ตรุษจีน 6 แบงก์ใหญ่ ตุนเงินสดเป็นพิเศษ รองรับการจับจ่ายช่วงเทศกาล

โลโก้ธนาคาร

แบงก์สำรองเงินสดรองรับการใช้จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีน “กสิกรไทย-ไทยพาณิชย์-กรุงไทย” ตุนแบงก์ละกว่า 3 หมื่นล้านบาท

วันที่ 17 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ที่จะมีการจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น บรรดาธนาคารพาณิชย์ได้เตรียมสำรองเงินสดไว้รองรับการทำธุรกรรมของลูกค้า ดังต่อไปนี้

1.ธนาคารกสิกรไทย เตรียมสำรองเงินสดสำหรับให้บริการในสาขาและเครื่องเอทีเอ็มเพื่อรองรับการใช้จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีน 19-22 มกราคม 2566 รวมทั้งสิ้น 37,400 ล้านบาท

ในจำนวนนี้ แบ่งเป็นการสำรองเงินสดผ่านช่องทางสาขา จำนวน 16,000 ล้านบาท โดยเป็นเงินสำรองสำหรับสาขาในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 9,000 ล้านบาท และสาขาในเขตภูมิภาคจำนวน 7,000 ล้านบาท ทั้งนี้ปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยมี 824 สาขา ทั่วประเทศ

สำหรับการสำรองเงินสดเพื่อเครื่องเอทีเอ็ม (K-ATM) ที่มีอยู่จำนวนกว่า 9,000 เครื่องทั่วประเทศ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 21,400 ล้านบาท แบ่งเป็นการสำรองเพื่อบรรจุเครื่องเอทีเอ็มในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 9,400 ล้านบาท และเอทีเอ็มในเขตภูมิภาคจำนวน 12,000 ล้านบาท

2.ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้เตรียมความพร้อมในการสำรองธนบัตรเพื่อรองรับการใช้บริการของลูกค้า เนื่องในโอกาสเทศกาลตรุษจีนปีนี้จำนวน 38,600 ล้านบาท โดยเป็นการสำรองที่ใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า แบ่งเป็นในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 15,914 ล้านบาท และในเขตภูมิภาค 22,686 ล้านบาท แบ่งเป็นตู้เอทีเอ็ม 30,700 ล้านบาท และสาขา 7,900 ล้านบาท

ปัจจุบันธนาคารมีสาขาทั้งสิ้น 766 สาขา และมีเครื่องเอทีเอ็มรวม 11,108 เครื่อง (ข้อมูล ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565)

3.ธนาคารกรุงไทย ได้สำรองเงินสด เพื่อรองรับการใช้บริการของลูกค้าและประชาชน ทั้งการใช้บริการที่สาขาและตู้ ATM ระหว่างวันที่ 19-24 มกราคม 2566 จำนวน 30,443 ล้านบาท แยกเป็นพื้นที่ กทม.จำนวน 6,050 ล้านบาท และภูมิภาคจำนวน 24,393 ล้านบาท

เป็นการสำรองสำหรับสาขา จำนวน 6,720 ล้านบาท และตู้ ATM จำนวน 23,723 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ธนาคารขอเชิญชวนลูกค้าและประชาชนทำธุรกรรมการเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อความสะดวกและปลอดภัย ลดการสัมผัสเงินสด และลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

4.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เตรียมสำรองเงินสดเพื่อรองรับการเบิกถอนเงินของลูกค้าและประชาชนทั่วไปผ่านเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็ม และสาขาของธนาคารทั่วประเทศ ในช่วงเทศกาลตรุษจีน 2566 ระหว่างวันที่ 17-23 มกราคม 2566 (จำนวน 7 วัน) รวม 10,240 ล้านบาท

ทั้งนี้ แบ่งเป็นเงินสดสำรองสำหรับบริการผ่านเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็ม จำนวน 7,842 ล้านบาท และช่องทางสาขาของธนาคารจำนวน 2,398 ล้านบาท โดยปัจจุบันธนาคารมีสาขาจำนวน 574 สาขา และเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็ม จำนวน 5,666 เครื่องทั่วประเทศ (ข้อมูลจำนวนเครื่อง/สาขา ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565)

5.ทีเอ็มบีธนชาต หรือทีทีบี ได้สำรองเงินสดในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2566 เพื่อรองรับการใช้บริการของลูกค้าและประชาชน จำนวน 15,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการสำรองที่สาขา จำนวน 4,500 ล้านบาท และตู้เอทีเอ็ม จำนวน 10,500 ล้านบาท

6.ธนาคารกรุงเทพ สำรองเงินสดไว้ให้บริการแก่ลูกค้าเพิ่มเติมจากภาวะปกติโดยรวมทั้งสิ้นประมาณ 40,000 ล้านบาท ผ่านสาขาธนาคาร และช่องทางบริการเอทีเอ็มที่มีเกือบ 10,000 จุดทั่วประเทศ เพื่อรองรับปริมาณความต้องการเงินสดของประชาชนสำหรับใช้จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ สำหรับการซื้อของไหว้ ของขวัญ พร้อมสำรองธนบัตรใหม่บางส่วนสำหรับใช้เป็นเงินอั่งเปามอบเป็นธรรมเนียมในเทศกาลปีใหม่จีน

ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถใช้บริการทางการเงินของธนาคารกรุงเทพได้ที่สาขาไมโครภายในห้างสรรพสินค้าและจุดชุมชนกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงบริการตัวแทนธนาคารที่รองรับธุรกรรมในการฝาก-ถอนเงินสด ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส ในร้าน 7-Eleven, โลตัส, บริการ Bank@Post ของไปรษณีย์ไทย และบริการผ่านตู้บุญเติม (ฝากเงินสด) ซึ่งมีจุดให้บริการรวมกันกว่า 140,000 แห่งทั่วประเทศ

รวมไปถึงการมอบอั่งเปาแบบ New Normal ผ่านบริการ e-อั่งเปา จากช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ของธนาคาร เช่น บริการโมบายแบงกิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ และบริการบัวหลวงไอแบงกิ้ง เพื่อเป็นทางเลือกในการส่งมอบความสุขและความสิริมงคลให้แก่กันได้อย่างมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ธนาคารได้เตรียมความพร้อมสำหรับดำเนินการเพิ่มความถี่การเติมเงินยังตู้บัวหลวงเอทีเอ็มเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้ลูกค้าธนาคารมั่นใจได้ว่าจะสามารถเบิกถอนเงินสดมาใช้ช่วงเทศกาลดังกล่าวได้อย่างทั่วถึงและเพียงพอ สำหรับเลือกซื้อของขวัญให้คนในครอบครัวเพื่อความเป็นสิริมงคลในช่วงการเริ่มต้นปีใหม่ รวมทั้งยังอยู่ในระหว่างมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของรัฐบาลผ่านโครงการช้อปดีมีคืน จึงเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยช่วงเทศกาลในปีนี้ให้คึกคักมากยิ่งขึ้น และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวมอีกทางหนึ่ง