กรุงศรีฯ มองกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้ 32.50-33.25 บาท/ดอลลาร์

เงินบาท
ภาพจาก PIXABAY

กรุงศรีฯ คาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 32.50-33.25 บาทต่อดอลลาร์ ลุ้นเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% พร้อมรอฟังสัญญาณนโยบายการเงินสหรัฐระยะต่อไป

วันที่ 30 มกราคม 2566 กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ (30 ม.ค.-3 ก.พ.) ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.50-33.25 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 32.86 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 32.57-32.94 บาท/ดอลลาร์

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 25bp สู่ระดับ 1.50%

เงินดอลลาร์อ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินยูโรแต่แข็งค่าเทียบกับเยนในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐแกว่งตัวออกด้านข้างเพื่อรอผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยสหรัฐรายงานจีดีพีไตรมาส 4/65 เติบโต 2.9% ซึ่งสดใสกว่าคาด สร้างความหวังเกี่ยวกับภาวะ Soft Landing ส่วนข้อมูลการใช้จ่ายบริโภคส่วนบุคคลชะลอตัวตามคาด

ทางด้านธนาคารกลางแคนาดาปรับขึ้นดอกเบี้ย 25bp สู่ 4.5% ซึ่งเป็นจุดสูงสุดรอบ 15 ปี แต่ระบุว่ามีแนวโน้มที่จะพักการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อประเมินผลจากการเร่งคุมเข้มนโยบายในปีที่ผ่านมา สนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางชั้นนำอีกหลายแห่งใกล้ยุติการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นและพันธบัตรไทยสุทธิ 2,921 ล้านบาท และ 2,190 ล้านบาท ตามลำดับ

สำหรับสถานการณ์ในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรีฯ มองว่า จุดสนใจของตลาดโลกจะอยู่ที่การประชุมเฟดวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. ซึ่งคาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ย 25bp สู่ 4.50-4.75% ปฏิกิริยาของนักลงทุนจะขึ้นอยู่กับการสื่อสารของเฟดเกี่ยวกับทิศทางนโยบายระยะถัดไป โดยการร่วงลงของดอลลาร์และ Financial Conditions ที่ผ่อนคลายในช่วงกว่า 3 เดือนที่ผ่านมาสะท้อนการปรับโทนขึ้นดอกเบี้ยในขนาดที่ลดลงไปแล้ว

อนึ่ง ปัจจัยชี้นำอัตราแลกเปลี่ยนอาจมาจากการตอบรับของสินทรัพย์เสี่ยง โดยหากตลาดหุ้นเลือกทางปรับฐานลง ค่าเงินดอลลาร์จะได้แรงหนุนชั่วคราว นอกจากนี้ ตลาดจะจับตาดัชนี ISM ภาคการผลิตและบริการ การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ม.ค.ของสหรัฐ รวมถึงผลประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) วันที่ 2 ก.พ. ซึ่งคาดว่าทั้งคู่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50bp

สำหรับปัจจัยในประเทศ กนง.มองเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวจากการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนที่จะได้รับแรงส่งจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานจากด้านอุปสงค์มีสูงขึ้น ส่วนการส่งออกจะชะลอตัวปีนี้


โดย ธปท.มองว่าการเคลื่อนไหวของเงินบาทในขณะนี้ยังสมเหตุสมผล อนึ่ง กรุงศรีฯคาดว่า กนง.จะขึ้นดอกเบี้ยสู่ 1.75% ในเดือน มี.ค.ก่อนจะตรึงไว้ที่ระดับดังกล่าวเพื่อประเมิน Balance of Risks ต่อไป