
วิทยาลัยการจัดการ และวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกันเปิดหลักสูตรใหม่ โครงการปริญญาตรีควบปริญญาโท “นักดนตรีผู้ประกอบการและนวัตกรรม” เรียนจบได้ใน 4 ปีครึ่ง หวังตอบโจทย์อุตสาหกรรมดนตรีไทยสู่ระดับสากล
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า เพื่อให้นักศึกษาที่เรียนด้านดนตรี ได้เรียนรู้การบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ จึงร่วมกับวิทยาลัยการจัดการ (CMMU) ออกแบบหลักสูตร เพื่อเพิ่มทักษะให้กับนักดนตรี ได้เรียนรู้การบริหารจัดการธุรกิจ
- ตรวจหวย ตรวจผลรางวัล ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 มิ.ย. 66 (อัพเดต)
- บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 1 มิ.ย.นี้ ใครมีสิทธิรับวงเงินค่าซื้อสินค้า 900 บาท
- “เหล้า-เบียร์” เจ๊กอั้ก ! ร่างกฎหมายใหม่ คุมเข้ม-สุดโหด
“ส่วนใหญ่คนที่เก่งทางดนตรีก็อยากจะเล่นดนตรีอย่างเดียว หากได้เติมทักษะความรู้ทางธุรกิจเป็นอาวุธติดตัวเพิ่มขึ้น จะสร้างโอกาสให้กับคนที่สนใจเป็นผู้ประกอบการ เติบโตได้อย่างถูกทางและแข็งแกร่ง สังเกตเห็นได้จากธุรกิจเพลงของเกาหลีที่ไปไกลระดับโลก นอกจากเจ้าของบริษัทจะเล่นดนตรีได้แล้ว ยังมีความรู้ในเชิงธุรกิจ เขาจึงรู้ว่าธุรกิจดนตรีจะไปในทิศทางใด”
จากการพิจารณาเทียบข้อมูลเมื่อปี 2561 โดย Creative Economy Agency ระบุว่า อุตสาหกรรมดนตรีของไทยมีมูลค่าสูงถึง 1,478 ล้านบาท และยังสะท้อนอีกว่าอุตสาหกรรมนี้สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้ มีช่องทางให้เติบโต
นอกจากนี้ยังสามารถพัฒนาสู่การส่งออกผลงานสร้างสรรค์ของเด็กไทยในโลกดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มการสตรีมมิง ซึ่งเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้น จึงเล็งเห็นความสำคัญในการสร้างบัณฑิตแบบบูรณาการทั้ง 2 ศาสตร์ เพื่อตอบรับความต้องการแบบมัลติทาส์กกิ้งในตลาดแรงงาน
จึงเป็นที่มาที่วิทยาลัยการจัดการ และวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ พัฒนา “โครงการปริญญาตรีควบปริญญาโท หรือหลักสูตรนักดนตรีผู้ประกอบการและนวัตกรรม (Music Entrepreneurship and Innovation: MEI)
“สำหรับโครงการ MEI เป็นหลักสูตร 2 ปริญญาที่สามารถทำให้ผู้เรียนได้ปริญญาตรีทางด้านดนตรีควบคู่กับปริญญาโททางด้านสาขาภาวะผู้ประกอบการและนวัตกรรมภายในระยะเวลา 4 ปีครึ่ง”
โดยมุ่งการปลูกฝังความเป็นนักบริหารและทักษะการเป็นผู้ประกอบการ รวมถึงสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านการบริหารธุรกิจในแขนงของธุรกิจด้านดนตรีหรือธุรกิจด้านศิลปะบันเทิงที่เกี่ยวข้อง ผู้เรียนจะได้เรียนรายวิชาในสาขาภาวะผู้ประกอบการและนวัตกรรมตั้งแต่ปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 เป็นต้นไป จนถึงภาคฤดูร้อนในปีที่ 4 โดยเน้นการเรียนการสอนใน 3 เรื่องหลักๆ คือ
- ความคิดสร้างสรรค์ด้านวิชานวัตกรรมต่างๆ ทั้งวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ที่มีหลักสูตรด้านดนตรีมีมาตรฐานทัดเทียมสถาบันดนตรีชั้นนำระดับโลก พร้อมพื้นที่ในการพัฒนาทักษะด้านดนตรี และ CMMU ที่มีเทคโนโลยีทางการเรียนการสอนที่ครบครันพร้อมเพื่อช่วยพัฒนานวัตกรรมเชิงธุรกิจ
- เรื่องเกี่ยวกับธุรกิจทั่วไป โดย CMMU ให้นักศึกษาได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง โดยผู้เชี่ยวชาญตัวจริง
- การเข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่ง โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ผู้มีวิสัยทัศน์พัฒนาเด็กไทยสู่ดาวเด่นในโลกธุรกิจ
รศ.ดร.วิชิตากล่าวต่อว่า บัณฑิตที่จบการศึกษาจะได้รับวุฒิการศึกษาจากหลักสูตรการจัดการมหาบัณฑิต (กจ.ม.) (Master of Management) สาขาภาวะผู้ประกอบการและนวัตกรรม (Entrepreneurship and Innovation) วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล
และหลักสูตรดุริยางคศาสตร์บัณฑิต (ดศ.บ.) (Bachelor of Music) วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยมหิดล ที่ตั้งเป้าในการสร้างบัณฑิตที่มีความรู้ความสามารถแบบบูรณาการทั้ง 2 ศาสตร์ที่สามารถเชื่อมโยงองค์ความรู้กันได้
สำหรับผู้สมัครเข้าเรียนในโครงการ MEI ต้องเป็นผู้ที่จบการศึกษาในระดับชั้นมัธยมปลาย และมีความสนใจทางด้านดนตรีและด้านการจัดการธุรกิจ โดยต้องผ่านการออดิชันจากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ และวิทยาลัยการจัดการ โดยเปิดรับจำนวน 30 คนในแต่ละปีการศึกษา รายละเอียดเพิ่มเติมเว็บไซต์วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล