กลุ่ม ระหว่างอิสราเอลและฮามาสนั้น มีมายาวนานกว่า 50 ปี โดยระยะหลังไม่เคยเห็นมีกองกำลังชาติที่ 3 เข้ามาร่วมในปฏิบัติการความขัดแย้งระหว่างทั้ง 2 กลุ่ม จึงมองว่ายังไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย เนื่องจากความรุนแรงจะเกิดในช่วงเวลาสั้น คาดว่าไม่เกิน 1 เดือน เหตุการณ์จะซาลง อย่างไรก็ตาม เนื่องสถานการณ์ยังอยู่ในช่วงต้น ยังต้องติดตามสถานการณ์เพื่อนำมาวิเคราะห์และจะมีการแถลงเพิ่มเติมหลังมีข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้น

อิสราเอลประกาศสงคราม หลังโดนฮามาสยิงจรวดถล่ม
อิสราเอลโดนกลุ่มฮามาสยิงจรวดถล่ม วันที่ 7 ตุลาคม 2023 (ภาพโดย Mohammed Salem/ REUTERS)

จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ล่าสุดทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 4% ซึ่งจะมีผลต่อราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศให้ปรับตัวสูงขึ้นได้ในระยะสั้น แต่คงไม่เกิน 1-2 บาทต่อลิตร และควรเป็นระยะสั้นเท่านั้น

จากสถิติกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่าการค้าระหว่างไทย-อิสราเอล มีมูลค่าการค้ารวมในแต่ละปีประมาณ 4 หมื่นล้านบาท โดยเป็นการส่งออกประมาณ 2 หมื่นกว่าล้านบาท และนำเข้ากว่า 10,000 ล้านบาท คิดเป็น 0.2% ของมูลค่าการค้าโดยรวมของไทยในแต่ละปี อีกทั้งอิสราเอลยังไม่ใช่คู่ค้าสำคัญในลำดับต้น ๆ จึงเชื่อว่าสงครามดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อการค้าไทย-อิสราเอลมากนัก

ทั้งนี้ หากเส้นทางขนส่งไม่กระทบ ไม่ถูกตัดขาด อิสราเอลอาจมีความต้องการสินค้าเพิ่มมากขึ้น ระหว่างที่มีความไม่แน่นอนของสถานการณ์ และยังไม่มีสถานการณ์ปิดประเทศ ก็ยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป ส่วนใหญ่สินค้าส่งออกเป็นกลุ่มรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า

ส่วนภาคการท่องเที่ยวของไทยนั้นชาวอิสราเอล เดินทางเข้าประเทศไทยประมาณ 2 แสนคนต่อปี หรือประมาณ 1-2 หมื่นคนต่อเดือน หากเหตุการณ์ไม่ยืดเยื้อ จบเร็ว ก็ไม่น่าจะกระทบ โดยประเมินการใช้จ่ายต่อคนอยู่ที่ 4.2 หมื่นบาทต่อคนต่อทริป จึงไม่น่ามีผลต่อระบบเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว

“ดังนั้น หากคิดเป็นมูลค่าการค้า 4 หมื่นล้านบาท และการท่องเที่ยวอีกราว 1 หมื่นล้านบาท รวม ๆ แล้ว 5 หมื่นล้านบาท/ปี จะคิดเป็นเพียง 0.2-0.3% ของ GDP เท่านั้น เชื่อว่าทางตรงจะไม่มีผลกระทบที่รุนแรงนัก คงเป็นแค่ระยะสั้น ๆ เท่านั้น”