ครึ่งปี’65 ไทยผลิตรถ 8.7 แสนคัน ยอดจดทะเบียนรถ BEV พุ่ง 125%

ส่งออกรถยนต์

ส.อ.ท. เผยยอดผลิตรถยนต์ทุกประเภทเดือน มิ.ย. เฉียด 1.5 แสนคัน เพิ่มขึ้น 6.53% ครึ่งปีทะลุ 8.7 แสนคัน แม้ส่งออกลดลงในตลาดเอเชีย ออสเตรเลีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ เหตุขาดชิ้นส่วนและเซมิคอนดักเตอร์ปัญหาเดิม ด้านรถไฟฟ้า BEV พุ่งไม่หยุดจดทะเบียนใหม่เกือน 2,000 คัน ดาวรุ่งสามล้อ EV โต 1000%

วันที่ 25 กรกฎาคม 2565 นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ในเดือน มิ.ย. 2565 มีการผลิตรถยนต์ทุกประเภท (รถนั่ง รถโดยสาร รถบรรทุก รถกระบะ) ทั้งสิ้น 143,016 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.53% โดยเฉพาะการผลิตเพื่อขายในประเทศที่สูงถึง 20.69% ส่งผลให้ยอดการผลิตสะสมครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย. 2565) อยู่ที่ 870,109 คัน เพิ่มขึ้น 3.02%

ส่วนการผลิตเพื่อส่งออกผลิตได้ 71,002 คัน หรือ 49.65% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.79% ทำให้ครึ่งปีแรกผลิตเพื่อส่งออกได้เพียง 442,578 คัน ลดลง 8.98% เนื่องจากการขาดชิ้นส่วนและเซมิคอนดักเตอร์ในรถยนต์บางรุ่น

ศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร
ศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร

ขณะที่การผลิตเพื่อขายในประเทศผลิตได้ 72,014 คัน หรือ 50.35% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 20.69% ทำให้ครึ่งปีแรกรวมแล้วผลิตได้ 427,533 คัน เพิ่มขึ้น 19.30% ทางด้านรถจักรยานยนต์ ผลิตได้ 210,747 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.73% ทำให้ครึ่งปีแรกยอดการผลิตรถจักรยานยนต์ได้เพียง 1,245,340 คัน แต่ลดลง 1.26% เท่านั้น

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึง ด้านยอดขายรถภายในประเทศเดือน มิ.ย. 2565 ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 67,952 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ค. 2565 ที่ 4.97% และเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 4.6% ส่งผลให้ครึ่งปีแรกมียอดขายรถทั้งสิ้น 427,399 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 14.5%

ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 174,281 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 8.18% และเพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ค. 2565 ที่ 7.35% ทำให้เห็นครึ่งปีแรกรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 906,625 คัน เพิ่มขึ้น 3.94%
ทั้งหมดได้อานิสงส์จากการคลายล็อกดาวน์ และการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติเดินทางเข้าประเทศได้สะดวกขึ้น

การส่งออกที่เติบโตโดยเฉพาะสินค้าเกษตร การประกันรายได้เกษตรกร การกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น เราเที่ยวด้วยกัน เป็นต้น ทำให้ประชาชนมีรายได้มากขึ้น ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมและความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีขึ้น ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 รถยนต์มียอดขาย 427,399 คัน

อย่างไรก็ตาม ด้านการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือน มิ.ย. 2565 ไทยส่งออกได้เพียง 73,887 คัน ลดลงจากเดือน พ.ค. 2565 ที่ 3.96% และลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 11% เพราะขาดชิ้นส่วนและเซมิคอนดักเตอร์ ทำให้ผลิตรถยนต์นั่งและรถ PPV ลดลงอย่างมากกว่า 50% โดยเฉพาะในตลาดเอเชีย ออสเตรเลีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 42,781.17 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2564 ถึง 13.18%

และยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือน มิ.ย. 2565 จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 1,623 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 229.21% ซึ่งพบว่ามีทั้งรถยนต์นั่งและรถกระบะมีเพิ่มขึ้น 431.52% รถยนต์สามล้อรับจ้างมีทั้งสิ้น 11 คัน เพิ่มขึ้นถึง 1000% รถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้น 123.77% และ ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2565 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 18,644 คัน เพิ่มขึ้น 125.52%