วิริยะ ส่งประกันรถ 2+ ขับดี ไม่เคลม การันตีคืนเงิน 30% ตั้งเป้า 4 หมื่นกรมธรรม์

วิริยะประกันภัย

วิริยะประกันภัย ส่งประกันรถ 2+ ขับดี ไม่เคลม การันตีคืนเงิน 30% คาดหวังยอดขายนำร่องสิ้นปี 3-4 หมื่นกรมธรรม์ พบสถิติลูกค้าเก่ากว่า 90% ไม่มีเคลม ดึงดูดทำประกัน แย้มขออนุมัติแบบจาก คปภ. เงินคืนอยู่ในกรอบ 20-50% ผลตอบรับดีอาจเพิ่มเพดานได้ เพื่อเป็นผลประโยชน์ลูกค้า คาดภาพรวมตลาดประกันภัยรถปีนี้โตไม่น้อยกว่า 4%

วันที่ 10 พฤษภาคม 2566 นายสุรชัย ไตรวิทยากูร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ครึ่งปีหลังของปี 2566 บริษัทได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ออกมาสู่ตลาด โดยใช้ข้อมูลจากฐานลูกค้าที่มีมากกว่า 8 ล้านกรมธรรม์ เพื่อคิดค้น พัฒนา ปรับปรุง และสร้างสรรค์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าและความเสี่ยงภัย ทั้งในส่วนความคุ้มครองและอัตราเบี้ยประกันที่เหมาะสม

โดยได้พัฒนาประกันภัยรถยนต์ใหม่ออกสู่ตลาดคือ “ประกันรถ 2+ Good Drive” เงื่อนไขพิเศษ “ขับรถดี ไม่มีเคลม การันตีเงินคืน 30%” มีความคุ้มครองคือ

  1. รถรชนรถ วงเงิน 1-5 แสนบาท (เบี้ยเริ่มต้น 8,600 บาทต่อปี ต่อทุนประกันภัย 1 แสนบาท และเบี้ยสูงสุด 13,900 บาทต่อปีต่อทุนประกันภัย 5 แสนบาท) จำกัดอายุรถไม่เกิน 20 ปี
  2. ทรัพย์สินบุคคลภายนอก
  3. ชีวิต ร่างกาย บุคคลภายนอก
  4. ชีวิต ร่างกาย ขับขี่และผู้โดยสาร สูงสุด 1 ล้านบาท
  5. ประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญา

พิเศษ เพิ่มเติมคุ้มครองทรัพย์สินส่วนบุคคลที่อยู่ในรถยนต์ จากการโจรกรรมในวงเงิน 10,000 บาท รวมถึงเพิ่มเติมภัยก่อการร้ายจ่ายเต็มทุนประกัน

ไฮไลต์ของผลิตภัณฑ์นี้คือ รับเงินชดเชยกรณีไม่มีการเรียกร้องค่าสินไหม 30% ของเบี้ยสุทธิ (ไม่รวมภาษีอากร) จะคืนให้ผู้เอาประกันเพื่อตอบแทนในฐานะผู้ขับรถดีภายใน 15 วัน เมื่อกรมธรรม์สิ้นสุดอายุ โดยคืนผ่านทางบัญชีธนาคารที่ผู้เอาประกันแจ้งไว้ตั้งแต่วันแรก (บริษัทต้องตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีการเรียกร้องค่าสินไหมใด ๆ ซึ่งรวมถึงกรณีสินไหมฝ่ายถูกก็ยังมีสิทธิได้เงินคืนส่วนนี้) โดยประเมินแล้วว่าโปรดักต์นี้จะสามารถลดภาระของผู้เอาประกันให้ต่ำกว่าเบี้ยประกัน 2+ ทั่วไปโดยเฉลี่ยถึง 12%

ปัจจุบันจากสถิติของลูกค้าประกันรถยนต์ 2+ ของบริษัท ประมาณ 90% ไม่มีเคลม แต่อีก 10% ที่มีเคลม อัตราความเสียหาย (Loss Ratio) ทะลุ 200-300% โดยคอนเซ็ปต์โปรดักต์ใหม่แปรว่าจะมีเคลมแน่ ๆ 30% จากเงินคืนให้ลูกค้า ส่วนอีก 10% ที่มีเคลมพุ่งอยู่ในระดับเดิม จะทำให้ระดับ Loss Ratio ของประกันรถยนต์โดยรวมขยับขึ้นมาอยู่เฉลี่ย 60% แต่เชื่อว่าจากวิธีการตั้งราคาเบี้ยของบริษัท จะดึงดูดเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ไม่มีเคลม ดังนั้นท้ายที่สุดแล้ว ประเมินค่าเฉลี่ยของ Loss Ratio จะอยู่ใกล้ ๆ ระดับ 30-40% เท่านั้น

“ทั้งนี้หากแนวคิดของเราถูกต้อง ในอนาคตอาจจะสามารถเพิ่มเติมเงินคืนให้ลูกค้าได้อีก เพราะโปรดักต์นี้ขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) อยู่ในกรอบ 20-50% เพื่อเป็นผลประโยชน์ที่คืนให้ลูกค้าได้มากขึ้นในอนาคต” นายสุรชัย กล่าว

นายสุรชัย กล่าวต่อว่า พอร์ตกรมธรรม์ประกันรถยนต์ 2+ และ 3+ วิริยะมีอยู่ประมาณปีละ 3-4 แสนกรมธรรม์ แยกเป็นสัดส่วนประมาณ 50:50% หรือ 2+ มีอยู่ประมาณ 1.5-2 แสนกรมธรรม์ โดยมีมาร์เก็ตแชร์มากกว่า 30% ของตลาด มีอัตราการต่ออายุกรมธรรม์เกิน 50% พร้อมคาดหวังยอดขายปีนี้ราว 3-4 หมื่นกรมธรรม์ คิดเป็นประมาณ 10% ของเบี้ยประกันรถยนต์ 2+ ของบริษัทฯ

สำหรับภาพรวมตลาดรถยนต์ช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 ถือว่าฟื้นตัวเมื่อเทียบกับปี 2565 สังเกตได้จากยอดขายในงานมอเตอร์โชว์ทะลุทะลวง ประกอบกับเทรนด์รถไฟฟ้า (EV) ได้รับการยอมรับมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะรถจากจีน ที่ราคาใกล้เคียงหรือบางรุ่นต่ำกว่ารถทั่วไปด้วยซ้ำ

ขณะที่ภาพรวมตลาดประกันภัยรถยนต์เชื่อว่าปีนี้จะมีอัตราการเติบโตไม่น้อยกว่า 4% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) ในส่วนอัตราความเสียหายจากการเคลม (Loss Ratio) เชื่อว่ายังทรงตัว ๆ อยู่ในระดับที่เหมาะสม ทำให้ทุกบริษัทประกันภัยจะยังไม่มีการขยับเบี้ยเพิ่มขึ้น โดยรอดูท่าทีของอัตราการเกิดเหตุว่าหลังจากสถานการณ์โควิดหายไปแล้ว ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ สัดส่วนการเกิดเหตุจะเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน โดย 5 เดือนแรกปีนี้ จำนวนเคลมรถยนต์ขยับขึ้นมาจากปีที่แล้วราว 10-15%

“เชื่อว่าปีนี้ภาพรวมอุตสาหกรรมประกันรถยนต์ อาจจะมี Loss Ratio ที่เพิ่มขึ้นจาก 2 ปีที่ผ่านมาเล็กน้อย แต่โดยรวมน่าจะยังดีกว่าช่วงก่อนหน้านั้น ที่อัตราส่วนรวมค่าสินไหมทดแทนและค่าใช้จ่ายดำเนินงาน (Combined Ratio) หลาย ๆ บริษัทเกิน 100% โดยสิ้นปีนี้วิริยะฯคาดว่า Combined Ratio ของเราจะอยู่ที่ 97-98% สะท้อนธุรกิจยังมีกำไรอยู่”

อย่างไรก็ตามปัจจุบันพบว่าด้านค่าแรงและอะไหล่ ขยับขึ้นมาเกิน 20% โดยถูกปรับขึ้นมาตลอดเวลาแม้ช่วงปีโควิด โดยเฉพาะกลุ่มรถป้ายแดง ซึ่งอ้างอิงตามมาตรฐานของผู้ผลิต แต่อย่างไรก็ตามบริษัทประกันต้องพยายามหาวิธีการควบคุมในลักษณะอื่นแทน


วิริยะประกันภัย ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+