วอลโว่ เอส90 เสียบปลั๊ก…รักษ์โลก-

คอลัมน์ เวทีรถใหม่

ค่ายวอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) ตอกย้ำความเป็นแบรนด์รถพรีเมี่ยมที่มีศักยภาพและเดินตามวิสัยทัศน์บริษัทแม่ที่มุ่งมั่นผลิตรถแห่งอนาคตเพื่อโลกอย่างแท้จริง

โดยระบุตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป รถยนต์รุ่นใหม่ของวอลโว่ทุกคันจะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าในรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริด

โดยในเดือนกันยายน วอลโว่พร้อมแนะนำ เอส90 T8 Twin Engine AWD Plug-in Hybrid ตั้งราคาขายเริ่มต้นที่ 3.09 ล้านบาท

เอส90 เป็นรถซีดานหรู 4 ประตู 5 ที่นั่ง สะท้อนเอกลักษณ์แห่งรสนิยมชั้นเลิศเหมาะกับนักธุรกิจชั้นนำ ผู้บริหารระดับสูง ผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตและความก้าวหน้าที่ต้องการความโก้หรูและทันสมัย

ภายใต้แนวคิดการออกแบบ Designed Around You โดยคิดคำนึงถึงผู้ใช้เป็นหลัก โครงสร้างตัวรถออกแบบโดย Scalable Product Architecture (SPA)

ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการออกแบบทางวิศวกรรมที่นำสมัยที่สุดของวอลโว่และได้นำมาใช้กับรถวอลโว่ตระกูล 90 รุ่นใหม่ทั้งหมดภายในหรูด้วยแผงหน้าปัดที่ที่แสดงผลกราฟิกขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว ปุ่มปรับทิศทางของช่องลมแอร์แนวตั้งขัดเกลาเคลือบด้วยโลหะรูปทรงเพชร

ระบบกรองอากาศ Clean Zone ที่ดักละอองฝุ่น เกสรดอกไม้ อันเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้ และสูดสัมผัสได้ถึงบรรยากาศในรถที่บริสุทธิ์สะอาดเหมือนที่สวีเดน มีช่องเก็บของรอบห้องโดยสาร ที่คอนโซลกลาง และที่วางแขนกลางเบาะหลัง

พนักพิงเบาะหลังแยกพับราบได้ 60/40 เพิ่มเนื้อที่บรรทุกสัมภาระ

ขณะเดียวกันก็สามารถนั่งโดยสารฝั่งใดฝั่งหนึ่งของเบาะหลัง

ระบบความปลอดภัยของวอลโว่จัดเต็มทั้งเชิงป้องกันและปกป้อง

ระบบ Pilot Assist เจเนอเรชั่นที่ 2 เป็นระบบช่วยในการขับขี่กึ่งอัตโนมัติ ทำงานที่อัตราความเร็วสูงสุดที่ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบความปลอดภัยอันเป็นนวัตกรรมของโลกป้องกันรถยนต์วิ่งออกนอกช่องทาง ทำงานในย่านความเร็ว 65-140 กม./ชม.

รวมทั้งระบบ City Safety ที่มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ตรวจจับสัตว์ขนาดใหญ่

ทุกรุ่นติดตั้งอุปกรณ์เชื่อมสัญญาณสั่งการและสื่อสารผ่านดาวเทียม เรียกชื่อเฉพาะว่า Sensus Connect ระบบแรกของโลกที่เชื่อมต่อกับ Apple CarPlay

และรองรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ในเครือข่าย iOS เช่น iPhone และระบบ Android Auto

เครื่องยนต์ดีเซล D4 และ T8 Twin Engine AWD Plug-in Hybrid เครื่องยนต์ขนาดความจุ 1,969 ซี.ซี. แถวเรียง 4 สูบ

ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดพร้อมเกียร์ทรอนิกให้กำลังสูงสุด 320 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตร

มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 87 แรงม้า แรงบิดสูงสุดจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 240 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ได้ในเวลาเพียง 4.8 วินาที เท่านั้น

อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 55.5 กิโลเมตรต่อลิตร และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 41 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้นสามารถวิ่งด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียวได้ไกลถึง 52 กิโลเมตร ชาร์จไฟเต็มโดยใช้เวลาเพียง 2.5 ชั่วโมง

ส่วนเครื่องยนต์ดีเซล เป็น D4 Momentum เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ทวินเทอร์โบพร้อมเทคโนโลยีหัวฉีด 190 แรงม้า ที่ 4,250 รอบต่อนาที ให้กำลังแรงบิด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 8.2 วินาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 20.4 กม./ลิตร ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 129 กรัมต่อกิโลเมตร

ทั้ง 2 เครื่องยนต์แบ่งออกเป็น 3 รุ่น ตัว T8 Twin Engine AWD (Plug-in hybrid) – Inscription 3.79 ล้านบาท รุ่น T8 Twin Engine AWD (Plug-in hybrid) -Momentum 3.39 ล้านบาท และเครื่องดีเซล 3.09 ล้านบาท

ซื้อรถยนต์ตอนนี้บำรุงรักษาฟรี 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร รับประกันคุณภาพ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง 3 ปี