คริปโต เทิร์นเป็น “วงเงินสดพร้อมใช้” ได้แล้ว KTC-XPG นำร่องรายแรก

เอ็กซ์สปริง ผนึก เคทีซี ออกบัตรกดเงินสดใช้ “คริปโต-โทเคน” เป็นหลักประกัน นำร่องรายแรกในไทย อนุมัติวงเงินขั้นต่ำ 1 หมื่นบาท สูงสุด 1 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยไม่เกิน 15% ต่อปี เข้มมาตรการคุมความเสี่ยง กำหนด LTV ที่ 50% มอนิเตอร์ราคาคริปโตหากตกเกิน 80% ปรับลดวงเงินลูกค้า ตั้งเป้าภายใน 3 ปี ยอดปล่อยสินเชื่อ 5-7 พันล้านบาท ฐานลูกค้าใหม่ 5-7 หมื่นราย

วันที่ 10 สิงหาคม 2565 นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG ซึ่งเป็นบริษัทแม่ในเครือ XSpring เปิดเผยว่า ธุรกิจสินเชื่อเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตค่อนข้างสูง โดยเฉพาะสินเชื่อส่วนบุคคลโตอย่างมีนัยสำคัญมาก แต่ลักษณะการปล่อยสินเชื่อในปัจจุบันยังไม่เคยมีใครปล่อยสินเชื่อโดยใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นหลักประกันมาก่อน บริษัทจึงมองเห็นโอกาสตรงนี้เพราะทำธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลอยู่แล้ว

โดยตัวเลขจำนวนบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย ล่าสุดเมื่อเดือน ก.ค. 65 สูงเกือบ 3 ล้านบัญชี แม้ว่าจำนวนบัญชีแอ็กทีฟจะลดลงไปบ้างจากตลาดคริปโตเคอร์เรนซีในช่วงปีที่ผ่านมา มีความผันผวนของราคาค่อนข้างมาก แต่เราเห็นตลาดนี้เป็นตลาดที่ใหญ่มากและนักลงทุนให้ความสนใจค่อนข้างมาก จึงเห็นโอกาสทั้งตลาดสินเชื่อและตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในการรวมตัวเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับนักลงทุนได้

จึงได้หารือกับพาร์ตเนอร์หลักอย่างเคทีซี ออกบัตรกดเงินสด “เคทีซี-เอ็กซ์สปริง(KTC-XSPRING)” โดยใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นหลักประกัน เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับนักลงทุนในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งมีแผนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการช่วงปลายเดือน ส.ค. 65 นี้

โดยลูกค้าที่ต้องการจะเทิร์นสินทรัพย์ดิจิทัลให้เป็นวงเงินสดพร้อมใช้จากบัตรกดเงินสดตัวนี้ จะต้องมีบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลกับบริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด อยู่ก่อนการใช้บริการ เพื่อนำสินทรัพย์ดิจิทัลที่ถือครองอยู่มาเป็นหลักประกัน

กาง 4 ขั้นตอนสมัครบัตรรับวงเงินสดพร้อมใช้

ซึ่งจะมีวิธีดำเนินการอยู่ด้วยกัน 4 ขั้นตอนคือ 1.เปิดบัญชีซื้อขายกับทางบริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล 2.ทำข้อสัญญากับบริษัท เอ็กซ์สปริง อัลไลแอนซ์ เพื่อโอนคริปโตหรือโทเคนเข้ามาไว้เป็นหลักประกัน ซึ่งบริษัทการันตีว่าจะไม่นำสินทรัพย์ของลูกค้าออกไปหาประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น โดยจะจัดเก็บสินทรัพย์ของลูกค้าไว้ในบัญชีของบริษัทอย่างปลอดภัย และเมื่อไรที่ลูกค้าต้องการจะถอนหลักประกันออกก็ดำเนินการได้อย่างครบถ้วน

3.เปิดบัญชีสมัครบัตรกดเงินสด “เคทีซี-เอ็กซ์สปริง(KTC-XSPRING)” กับทางเคทีซี โดยลูกค้าที่มีบัญชีกับทางเอ็กซ์สปริงดิจิทัลอยู่แล้ว ทางเคทีซีจะดำเนินการขั้นตอน KYC เสร็จไม่เกิน 3 วัน ส่วนลูกค้าที่เปิดบัญชีใหม่ประมาณ 7 วัน ในการอนุมัติเพื่อรับวงเงินไปใช้

และ 4.นำบัตรกดเงินสดไปรูด โอน กด และช้อปปิ้งออนไลน์ได้

เข้มมาตรการคุมความเสี่ยง-หนี้ไม่สูญ

นางสาววรางคณากล่าวต่อว่า แน่นอนว่าในธุรกิจสินเชื่อจะค่อนข้างกังวลต่อความเสี่ยงการก่อหนี้ และโดยเฉพาะสินทรัพย์ดิจิทัลที่ราคาค่อนข้างผันผวนมาก ดังนั้น ในเบื้องต้นทางบริษัทจะมีมาตรการควบคุมความเสี่ยงต่าง ๆ ไว้ด้วยคือ จัดทำมาตรการ LTV เช่น หากลูกค้าโอนหลักประกันเข้ามา 1 แสนบาท จะให้ LTV อยู่ที่ 50% ซึ่งเฟสแรกจะรองรับสกุลเหรียญคริปโตเฉพาะ BTC, ETH ก่อน รวมถึงโทเคน Sirihub ด้วย หลังจากนั้นเฟสถัดไปจะเปิดรับเหรียญคริปโตสกุลอื่น ๆ เข้ามาเพิ่มเติมด้วย

ขณะเดียวกัน เนื่องจากระบบตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเรียลไทม์ ซื้อขาย 24 ชั่วโมง 7 วันบริษัทจะมีทีมงานมอนิเตอร์ตลอดว่าราคาสินทรัพย์ดิจิทัลมีการตกลงมาถึงจุดที่ต้องปรับลดวงเงินของลูกค้าหรือไม่ โดยหากมูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัลตกลงมาไม่เกิน 80% ก็จะยังไม่ปรับลดวงเงิน แต่ถ้าเกินจากนั้นจะต้องปรับลดวงเงินลูกค้า โดยบริษัทก็จะแจ้งไปยังเคทีซีเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงของบริษัทด้วย

แต่ทั้งนี้ หากราคาสินทรัพย์ดิจิทัลปรับตัวขึ้น ลูกค้าแต่ละรายเองก็สามารถขออนุมัติวงเงินเพิ่มได้เช่นกัน โดยจะพิจารณาจากความเสี่ยงลูกค้าแต่ละราย

อย่างไรก็ตาม กรณีเลวร้ายลูกค้าโดน liquidation ซึ่งอาจกังวลว่าจะขายสินทรัพย์ดิจิทัลทันหรือไม่ ต้องแจ้งว่าปัจจุบันแพลตฟอร์มเอ็กซ์สปริง ดิจิทัล มีการเชื่อมต่อกับตลาดทั่วโลก และมีดีมานด์การซื้อขายทั่วโลก จึงมองว่าไม่น่าจะเกิดหนี้สูญ

เป้าปล่อยสินเชื่อ 7 พันล้าน ภายใน 3 ปี

นางสาวพิชามน จิตรเป็นธรรม ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-ธุรกิจสินเชื่อบุคคล บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC กล่าวว่า การร่วมมือกันครั้งนี้ถือเป็นโอกาสให้เคทีซีได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่เป็นฐานลูกค้าที่บริษัทยังเข้าไปไม่ถึง โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์ดิจิทัล เพื่อหวังจะขยายฐานลูกค้าในอนาคตได้ครอบคลุมมากขึ้น

โดยจากมูลค่าการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไทยที่มีอยู่ประมาณ 70,000 ล้านบาท บริษัทตั้งเป้าหมายยอดลูกหนี้ที่ต้องการเสริมสภาพคล่องทางการเงินภายใน 3 ปี จะเข้ามาได้ 5-10% คิดเป็นยอดปล่อยสินเชื่อประมาณ 5,000-7,000 ล้านบาท โดยวงเงินอนุมัติขั้นต่ำที่ 10,000 บาท และสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อใบ และคาดหวังฐานลูกค้าใหม่เข้ามาได้ 50,000-70,000 ราย มีวงเงินเฉลี่ยที่ 100,000 บาท

“มูลค่าหลักประกันในพอร์ตของลูกค้าต้องมีไม่น้อยกว่า 20,000 บาท เพราะเรากำหนดเกณฑ์ LTV อยู่ที่ 50% ถึงจะสามารถอนุมัติวงเงินในบัตรขั้นต่ำที่ 10,000 บาท”

ชาร์จดอกเบี้ยไม่เกิน 15% ต่อปี

โดยข้อตกลงเรื่องผลตอบแแทนระหว่างเอ็กซ์สปริงและเคทีซีนั้น จะได้ Revenue sharing ร่วมกันจากดอกเบี้ยที่ชาร์จจากลูกค้า ซึ่งกำหนดไว้ไม่เกิน 15% ต่อปี โดยลูกค้าสามารถเคลียร์หนี้ได้ตามรอบบิลบัตร แต่จะถอนหลักประกันออกไปได้จะต้องไม่มีหนี้ค้างอยู่