“ภูมิธรรม” รับลูก นายกฯไม่นำเข้าข้าวโพดแก้ PM 2.5 ย้ำมาตรการต้องไม่ขัด WTO

Phumtham Wechayachai
Phumtham Wechayachai

“ภูมิธรรม” พร้อมหาแนวทางเหมาะสมกับกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับทุกฝ่าย แก้ปัญหาฝุ่นควันจากประเทศเพื่อนบ้าน ไม่นำเข้าข้าวโพดเป็นแนวทางหนึ่ง ย้ำต้องไม่ขัดกติการการค้าโลก (WTO)

วันที่ 19 มีนาคม 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงแนวคิดของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อาจไม่ให้นำเข้าข้าวโพดที่ปลูกในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อหวังแก้ไขปัญหาฝุ่นควันจากประเทศเพื่อนบ้าน ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องนี้ เพราะจากการลงพื้นที่ ประชาชนได้รับกระทบจากปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 ซึ่งมีต่อผลเศรษฐกิจและรายได้ของคนในพื้นที่

แต่ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าปัญหาฝุ่นควัน เป็นเรื่องที่ซับซ้อนต้องหารือกับทุกฝ่าย และร่วมกันบูรณาการ รวมไปถึงการหามาตรการที่เหมาะสม เข้ามาดูแลควบคู่กับการแก้ไขการเผาป่าในประเทศ

สำหรับการพิจารณาไม่ให้นำเข้าข้าวโพด ในเรื่องนี้เป็นแนวคิดในการแก้ไขปัญหา ซึ่งเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ต้องมีการหารือเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความต้องการสินค้าในประเทศ ราคาอาหารสัตว์ สินค้าเกษตร และต้องอยู่บนหลักการค้าขององค์การการค้าโลก (WTO) ด้วย

ดังนั้น ต้องมีการหารือกับนี้กระทรวงการต่างประเทศ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้มีการแก้ไขและเข้าไปเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน ให้จัดการแก้ไขปัญหาการเผาป่า เผาไร่ข้าวโพด และมันสำปะหลัง และปัจจุบันเองระเบียบการค้าโลกมีการปรับเปลี่ยนไป จะไม่ซื้อสินค้าที่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติหรือทำลายป่า

หากไทยใช้มาตรการไม่รับซื้อข้าวโพด ก็ต้องสร้างความเข้าใจ เพื่อให้ประเทศเพื่อนบ้านปรับตัว นอกจากนี้ ยังต้องมีมาตรการเพื่อจัดการปัญหาภายในประเทศด้วย ซึ่งได้เริ่มต้นไปแล้วหลายเรื่อง เช่น เสนอเพิ่มรายได้พิเศษจากการเก็บสดข้าวโพดโดยไม่ต้องเผา และจะรีบดำเนินการโดยเร็ว

ปัจจุบันไทยมีความต้องการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปีละ 8.9 ล้านตัน แต่สามารถผลิตได้เพียง 4.9 ล้านตัน ส่วนที่เหลือต้องนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ขณะนี้ ผลผลิตออกสู่ตลาดหมดใกล้หมดแล้ว ราคาเฉลี่ย อยู่ที่ 9-10 บาทต่อกิโลกรัม

ข้าวโพดเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตอาหารสัตว์ และไทยยังนำเข้าข้าวสาลี มาใช้เป็นส่วนหนึ่งวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์ด้วย