ปาล์มราคาดิ่ง ประวิตร ตั้งอนุกรรมการจัดการสมดุลน้ำมันปาล์ม สั่งรายงานทุก 7 วัน

ประวิตร หัวโต๊ะ ประชุม กนป.เคาะ 2 วาระ ตั้ง “วัฒนศักย์ เสือเอี่ยม” ประธานคณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์ม ราคาสถานการณ์ทุก 7 วัน ลุยวางมาตรการสร้างสมดุลหลังราคาปาล์มลดลงเหลือ กก.ละ 8 บาท 

วันที่ 23 พฤษภาคม 2565 รายงานข่าวระบุวา ที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ครั้งที่ 2/2565 เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2565 ซึ่งมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิจารณาเห็นชอบเรื่องแนวทางบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์ม

ตามที่กรมการค้าภายในเสนอ ให้มีกลไกในการบริหารจัดการอุปทานน้ำมันปาล์มให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศ

โดยแต่งตั้งคณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์ม ภายใต้ กนป. ซึ่งจะมีองค์ประกอบจากผู้เกี่ยวข้อง 3 ฝ่าย

ในส่วนของภาครัฐ ภาคเกษตรกร และภาคเอกชน โดยมีอธิบดีกรมการค้าภายใน (นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม) เป็นประธาน มีหน้าที่และอำนาจในการติดตามสถานการณ์ และการกำหนดมาตรการที่เกี่ยวข้องในการจัดสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ

สำหรับองค์ประกอบคณะอนุกรรมการ จะประกอบด้วย หน่วยงานรัฐ ได้แก่ กรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กรมศุลกากร และกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ส่วนภาคเกษตรกรประกอบด้วยผู้แทนเกษตกร 2 คน และภาคเอกชน

ประกอบด้วย สมาคมโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม สมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม สมาคมผู้ผลิตไบโอดีเซล และคลังรับฝาก

มีหน้าที่และอำนาจในการวิเคราะห์สถานการณ์ด้านการผลิต การตลาดและกำหนดมาตรการ แนวทางดำเนินการ หลักเกณฑ์ เงื่อนไขวิธีการ และรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดสมดุลน้ำมันปาล์ม ให้เหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยจะต้องนำเสนอรายงานสถานการณ์น้ำมันปาล์มทุก 7 วัน

พร้อมกันนี้ ได้มีมติเห็นชอบเรื่องการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ใน กนป. แทนที่จะหมดวาระลง วันที่ 8 ต.ค. 2565  ตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเสนอ ซึ่งประธานได้เร่งรัดให้ดำเนินการโดยเร็ว

โดยการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒินั้น ที่ประชุมได้เห็นชอบให้ใช้หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามที่ กนป.เคยประชุมเมื่อปี 2563 ดำเนินการได้

พร้อมเห็นชอบคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน กนป. ปี 2565 จำนวน 7 คน โดยมี พล.อ.ธรรมศักดิ์ วิชารยะ เป็นประธานอนุกรรมการ และมีเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เป็นประธาน กำหนดกรอบเวลาให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน หลังจากมีคำสั่งแต่งตั้ง 

สำหรับสถานการณ์การผลิตและการจำหน่ายปาล์มน้ำมัน ปี 2564/2565 ล่าสุด คาดว่าไทยจะมีผลผลิต 17.59 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4.70% จากปี 2564/2565 ที่มีปริมาณ 16.80 ล้านตัน ทั้งคิดเป็นปริมาณน้ำมันปาล์มดิบที่ 3.17 แสนตัน เนื่องจากปริมาณฝนดี ประกอบกับราคาน้ำมันปาล์มสูงขึ้นส่งผลดีต่อเกษตรกร

โดยคาดว่าในเดือน พ.ค.นี้จะมีผลผลิตปาล์มออกสู่ตลาด 1.7 ล้านตัน และเดือน มิ.ย.จะมีผลผลิต 1.66 ล้านตัน ส่วนปริมาณสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบเดือน เม.ย.ล่าสุดคงเหลือ 1.8 แสนตัน เพิ่มขึ้นจากเดือน มี.ค.ที่มี 1.7 แสนตัน

“สถานการณ์ราคาผลปาล์มล่าสุด หลังจากอินโดนีเซียกลับมาส่งออก ราคาผลปาล์มไปเฉลี่ยที่ กก.ละ 8.00-9.80 บาท แม้ว่าจะปรับลดลงจากก่อนหน้านี้ที่เคยไปนิวไฮทะลุ 13 บาท แต่ก็ยังถือว่าเป็นระดับราคาที่เพิ่มขึ้น 2 บาทจากปี 2564 หรือเพิ่มขึ้น 29% เช่นเดียวกันกับน้ำมันปาล์มดิบที่ราคา กก.ละ 52-53 บาท เพิ่มขึ้น 14 บาท จากปี 2564 ที่ราคา 37.99 บาท หรือเพิ่มขึ้น 38% แต่หากเทียบกับราคาน้ำมันซีพีโอมาเลเซีย ที่จำหน่าย กก.ละ 55.94 บาทก็ยังต่ำ ส่วนราคาน้ำมันปาล์มขวดรัฐบาลยังขอให้ตรึงราคาที่ 65-68 บาทต่อไป”