อนันดาฯ เคาะดอกเบี้ยหุ้นกู้ 2 รุ่น สูงสุด 5.70% เล็งเสนอขาย 6-8 ธ.ค.นี้

คอนโดฯอนันดา

อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เคาะดอกเบี้ยหุ้นกู้ 2 รุ่น 4.50-5.70% ต่อปี เสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไป-ผู้ลงทุนสถาบัน จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน คาดเสนอขายระหว่างวันที่ 6-8 ธ.ค. 2565 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 7 แห่ง มั่นใจได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุน เหตุอายุหุ้นกู้เหมาะสม-อัตราผลตอบแทนน่าพอใจ-อันดับความน่าเชื่อถือ BBB-

วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN เปิดเผยว่า บริษัทกำหนดอัตราดอกเบี้ยสำหรับหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 2 รุ่น ประกอบด้วย รุ่นอายุ 1 ปี 1 เดือน 6 วัน อัตราดอกเบี้ย 4.50% ต่อปี และรุ่นอายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย 5.70% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน

โดยจะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน ระหว่างวันที่ 6-8 ธันวาคม 2565 ผ่านสถาบันการเงิน 7 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด

หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2565 ที่ระดับ “BBB-” เช่นเดียวกับอันดับเครดิตองค์กร และมีแนวโน้ม “คงที่” (Stable) ซึ่งเป็นระดับ “ลงทุนได้” (Investment Grade) ทำให้บริษัทมีความมั่นใจว่า หุ้นกู้จะได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนและจะประสบความสำเร็จเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

เนื่องจากอายุของหุ้นกู้ มีความเหมาะสม ขณะที่ผลตอบแทนอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ภายใต้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีความคึกคักมากขึ้น ซึ่งเห็นได้จากการเดินหน้าเปิดตัวโครงการต่าง ๆ รวมถึงอนันดาฯ ที่มีแผนทำตลาดด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่อีก 6 โครงการ มูลค่ากว่า 21,000 ล้านบาท โดยแนวโน้มที่ดีขึ้นสอดรับกับภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจะตอกย้ำความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุน

ทั้งนี้ ANAN เป็นผู้ดำเนินธุรกิจด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งโครงการคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยโครงการคอนโดมิเนียมจะเน้นพัฒนาบนทำเลศักยภาพใกล้สถานีรถไฟฟ้า เพื่อสร้างความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตของผู้พักอาศัย ส่วนโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม เน้นแนวคิดและการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในเซกเมนต์ต่าง ๆ

นรอบ 9 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-ก.ย. 2565) บริษัทมียอดขายกว่า 10,200 ล้านบาท ขณะที่ยอดโอนมากกว่า 9,300 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 23% และยังมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ ไตรมาส 3 ปี 2565 กว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนการฟื้นตัวของภาพรวมเศรษฐกิจที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ของผู้บริโภคที่มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน