ดีเซลขึ้นราคา 1 บาท เริ่ม 31 พ.ค. ดันกองทุนน้ำมันฯติดลบทะลุ 8.1 หมื่นล้าน

กบน.ตรึงราคาดีเซล 32 บาท/ลิตร หวั่นน้ำมันแพงยาว

อั้นไม่อยู่ กบน.ขึ้นราคาดีเซลลิตรละ 1 บาท ดันราคาขายปลีกมาอยู่ที่ 32.94 บาท/ลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค. 2565 เป็นต้นไป ชี้เหตุราคาน้ำมันผันผวน จีนเปิดประเทศ มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย น้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐ ปรับลดลง กดดันกองทุนน้ำมันฯติดลบกว่า 8.1 หมื่นล้านบาท

วันที่ 30 พฤษภาคม 2565 นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้พิจารณาทบทวนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ โดยมีมติให้ปรับขึ้นราคาน้ำดีเซลลิตรละ 1 บาท

เนื่องจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกยังคงมีความผันผวน ราคาน้ำมันดีเซล (Gas Oil) อยู่ที่ 149.49 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล (27 พ.ค. 2565) จากสัปดาห์ก่อนราคาประมาณ 138 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

โดยราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องการเปิดประเทศของจีน มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย ตลอดจนน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐ ปรับลดลง และจากการประเมินราคาน้ำมันดิบในช่วงสัปดาห์หน้ายังคงมีราคาสูง หากไม่มีปัจจัยที่มีนัยสำคัญเกิดขึ้น

การปรับราคาดังกล่าวเป็นการทยอยปรับขึ้น เพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนมากนัก ส่งผลให้ราคาขายปลีกดีเซลปรับจากลิตรละ 31.94 บาท เป็นลิตรละ 32.94 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป

สำหรับมาตรการช่วยเหลือด้านราคาน้ำมันดีเซล ที่ผ่านมา มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 เกี่ยวกับมาตรการลดค่าครองชีพประชาชน โดยรัฐจะเข้าไปช่วยเหลือส่วนที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นครึ่งหนึ่ง

ขณะที่ กบน. พิจารณาปรับราคาน้ำมันดีเซลครั้งแรก มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นมา โดยปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 32 บาทต่อลิตร และจะทยอยปรับขึ้นลงตามสถานการณ์เป็นรายสัปดาห์

รวมทั้งขยายมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลรอบที่ 2 โดยปรับลดอัตราภาษีลง 5 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม ถึง 20 กรกฎาคม 2565

ทั้งนี้ อัตราภาษีที่ลดลง 5 บาทต่อลิตร คิดเป็นฐานภาษีที่ลดจริงสำหรับดีเซล B5 อยู่ที่ 4.65 บาทต่อลิตร และการลดภาษีนี้ไม่ได้ลดราคาหน้าสถานีน้ำมันทันที เพราะต้องนำมาช่วยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงพยุงราคาดีเซลให้อยู่ในราคาที่เหมาะสมได้ยาวนานยิ่งขึ้น

สำหรับการช่วยเหลือวินมอเตอร์ไซค์ ได้มีโครงการช่วยเหลือไปแล้ว นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างพิจารณาช่วยเหลือกลุ่ม Rider ซึ่งปลัดกระทรวงพลังงานกำลังดู

ขณะที่ความคืบหน้าเงินกู้ ยังคงพิจารณาแนวทาง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย ก็รับข้อมูลไปสถานการณ์และสถานะกองทุนไปแล้วคาดว่าจะมีความคืบหน้าเร็ว ๆ นี้

สำหรับประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบัน ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2565 พบว่าติดลบ 81,395 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 45,968  ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 35,427 ล้านบาท

“ตัวแปรสำคัญที่สุดตอนนี้คือราคาพลังงาน ตลาดโลก แม้ว่าตอนนี้เปิดประเทศมีนักท่องเที่ยวเข้ามา สามารถเพิ่มกระเเสเงินสดเติมระบบได้ แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาลจะมีแนวทางอย่างไร ซึ่งต้องประเมินเป็นรายสัปดาห์ ส่วนสภาพคล่องจะดีขึ้นหรือไม่นั้น ยืนยันว่ายังสู้ไหว ซึ่งเงินไหลออกจะน้อยลง รายจ่ายวันละ 350 ล้านบาท สามารถลดการชดเชย 60 ล้านบาทต่อวัน” นายวิศักดิ์ กล่าว