พิษ “เงินเฟ้อ-ดอกเบี้ยขาขึ้น” ฉุดผลตอบแทนกองหุ้นเทคดิ่ง

หุ้น

กองทุนหุ้นเทคฯติดลบหนัก “เงินเฟ้อพุ่ง-สหรัฐขึ้นดอกเบี้ยแรง” ป่วน “บลจ.อีสท์สปริง” คาดหุ้นเทคฯถึงจุดต่ำสุดแล้ว เริ่มฟื้นต้นปีหน้า ชี้ดอกเบี้ยสหรัฐใกล้พีก ฟาก “บล.โนมูระ” ชี้ปัจจัยหุ้นเทคฯฟื้นช้า-เร็วขึ้นกับความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย-เงินเฟ้อ

นางสาวชญานี จึงมานนท์ นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า กองทุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจัดอยู่ในกลุ่มที่มีความอ่อนไหวต่อภาวะตลาด ทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจถดถอยในระยะถัดไป ส่งผลกระทบความต้องการสินค้ากลุ่มเทคโนโลยีที่ต่ำลง จึงกระทบต่อการเติบโตของกลุ่มบริษัทเหล่านี้

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นสหรัฐกีดกันการส่งเซมิคอนดักเตอร์แก่จีน จะเป็นอีกประเด็นที่กดดันรายได้ของบริษัทชิปในอนาคต ทั้งนี้หุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ถือว่ามีส่วนสำคัญต่อดัชนีโดยรวม หรือคิดเป็นน้ำหนักราว 23% ของดัชนี Morningstar US Technology Index และ 5% ในดัชนี Morningstar US Market Index

“หุ้นเทคโนโลยีปรับฐานลงแรงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 โดยจะเห็นได้จากกองทุนหุ้นเทคโนโลยีที่ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีถึง ณ 30 ก.ย. 2565 ติดลบสูงสุดเฉลี่ย -42.6%”

นางสาวชญานีกล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐถูกปรับเพิ่มขึ้นครั้งละ 0.75% ในช่วงเดือน ก.ค. และ ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอัตราการปรับขึ้นที่ค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับอดีต ทำให้ดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ที่ 3.00%-3.25% ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551

นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้และคาดว่า Federal Funds Rate (FFR) หรืออัตราเงินกองทุนของรัฐบาลกลาง สิ้นปีจะปรับขึ้นไปอยู่ที่ 4.4% สูงขึ้นจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 3.4%

ทั้งนี้ ผลตอบแทนกองทุนกลุ่ม Global Technology ช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ ตั้งแต่ต้นปีถึง ณ 30 ก.ย. 2565 เป็นกลุ่มที่มีผลตอบแทนติดลบสูงสุดเฉลี่ยอยู่ที่ -42.6% โดยข้อมูลล่าสุด (ณ 26 ต.ค. 2565) กองทุนที่ผลตอบแทนติดลบหนักสุดคือ กองทุน DAOL-CYBER

จากบริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ดาโอ ผลตอบแทนติดลบสูงสุดอยู่ที่ -60.96% ตามด้วยกองทุน TNEXTGEN-A และกองทุน TNEXTGENRMF-A จาก บลจ.ทิสโก้ ผลตอบแทน -60.58% และ -58.88% ตามลำดับ

นอกจากนี้ ยังมีกองทุน TMB-ES-INTERNET จาก บลจ.อีสท์สปริง ผลตอบแทน -58.61% และกองทุน SCBNEXT(A) จาก บลจ.ไทยพาณิชย์ ผลตอบแทน -57.28% (ดูตาราง)

ตาราง กองทุนหุ้นเทคฯติดลบ

นายบดินทร์ พุทธอินทร์ ผู้อำนวยการส่วนกลยุทธ์การลงทุน บลจ.ทหารไทยอีสท์สปริง กล่าวว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 นี้ น่าจะเป็นช่วงที่หุ้นเทคโนโลยีเริ่มทรงตัวหรือน่าจะเริ่มปรับตัวลงไม่มากแล้ว และน่าจะเริ่มฟื้นตัวได้ชัดเจนในช่วงประมาณหลังไตรมาส 1 ปี 2566 ที่เฟดได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยไปถึงจุดสูงสุดแล้ว

“แค่ไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ก็จะเริ่มฟื้นตัว ฉะนั้นเรามองว่าในช่วงปลายปีนี้หรือว่าอย่างช้าครึ่งหลังของไตรมาสแรกปีหน้า คาดว่าหุ้นเทคโนโลยีน่าจะเริ่มฟื้นตัวได้ เนื่องจากปัจจุบัน downside ลงมาค่อนข้างลึกมากแล้ว” นายบดินทร์กล่าว

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หุ้นเทคโนโลยียังคงต้องรอการซึบซับปัจจัยเสี่ยงในเรื่องของตัวอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (bond yield) ซึ่งตอนนี้ ตลาดก็ค่อนข้างที่จะมีความเชื่อมั่นว่าวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นอาจจะไปพีกในช่วงไตรมาส 1 ปีหน้า

นอกจากนี้ ยังมีการคาดว่าดอกเบี้ยนโยบายอาจจะสูงกว่า Dot Plot ที่เฟดเคยประกาศไว้ในรอบล่าสุด ซึ่งสิ่งที่ตลาดต้องจับตาดูหลังจากตรงนี้ไป คือเรื่องของทิศทางเงินเฟ้อต้องดูว่าจะปรับลดลงมาแค่ไหน ถ้าเงินเฟ้อเริ่มลดระดับลงมาต่อเนื่อง ก็จะเป็นจุดที่เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เนื่องจากแรงกดดันจากเรื่องของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะลดน้อยลง

“ฉะนั้นถ้าถามถึงช่วงเวลาที่หุ้นเทคโนโลยีจะฟื้น ก็ต้องดูปัจจัยหลักคือเรื่องของเงินเฟ้อ รวมถึงเรื่องของความเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งหากเศรษฐกิจมีความเสี่ยงที่จะถดถอยเกิดขึ้น ก็คาดว่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีน่าจะไปเริ่มฟื้นตัวได้ในช่วงไตรมาส 1 ปีหน้า

แต่หากไม่เกิดเศรษฐกิจถดถอยและเริ่มเห็นเงินเฟ้อทยอยปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง หุ้นเทคโนโลยีก็จะพลิกฟื้นขึ้นมาทันที ซึ่งอาจได้เห็นในช่วงปลายปีนี้”นายกรภัทรกล่าว