
STEM หลักสูตรใหม่ตอบโจทย์ตลาดแรงงานแห่งอนาคต ผนวกความรู้ 4 แขนง วิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี-วิศวกรรม-คณิตศาสตร์ เรียนต่อสร้างรายได้ถึงหลักล้านบาทต่อปี
STEM การเรียนการสอนที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมและคณิตศาสตร์ ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับวิชาชีพวิทยาการคอมพิวเตอร์ วิศวกรรม วิทยาศาสตร์ข้อมูล และผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในยุคที่เทคโนโลยีเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทำให้อาชีพนี้กลายเป็นที่ต้องการตัวของหลากหลายองค์กรประเทศทั่วโลก
ซึ่งผู้ที่เรียนจบสาขา STEM มีโอกาสได้ทำงานในบริษัทชั้นนำระดับโลก อีกทั้งยังสามารถนำทักษะไปประยุกต์ใช้ในหลากหลายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน การแพทย์ หรือแม้แต่การวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ด้วยค่าตอบแทนที่สูงตั้งแต่ $90,000 ถึง $190,000 ต่อปี หรือประมาณ 3,050,000-6,422,000 บาทต่อปี
จากข้อมูล US Department of Labor ปี 2021 ระบุว่าระหว่างปี 2560-2572 จำนวนอัตราจ้างงานด้าน STEM คาดว่าจะเติบโตขึ้น 8% สูงกว่าอัตราจ้างงานด้านอื่น ๆ โดยเฉพาะอัตราจ้างงานด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ คาดว่าจะเติบโตถึง 22% (ที่มาสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐอเมริกา)
ภานุวัฒน์ เหลืองรัชนี กรรมการผู้จัดการ คริมสัน เอ็ดดูเคชั่น ประเทศไทย เปิดเผยในงานสัมมนา ‘Launchpad to Success US STEM Exploration’ ว่าปัจจุบันเด็กไทยให้ความสนใจศึกษาต่อด้าน STEM เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือกว่า 50% เนื่องจากสามารถทำได้ในหลากหลายอาชีพ ทั้งวิศวกรซอฟต์แวร์ นักวิเคราะห์ระบบ นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล นักลงทุนสัมพันธ์ หรือนักวิจัยทางการแพทย์ เป็นต้น
หากมีเป้าหมายที่จะศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก Crimson Education เป็นอีกหนึ่งคำตอบที่ก้าวข้ามขีดจำกัด ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการช่วยเหลือนักเรียนไทยให้เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชื่อดังใน Ivy League รวมไปถึงมหาวิทยาลัยชั้นนำอื่น ๆ ทั่วโลกอีกมากมาย ทำให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการและจุดแข็งของนักเรียนแต่ละคนได้อย่างตรงจุด และมีโอกาสสูงที่จะบรรลุเป้าหมายในการศึกษาต่อในต่างประเทศ
นักเรียนไทย เปิดประตูการศึกษาสู่ต่างแดน
ปาล์ม-อัครวิศว์ นาคประเสริฐ จบจากโรงเรียนไทยและได้การตอบรับการศึกษาต่อจากมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่งทั่วโลก ทั้ง MIT, UPenn, Brown, UCLA และ UCSB ปัจจุบันปาล์มจบปริญญาตรีด้าน Physics จาก University of Pennsylvania สหรัฐอเมริกา และปริญญาโทด้าน Machine Learning และ Big Data จาก Imperial College London ประเทศอังกฤษ
สะท้อนให้เห็นว่าการเรียนในโรงเรียนไทยไม่ใช่อุปสรรค หากมีการวางแผนและเตรียมตัวที่ดี โดยปาล์มเน้นย้ำว่าความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับเกรดเพียงอย่างเดียว แต่การมีส่วนร่วมในกิจกรรมนอกหลักสูตร การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ และการเตรียมตัวอย่างรอบด้าน ทั้งด้านวิชาการ กิจกรรมนอกหลักสูตร และการเขียนเรียงความ Essay ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จได้
ปัจจุบันการส่งลูกเรียนต่อต่างประเทศในมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกไม่ใช่เรื่องยาก หากมีการวางแผนและเตรียมพร้อมที่ดี ผู้ปกครองควรเริ่มต้นจากการวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ พร้อมทั้งสนับสนุนให้บุตรหลานได้พัฒนาทักษะต่าง ๆ ทั้งด้านวิชาการและกิจกรรมนอกหลักสูตร
การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาต่อต่างประเทศ จะช่วยให้กระบวนการเตรียมตัวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการวางแผนการศึกษาที่เป็นรายบุคคล การแนะนำกิจกรรมที่เหมาะสม และการฝึกฝนทักษะที่จำเป็นสำหรับการศึกษาต่อในระดับสูง
การลงทุนในอนาคตของบุตรหลานด้วยการศึกษาต่อต่างประเทศ จะเปิดโอกาสให้ได้พัฒนาศักยภาพอย่างเต็มที่ และก้าวไปสู่ความสำเร็จในระดับสากล และยังเปิดประตูสู่โอกาสในการทำงานกับบริษัทชั้นนำระดับโลกอย่าง Google, Amazon, Meta และ Microsoft อีกด้วย