
ส.อ.ท. ยอมรับช็อกคำตัดสินคดี “นายกเศรษฐา” เชื่อจากนี้ลงทุนชะงักแน่ หลังการเมืองไทยสะดุดแล้วสะดุดอีก ต่างชาติติงขอการเมืองไทยนิ่งมีเสถียรภาพมากกว่านี้ หวั่นนโยบายไม่เดินต่อทำขาดความเชื่อมั่น
วันที่ 14 สิงหาคม 2567 นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การตัดสินคดีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในวันนี้ (14 สิงหาคม 2567) เป็นที่ติดตามของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศจำนวนมาก เนื่องจากนับตั้งแต่มีคดีจนถึงวันนี้ก็ราว 80 กว่าวัน มันเป็นช่วงที่เปิดสภาวะชะลอการลงทุน เพราะนักลงทุนต้องรอดูนโยบายที่ชัดเจนและให้มั่นใจก่อน จึงจะตัดสินใจลงทุน
ในขณะที่การตัดสินออกมาว่านายกรัฐมนตรีไม่รอด จากคำสั่งของศาลตัดสิน แน่นอนว่ามันส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมา นายเศรษฐาได้ออกไปชักชวนนักลงทุนต่างชาติเพื่อดึงเม็ดเงินเข้ามาในประเทศ ทำให้นักลงทุนต่างก็ตื่นเต้นกับประเทศไทย
แต่จากนี้จึงไม่มีความมั่นใจได้เลยว่านโยบายเดิมของรัฐบาลชุดเดิมจะยังคงอยู่หรือไม่ จะเปลี่ยนไปจากเดิมขนาดไหน ทำให้นักลงทุนต้องกลับไปทบทวนแผนการลงทุนใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศจากฝั่งยุโรปและอเมริกา ที่ค่อนข้างซีเรียสในเรื่องของการเมือง
อย่างไรก็ตาม ที่หลายคนมองว่าจะเกิดการสะดุดเพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ นั้น ในฐานะเอกชนกล่าวได้เลยว่าไม่จริง มันจะกระทบไปอีกระยะ สิ่งแรกคือมันจะเกิดการช็อก ตามมาด้วยการชะงักการลงทุน
“ธุรกิจไม่ชอบการที่การเมืองไทยไม่มีความนิ่ง ไม่มีเสถียรภาพ นักลงทุนเขาต้องการการเมืองที่มีความนิ่ง มีเสถียรภาพ มีความต่อเนื่อง มีนโยบายชัดเจน เพราะเมื่อเปลี่ยนตัวผู้นำนโยบายบางอย่างเชื่อว่าจะถูกหยุดไปเฉย ๆ ไม่มีความต่อเนื่อง”