KBANK จุดพลุสาขา “โฮจิมินห์” ต่อจิ๊กซอว์ธนาคารแห่งภูมิภาค

ขัตติยา อินทรวิชัย

เวียดนาม เป็นประเทศอาเซียนที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างโดดเด่นในช่วงหลายปีมานี้ จึงเป็นแรงดึงดูดสำคัญให้ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ของไทยหลายแห่ง สนใจเข้าไปลงทุน ล่าสุด ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ที่ประกาศยุทธศาสตร์การเป็น “ธนาคารยุคใหม่แห่งภูมิภาค AEC+3”

พร้อมขนทัพสื่อมวลชนไปร่วมพิธีเฉลิมฉลองการเปิด “สาขาโฮจิมินห์” หลังได้รับอนุมัติจากธนาคารกลางเวียดนามให้ดำเนินการสาขาธนาคารต่างประเทศเต็มรูปแบบเมื่อปลายปีที่ผ่านมา

รุกภูมิภาคเต็มสูบดันธุรกิจโต

โดย “ขัตติยา อินทรวิชัย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า กลยุทธ์รุกภูมิภาค ถือเป็นมูฟใหญ่ของธนาคาร โดยช่วง 3 ปีจากนี้ ธนาคารจะเน้นพัฒนาด้านเทคโนโลยี เสริมทัพทีมงาน ลงทุนในสตาร์ตอัพ และเข้าซื้อกิจการในจุดยุทธศาสตร์สำคัญใช้งบฯลงทุนประมาณ 2,700 ล้านบาท เพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจที่ผสานด้วยดีเอ็นเอแห่งแชลเลนเจอร์แบงก์ ส่งมอบบริการบนดิจิทัลสู่ผู้ใช้งานในท้องถิ่น ซึ่งจะทำให้กสิกรไทยเป็นธนาคารยุคใหม่แห่งภูมิภาค AEC+3

ส่ง K PLUS กวาดฐานลูกค้า

ขณะที่ “พิพิธ เอนกนิธิ” กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่าประชากรเวียดนามกว่า 50% มีการใช้จ่ายทางดิจิทัล-ซื้อสินค้าออนไลน์ ซึ่งกสิกรไทยจะเป็นธนาคารต่างชาติแห่งแรกที่นำ “ดิจิทัลโปรดักต์โซลูชั่น” เต็มรูปแบบมาให้บริการลูกค้าทุกเซ็กเมนต์ ทั้งกลุ่มธุรกิจท้องถิ่นและต่างชาติที่จะเข้าไปลงทุนในเวียดนาม โดยจะนำเทคโนโลยีด้านดิจิทัลแบงกิ้งและโมบายแบงกิ้งไปต่อยอดพัฒนาให้แก่ลูกค้าในเวียดนาม ทั้งการใช้ K PLUS Vietnam เป็นแกนหลักในการสร้าง digital lifestyle ecosystem ให้แก่ลูกค้าบุคคลครอบคลุมทั่วประเทศ

“เราไม่ได้ต้องการแข่งขันกับธนาคารบิ๊กเบิ้มในเวียดนาม แต่เราจะสร้างจุดเด่นและความแตกต่างของตัวเอง”

ชู 3 กลยุทธ์ เจาะเวียดนาม

โดยกลยุทธ์เจาะตลาดเวียดนาม “พิพิธ” กล่าวว่า จะใช้ 3 แนวทางควบคู่กัน คือ 1.aggressive play เล่นเร็วและแรง โดยเน้นปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้ารายใหญ่ เพื่อสร้างรายได้ในการบริหารจัดการภายในสาขา 2.ดึงลูกค้าจากพันธมิตรโดยใช้ดิจิทัลและโมบายแบงกิ้ง

และ 3.disruptive playใช้ฟินเทคสตาร์ตอัพที่ธนาคารเข้าไปลงทุนผ่าน KASIKORN VISION ประกอบกับเวียดนามมีสตาร์ตอัพค่อนข้างใหญ่ และมีโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยีที่ดี ธนาคารจึงตั้งเป้าดึงดูดนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในเวียดนามมาทำงานกับ KBTG Vietnam ที่จะจัดตั้งขึ้น ราว 80 คน และตั้งเป้าขยายเป็น 350 คน ภายในปี 2569

ล็อกเป้า “อินโดนีเซีย” ต่อ

ครึ่งปีแรก กสิกรไทยมีรายได้จากสาขาต่างประเทศในภูมิภาค 1,400 ล้านบาท สัดส่วนราว 2.2% ของรายได้ธนาคารทั้งหมด โดยประมาณ 50% หรือ 700 ล้านบาท เป็นรายได้จากสาขาในจีน ที่เหลือ ส่วนใหญ่เป็นรายได้ในกัมพูชาที่เปิดบริการมาแล้ว 3 ปี

“สาขาเวียดนาม เพิ่งให้บริการแค่ไม่กี่เดือน รายได้ขึ้นมาใกล้เคียงกัมพูชาแล้ว โดยปี 2566 เราตั้งเป้าสินเชื่อในเวียดนามที่ 2.2 หมื่นล้านบาท มีฐานลูกค้า 1.2 ล้านราย ซึ่งคาดว่าภายในปี 2566 รายได้ในเวียดนามจะสามารถแซงทุกประเทศได้ ยกเว้นจีน โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้ต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 5% ส่วนตลาดที่ธนาคารให้ความสนใจถัดไป จะเป็นอินโดนีเซีย”

กำไร KBANK ปีนี้ 4.3 หมื่น ล.

“ธนเดช รังษีธนานนท์” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.พาย (Pi) กล่าวว่า วันนี้ธุรกิจไทยที่มีขนาดใหญ่จำเป็นต้องขยายการเติบโตไปสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะธุรกิจที่อยู่ในกระแสการถูกดิสรัปชั่นจากคู่แข่งหรือผู้เล่นรายใหม่ อย่างธุรกิจแบงก์ ซึ่งการขยายธุรกิจในเวียดนามของ KBANK นั้น อาจเป็นตลาดที่แข่งขันยากพอสมควร เพราะผู้เล่นท้องถิ่นแข็งแรงและยังไม่รวมสถาบันการเงินต่างประเทศระดับบิ๊กเนมที่มีอยู่อีกมาก

จึงประเมินว่า KBANK อาจไม่ได้ประโยชน์มากนักจากตลาดนี้ แต่เชื่อว่า KBANK จำเป็นต้องไปหาตลาดที่โตดี ซึ่งจีดีพีเวียดนามวันนี้โต 6-7% ประกอบกับการไปจับมือพาร์ตเนอร์ท้องถิ่นก็จะสามารถต่อยอดธุรกิจเชื่อมโยงในอนาคตได้ด้วย

ทั้งนี้ประเมินกำไร KBANK ปีนี้อยู่ที่ 43,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน และปีหน้ากำไรจะเติบโต 11% เป็น 47,500 ล้านบาท ทั้งนี้ แนะนำซื้อหุ้น KBANK ราคาเป้าหมายสิ้นปีนี้ 174 บาท

“หลัก ๆ มาจากการโตในประเทศและควบคุมคุณภาพหนี้ ส่วนธุรกิจอื่น ๆ ยังเป็นการต่อยอดธุรกิจเดิมมากกว่า” ธนเดชกล่าว