หลังจากรัฐบาลไฟเขียวให้กระทรวงการคลัง เก็บภาษีขายหุ้น หรือ Financial Transaction Tax ซึ่งคาดว่าจะเริ่มมีการจัดเก็บตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2566 เป็นต้นไปนั้น ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา
บล.เอเซีย พลัส ชี้กระทบหุ้น 3 กลุ่ม
โดยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส ประเมินว่า การที่รัฐจะเริ่มเก็บภาษีขายหุ้น ที่อัตรา 0.05% ช่วงไตรมาส 2-4 ปี 2566 นั้น ในแง่รายได้รัฐบาล อาจจะเก็บได้เพิ่มขึ้นประมาณ 6,500 ล้านบาท (อ้างอิงจากมูลค่าซื้อขายปี 2565F ต่อปี 14.4 ล้านล้านบาท)
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
อย่างไรก็ดี จะทำให้ความน่าสนใจในการลงทุนลดลง เนื่องจาก Transaction cost ที่สูงขึ้น อาจจะไม่สอดรับกับ Market Cap. ตลาดที่ใหญ่ขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นใหม่ ๆ ได้ และน่าจะส่งผลต่อขีดความสามารถในการแข่งขันตลาดหุ้นโลกลดลง และมูลค่าการซื้อขายหดตัวลง อาจจะส่งผลให้การเรียกเก็บภาษีในระยะยาวมีโอกาสลดลง
ทั้งนี้ บล.เอเซีย พลัส ชี้ว่า มีหุ้น 3 กลุ่มที่จะได้รับผลกระทบ ได้แก่
- หุ้นโบรกเกอร์ (Broker)
- หุ้นขนาดเล็กที่ Valuation แพง มีการซื้อขายหนาแน่น
- หุ้นที่มีสัดส่วนการใช้ Margin สูง
บล.กสิกรฯ คาดฉุดธุรกรรม “TFEX-DW”
ขณะที่ “สรพล วีระเมธีกุล” ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย ระบุว่า ภาษีประเภทนี้ หลายประเทศที่พัฒนาแล้วจะมีการจัดเก็บ แต่ประเทศที่กำลังพัฒนาจะไม่จัดเก็บ ซึ่งไทยเป็นประเทศกำลังพัฒนา
โดยผลกระทบจากการเก็บภาษีนี้ ส่วนแรกจะตกอยู่กับโบรกเกอร์ที่มีรายได้ค่าธรรมเนียมจาก TFEX (ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า) กับ DW (ตราสารอนุพันธ์) โดยปัจจุบันโบรกเกอร์ 20-30 แห่ง จะคิดค่าธรรมเนียม หรือค่าคอมฯ แตกต่างกันไป โดยบางบริษัทเก็บประมาณ ล้านละ 600-700 บาท หรือบางบริษัทก็เก็บประมาณล้านละเกือบ 2,000 บาท แต่ค่าเฉลี่ยจะอยู่ประมาณล้านละ 1,100 บาท ซึ่งหากเก็บภาษีนี้เต็มที่ที่ 0.11% ตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป ก็จะทำให้นักลงทุน เวลาขายหุ้นต้องจ่ายค่าคอมฯ เพิ่มเป็นล้านละ 2,200 บาท หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัว
อีกส่วนคือ จะทำให้ AI trading หรือกลุ่ม high-frequency trading เข้ามาเล่นในตลาดได้ยากขึ้น จากมูลค่าการซื้อขายของตลาดที่จะลดลง เนื่องจากภาษีจะลดแรงจูงใจในการเทรดของนักลงทุนประเภทนี้
“สรพล” กล่าวอีกว่า หุ้นขนาดกลางหรือขนาดเล็กบางตัว ที่มีแรงจูงใจในการทำราคา ที่ไม่ได้เกี่ยวกับประเด็นพื้นฐาน อาจจะทำได้ยากขึ้น
“การเก็บภาษีนี้ มีการทำสถิติข้อมูลในหลาย ๆ ประเทศออกมาแล้ว ว่าไม่ได้ทำให้ตลาดหุ้นขึ้นหรือลง แต่จะส่งผลให้ความผันผวนของตลาดหุ้นลดลง ฉะนั้นธุรกรรม จะไปกระทบ TFEX กับ DW เยอะกว่า” นายสรพลกล่าว