กรมการค้าภายใน หารือผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ห้าง 300 ราย เตรียมจัดมหกรรมลดราคาสินค้าครั้งยิ่งใหญ่ ลดค่าครองชีพ เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน ต่อเนื่องจากโครงการเดิมจะสิ้นสุด 31 ธ.ค.นี้ ส่วนสินค้า 18 หมวดที่ติดตามดูแล ส่วนใหญ่ราคาทรงตัว น้ำตาลกลับสู่ภาวะปกติ ข่าวดีชาวนาราคาข้าวเปลือกขยับขึ้น
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้หารือร่วมกับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ห้างค้าส่ง ค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ ไปแล้วประมาณ 300 ราย เพื่อเตรียมการจัดมหกรรมลดราคาสินค้าต้อนรับปีใหม่ เพื่อเป็นของขวัญให้กับประชาชน และเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- พระราชประวัติ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ วันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน
- กองทุนประกัน อนุมัติจ่ายเงิน 7.29 พันล้าน มี.ค.-เม.ย. รับรองมูลหนี้เพิ่ม 560 ล้าน
และนโยบายของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องการช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะดำเนินการต่อเนื่องจากโครงการเดิม “พาณิชย์สั่งลุย! ลดราคาสินค้า ลดค่าครองชีพ” ที่ได้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. 2566 และจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค. 2566 ที่จะถึงนี้
“การปรับลดราคาสินค้า จะเป็นการลดราคาครั้งใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่ง มีสินค้าเข้าร่วมทุกกลุ่มสินค้า ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องดื่ม ของใช้จำเป็น ปัจจัยเกษตร รวมถึงกลุ่มบริการ มีเป้าหมายเพื่อลดค่าครองชีพให้กับประชาชน เป็นของขวัญปีใหม่” นายวัฒนศักย์กล่าว
สำหรับสถานการณ์ราคาสินค้า 18 หมวดที่กรมติดตามดูแล ได้แก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หมวดอาหารสด อาหารกระป๋อง ข้าวสารถุง ซอสปรุงรส น้ำมันพืช น้ำอัดลม นมและผลิตภัณฑ์จากนม เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ซักล้าง ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง อาหารสัตว์ เหล็ก ปูนซีเมนต์ กระดาษ ยา เวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์
บริการผ่านห้างค้าปลีก-ส่ง ซึ่งหลายสินค้าราคาทรงตัว และบางรายการราคาปรับลดลงตามการจัดโปรโมชั่นของห้างและร้านค้า ที่มีการหมุนเวียนนำสินค้ามาปรับลดราคา
ยกตัวอย่างเช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ราคาจำหน่ายอยู่ที่ซองละ 6.20-6.50 บาท จากราคาปกติ 7 บาท อาหารกระป๋อง ข้าวสารถุง ราคาทรงตัว ซีอิ๊วขาว น้ำปลา เครื่องปรุงรส ราคาทรงตัว และลดลงตามการจัดโปรโมชั่น น้ำอัดลม นม ราคาทรงตัว เครื่องใช้ไฟฟ้าราคาปรับลดลงตามการจัดโปรโมชั่น เป็นต้น
ส่วนสถานการณ์สินค้าเกษตรสำคัญ ข้าวเปลือกมีราคาปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ตั้งแต่ตัน ละ 250-450 บาท โดยข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 14,700 บาท สูงสุด 15,500 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานีตันละ 12,750 บาท ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 11,450 บาท และข้าวเปลือกเหนียวตันละ 12,800 บาท
มันสำปะหลังกิโลกรัมละ 3.68 บาท ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กิโลกรัมละ 9.18 บาท ปาล์มน้ำมันกิโลกรัมละ 6.20 บาท สูงสุด 6.70 บาท และน้ำมันปาล์มขวด ขวดละ 44.95 บาท
ทางด้านหมูเนื้อแดงราคาทรงตัว กิโลกรัมละ 130 บาท ไก่น่องติดสะโพกกิโลกรัมละ 78.94 บาท น่องไก่กิโลกรัมละ 80.63 บาท สะโพกไก่กิโลกรัมละ 82.63 บาท และอกไก่ กิโลกรัมละ 72.88 บาท ไข่ไก่เบอร์ 3 เฉลี่ยฟองละ 4.22 บาท ปลานิล ปลาทับทิม ปลาดุกอุย ราคาทรงตัว แต่กุ้งขาวราคาเพิ่มขึ้น
ขณะที่ผักสดราคาปรับขึ้นเล็กน้อย เพราะได้รับผลกระทบจากช่วงเปลี่ยนผ่านฤดูกาล จากฝนตกหนักเป็นหนาวจัด ทำให้ผักเสียหายและผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลง แต่ขณะนี้อากาศอุ่นขึ้น สถานการณ์ผลผลิตผักได้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว ราคามีแนวโน้มปรับลดลง
สำหรับน้ำตาลทรายที่มีภาวะตึงตัวก่อนหน้านี้ ปัจจุบันสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โรงงานมีการจัดส่งน้ำตาลทรายเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง การจำหน่ายในห้างค้าส่งค้าปลีก ร้านค้าปลีกรายย่อย มีน้ำตาลทรายจำหน่ายปกติ และปริมาณเพียงพอ หลังจากที่ผู้บริโภคเลิกตื่นตระหนก และซื้อสินค้าตามปกติ ซึ่งกรมยังจะติดตามสถานการณ์ต่อไป
หากผู้บริโภคพบเห็นหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อน้ำตาลทราย ขอให้แจ้งสายด่วน 1569 จะเข้าไปตรวจสอบและดำเนินการให้ทันที
