ราคาน้ำมันดิบ (16 ต.ค.) ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 6% กังวลความขัดแย้งในตะวันออกกลาง

ราคาน้ำมันดิบ
REUTERS/Alexander Manzyuk/File Photo

ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 6% หลังตลาดกังวลความขัดแย้งในตะวันออกกลางจะขยายวงกว้าง

วันที่ 16 ตุลาคม 2566 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบดังนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นกว่า 6% ซึ่งนับเป็นการปรับเพิ่มขึ้นมากสุดในรอบวัน นับตั้งแต่เดือน เม.ย. 66 หลังตลาดกังวลความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะขยายวงกว้างและนำไปสู่สงครามในตะวันออกกลางได้ โดยความกังวลเริ่มปะทุขึ้น หลังอิสราเอลประกาศเตือนให้ประชาชนอาศัยในฉนวนกาซาตอนเหนืออพยพภายใน 24 ชั่วโมง ทำให้ตลาดคาดว่าอิสราเอลเตรียมจะใช้กองกำลังทหารเข้าจู่โจมทางบกในเร็ว ๆ นี้

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 13 ต.ค. 2566 อยู่ที่ 87.69 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +4.78 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 90.89 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +4.89 เหรียญสหรัฐ

               

สหรัฐประกาศคว่ำบาตรบริษัทเรือ 2 แห่งที่เคยบรรทุกน้ำมันดิบของรัสเซียที่มีราคาสูงกว่าเพดานราคาของกลุ่ม G7 ที่ระดับ 60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล สร้างความกังวลต่อการขนส่งน้ำมันดิบของรัสเซียและภาพรวมของตลาดเรือขนส่ง

ปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติของสหรัฐปรับเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ หลังราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น โดย Baker Hughes รายงานปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 3 แท่น สู่ระดับ 622 แท่น สำหรับสัปดาห์ สิ้นสุด ณ วันที่ 13 ต.ค. นำโดยการเพิ่มขึ้นของการขุดเจาะน้ำมันดิบ

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากตลาดน้ำมันเบนซินสหรัฐที่ปรับตัวลดลง ท่ามกลางอุปสงค์ในภูมิภาคที่ชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 3 เดือน

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกของจีนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น