ไอเดียจัดพอร์ตลงทุนช่วงสงกรานต์ ชูตลาดเอเชียโดดเด่น

หุ้น-การลงทุน

จัดพอร์ตการลงทุนเดือนเมษายน 2566 พร้อมมุมมองเศรษฐกิจโลก ชูตลาดเอเชียโดดเด่นน่าเก็บเข้าพอร์ต

วันที่ 15 เมษายน 2566 บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกปี 2566  คาดว่าตัวเลขการเติบโตการเศรษฐกิจ (GDP) ทั่วโลกจะจะชะลอตัวลงโดยเฉพาะประเทศกลุ่ม G7 เช่น สหรัฐฯ (+0.9%) สหภาพยุโรป (+0.4%) สหราชอาณาจักร (-0.7%) และเยอรมัน (-0.1%)
และคาด GDP ของจีนและไทยจะเติบโตมากกว่าในปี 2565 ที่ 5.2% และ 3.7% ตามลำดับ

ตลาดผันผวน

1) ผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นเดือน (MTD) ดัชนี S&P 500 ทรงตัวที่ 0.02% และ Euro STOXX600 ลดลง 4.55% ขณะที่ดัชนี VIX เพิ่มขึ้นจาก 19 เป็น 30 จุด ซึ่งบ่งชี้ถึงความผันผวนในตลาดที่สูง
2) วิกฤติธนาคารฉุดตลาด ธนาคารในสหรัฐฯ เช่น Silicon Valley Bank, Signature Bank, และ Silvergate Bank ปิดกิจการ ทางการต้องเข้ามาช่วยเหลือ ขณะที่ธนาคารในยุโรป เช่น Credit Suisse ถูกทาง UBS ซื้อกิจการที่ราว 3.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเรียกร้องให้รัฐบาลสวิสสนับสนุนสภาพคล่องต่อเนื่อง แต่หุ้นกู้ COCOs ของ Credit Suisse จะถูกปรับลดมูลค่าราว 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ

เลือกซื้อลงทุน

จีน : มีการสนับสนุนด้านนโยบายโดยตั้งเป้าหมายเศรษฐกิจในปี 2566 ดังนี้ คาด GDP เติบโตขึ้น 5%, การขาดดุลการคลังที่ 3% ของ GDP, โควต้าพันธบัตรรัฐบาลท้องถิ่นพิเศษที่ 3.8 ล้านล้านหยวน, CPI ที่ 3%, การสร้างงานที่ 12 ล้านตำแหน่ง, อัตราการว่างงานที่ 5.5% และกลับมาอนุมัติวีซ่าสำหรับชาวต่างชาติทุกประเภท

ญี่ปุ่น : การบริโภคในประเทศที่ถูกประเมินจากการสำรวจของบริษัทในประเทศจะให้เงินเดือนเพิ่มขึ้นเฉลี่ยที่ 2.85% ในปีงบประมาณที่จะเริ่มต้นขึ้นในเดือนเม.ย. และนักท่องเที่ยวขาเข้ามากขึ้น

ไทย : แคมเปญเลือกตั้งของประเทศไทยจะสร้างเม็ดเงินให้กับเศรษฐกิจไทยสูงถึง 1.2 แสนล้านบาท คาดจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าในไตรมาส 1 อยู่ที่ 6 ล้านคนและสถิติในอดีตแสดงให้เห็นว่าช่วง 1 เดือนก่อนและหลังเลือกตั้งมีผลตอบแทนเฉลี่ยเชิงบวก

เวียดนาม : สะสมตลาดหุ้นเวียดนามจากการผ่อนคลายระยะเวลาการครบกำหนดของหุ้นกู้ ภาวะเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง ธนาคารกลางเวียดนามลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็น 1% และประธานาธิบดีคนใหม่

มุมมองของลงทุน

  •  ถือเงินสดในช่วงที่สถานการณ์ไม่แน่นอน การแห่ถอนเงินจากธนาคาร การขึ้นอัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง และมีความเสี่ยงที่จะเกิดสภาวะเศรษฐกิจถดถอย
  • ลงทุนในตราสารหนี้จากราคาที่ลดลงตามความกังวลเรื่องการแห่ถอนเงินจากธนาคาร อัตราผลตอบแทนที่น่าดึงดูดใจและการเพิ่มของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่จำกัด
  • มีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดหุ้นจากอัตราเงินเฟ้อระดับสูง ปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดสภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่น้อยลง ราคาน้ำมันและก๊าซที่ลดลง เพิ่มน้ำหนักการลงทุนเล็กน้อยในจีนจากเป้าหมาย GDP ที่ 5% ในประเทศไทยจากนักท่องเที่ยวและแคมเปญเลือกตั้ง
  • ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกเพื่อป้องกันความเสี่ยงให้กับพอร์ตลงทุน

กองทุนแนะนำ

  • ตราสารหนื้
    เราชอบ K-FIXED, TMBGINCOME หรือ UGIS อัตราตอบแทนของพอร์ตน่าสนใจจากอัตราตอบแทนปัจจุบันที่คาดอยู่ระหว่าง 2.3%-3.9% และราคาที่ลดลงจากการเทขายของหุ้นกู้ด้อยสิทธิของธนาคารที่นับเป็นกองทุนชั้นที่ 1 (AT1)
  • ผู้เล่นทั่วโลก
    เราชอบ K-CHANGE และ TMBGQG จากหุ้นที่มีคุณภาพเติบโตสูง ธีมลงทุนนี้สามารถทนต่อภาวะที่ตลาดผันผวนและอาจจะได้รับผลบวกเมื่ออัตราตอบแทนพันธบัตรลดลง
  • ผู้เล่นจากจีน
    เราชอบผู้เล่นจากจีน เช่น K-CHINA และ K-CHX จาก 1) การเปิดประเทศ 2) นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย 3) เป้าหมาย GDP เติบโตขึ้น 5% และ 4) มูลค่าที่ยุติธรรม
  • ผู้เล่นเชิงกลยุทธ์
    เราชอบ K-VIETNAM จาก 1) การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางที่ 1% 2) ประธานาธิบดีคนใหม่ 3) อัตราเงินเฟ้อที่ลดลง 4) มาตรการผ่อนคลายหุ้นกู้ครบกำหนด และ ASP-NGF จาก 1) ธนาคารกลางญี่ปุ่นคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2) การสำรวจของบริษัทในประเทศจะเพิ่มค่าจ้างขึ้น 2.85% และ 3) จำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดเติบโตขึ้นเป็น 1.5 ล้านคน/เดือน เทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิดที่ 3 ล้านคน/เดือน และ 4) ยอดขายปลีกที่มากขึ้น