
กระทรวงการคลังยืนยันภาษีขายหุ้น เริ่มเก็บจากธุรกรรมการขายหุ้นตั้งแต่ “บาทแรก” แจงให้โบรกเกอร์เป็นผู้จัดเก็บ
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ได้เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะและกำหนดกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ ฉบับที่… พ.ศ. … หรือการจัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะจากการขายหลักทรัพย์ (หุ้น) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จากที่ภาษีดังกล่าวได้รับการยกเว้นมาตั้งแต่ปี 2534 นั้น
- คลื่นทุนจีนบุก “เชียงใหม่-ภูเก็ต” รอบใหม่ ยึดธุรกิจท่องเที่ยว-จี้สกัดนอมินี
- ฮ่องกง เตรียมแจกตั๋วเครื่องบินฟรี 500,000 ใบ ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ
- ปลาหยก 1 ในปลาเอเลี่ยนห้ามเลี้ยง กรมประมง สั่ง ซี.พี.ระงับโปรโมต
จะเก็บภาษีจากธุรกรรมการขายหุ้นตั้งแต่บาทแรก ไม่ได้แบ่งว่าใครที่ขายมากจะถูกเก็บ หรือขายน้อยไม่ถูกเก็บ เพราะจะผิดหลักความเท่าเทียมกัน
“ถ้าจะบอกว่า คนขายหุ้น 1 ล้านบาทขึ้นไปถึงเก็บ ก็จะยุ่งยาก รวมถึงกฎหมายออกแบบมาว่า ภาษีต้องเก็บอย่างเท่าเทียมกัน คืออันนี้เป็นภาษีจากการขาย ดังนั้น ไม่ว่าจะขายมาก ขายน้อยก็ต้องเสียภาษี ซึ่งจะให้โบรกเกอร์เป็นผู้จัดเก็บ” แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า ในการจัดเก็บช่วงแรก จะจัดเก็บในอัตราแค่ครึ่งเดียวก่อน คืออัตรา 0.055% (ภาษีธุรกิจเฉพาะ 0.05% รวมกับภาษีท้องถิ่นอีก 0.005%) และตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป จะจัดเก็บที่อัตรา 0.11% (ภาษีธุรกิจเฉพาะ 0.1% รวมกับภาษีท้องถิ่นอีก 0.01%) ซึ่งปีแรกคาดว่ารัฐจะมีรายได้เพิ่ม 8,000 ล้านบาท และปีต่อ ๆ ไปจะมีรายได้ปีละประมาณ 16,000 ล้านบาท