TGH สร่างไข้โควิด ผลดำเนินงาน 9 เดือนกำไรสุทธิพุ่งกว่า 900%

ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ พ้นวิกฤต ธุรกิจหลัก “ประกันภัย-การเงิน” กำไรฟื้น หนุนภาพรวมบริษัทแม่โตกว่า 900% หลังปีที่แล้วอ่วมผลกระทบเคลมโควิด-ธุรกิจประกันภัยขาดทุนหนัก ส่วนธุรกิจ “ประกันชีวิต” กำไรก่อนภาษีลดลง จากการปรับมูลค่าเงินลงทุน-ภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2565 บริษัท ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TGH รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ว่า ผลการดำเนินงาน ไตรมาส 3 ปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 550 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 106.9% ทั้งนี้ ธุรกิจประกันชีวิต มีผลขาดทุนก่อนภาษี 5 ล้านบาท โดยไตรมาส 3 ปี 2564 มีกำไรก่อนภาษี 131 ล้านบาท กำไรลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 136 ล้านบาท มาจากผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุน เนื่องจากการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในตลาด และการเพิ่มขึ้นของคำสินไหมทดแทนจ่ายสุทธิ

ขณะที่ธุรกิจประกันภัย มีผลกำไร 39 ล้านบาท ในขณะที่ไตรมาส 3 ปี 2564 มีผลขาดทุนจำนวน 9,018 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลขาดทุนจากการรับประกันภัยโควิด และในปี 2565 บริษัทมีการเอาประกันภัยต่อประกันรถยนต์ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าบำเหน็จรับจากการเอาประกันภัยเพิ่มขึ้น และค่าสินไหมทดแทนประกันรถยนต์สุทธิลดลง นอกจากนี้ ไม่มีค่าสินไหมทดแทนรายใหญ่ของการประกันภัยทรัพย์สิน

ด้านธุรกิจการเงิน มีผลกำไร 27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33 ล้านบาทจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว จากกำไรจากการขายรถยนต์หมดสัญญาเช่าเพิ่มขึ้น ผ่านช่องทางการขายรายย่อยเป็นส่วนใหญ่ และด้วยภาพรวมและราคาตลาดรถยนต์มือสองมีแนวโน้มดีกว่าปีที่แล้ว
ส่วนงวด 9 เดือน บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,874 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 224 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 936.6%

โดยธุรกิจประกันชีวิต มีผลกำไรก่อนภาษีลดลงจากปีก่อน จำนวน 683 ล้านบาท เนื่องจากกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการปรับมูลค่าของเงินลงทุนและตราสารอนุพันธ์ลดลงเป็นส่วนใหญ่ จากความผันผวนของ SET index ตั้งแต่ต้นปีนี้ และการปรับอัตราดอกเบี้ยตลาดสูงขึ้น

ขณะที่ธุรกิจประกันภัย มีผลกำไรก่อนภาษี 640 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา ขณะที่มีผลขาดทุนก่อนภาษี 9,141 ล้านบาทปีที่แล้ว ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากผลขาดทุนจากการรับประกันภัยโควิด โดยที่ในปี 2565 มีการเพิ่มขึ้นของค่าบำเหน็จรับจากการเอาประกันภัยต่อของการประกันภัยรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น

ด้านธุรกิจการเงิน มีผลกำไรก่อนภาษี 191 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73 ล้านบาทจากปีที่แล้ว จากกำไรจากการขายรถยนต์หมดสัญญาเช่าเพิ่มขึ้น ผ่านช่องทางการขายราย่อยเป็นส่วนใหญ่ และด้วยภาพรวมและราคาตลาดรถยนต์มือสองมีแนวโน้มดีกว่าปีที่แล้ว และจากการเพิ่มขึ้นของผลทำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นของการเปลี่ยนแปลงมูลค่าตราสารอนุพันธ์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยของเงินกู้ยืม