ศธ.ชวนครูโยกย้ายกลับภูมิลำเนา ยื่นคำร้องขอสับเปลี่ยนผ่านระบบ TMS

สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ

กระทรวงศึกษาธิการ ชวนครูโยกย้ายกลับภูมิลำเนายื่นคำร้องขอสับเปลี่ยนผ่านระบบ TMS ชี้อำนวยความสะดวกโปร่งใส ไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง

วันที่ 18 มกราคม 2567 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากนโยบายการศึกษา “เรียนดี มีความสุข” ของพลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้จัดทำระบบจับคู่ครูคืนถิ่น (Teacher Matching System : TMS) เพื่อลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้ครูโยกย้ายกลับภูมิลำเนาได้ด้วยความโปร่งใส ไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง โดยเริ่มเปิดใช้งานระบบ TMS วันแรกในโอกาสวันครู 16 มกราคม 2567 มีครูสนใจยื่นคำขอร้องย้ายสับเปลี่ยน 321 ราย และจับคู่กันสำเร็จแล้ว 66 ราย

“สำหรับวิธีดำเนินการย้ายผ่านระบบดิจิทัลในรูปแบบใหม่นี้ เป็นการลดขั้นตอน ลดเอกสาร อีกทั้งยังเพิ่มความสะดวกให้ครูย้ายกลับภูมิลำเนาได้ง่ายขึ้นด้วยความโปร่งใสเป็นธรรม ไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง

ซึ่งหากพบว่าครูยื่นคำร้องขอย้ายสับเปลี่ยนและสามารถจับคู่ได้แล้ว แต่ไม่สามารถย้ายตามระบบได้ ก็จะมีการนำข้อมูลการยื่นคำร้องจากระบบมาพิจารณาว่าติดขัดตรงจุดใด เพื่อให้ทุกโรงเรียนได้มีบุคลากรซึ่งเป็นคนในพื้นที่เข้ามาทำการสอน โรงเรียนได้ครูครบชั้น และครูมีความสุขกับการสอนตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ”

ในระยะเริ่มต้นนี้ ระบบจับคู่ครูคืนถิ่น Teacher Matching System (TMS) จะเป็นรูปแบบออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ https://tms.otepc.go.th และแอปพลิเคชั่น TMS ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้ง Android และ iOS เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งาน โดยผู้ที่ต้องการยื่นขอย้ายสับเปลี่ยนผ่านระบบ TMS จะต้องเข้าไปกรอกข้อมูลส่วนตัว วิชาที่สอน โดยระบบจะดำเนินการจับคู่กับครูที่มีคุณสมบัติตรงกันที่กรอกข้อมูลเข้ามาในระบบ แล้วจึงเข้าสู่กระบวนการย้ายกรณีปกติได้

“ด้วยความห่วงใยคุณครู จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จึงขอเชิญชวนครูที่มีความประสงค์ย้ายกลับบ้าน มีคุณสมบัติครบถ้วนแล้ว สามารถยื่นคำขอร้องย้ายสับเปลี่ยนได้ผ่านระบบจับคู่ครูคืนถิ่น Teacher Matching System (TMS) ได้ทั้งช่องทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น TMS ในช่วงระหว่างวันที่ 16-31 มกราคม 2567 โดยหวังว่าของขวัญนี้จะทำให้ครูทั่วประเทศมีความสุขทั้งกายและใจ มีขวัญกำลังใจในการพัฒนาเยาวชนของชาติอย่างเต็มกำลังต่อไป”