SC เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ เรทติ้งระดับ BBB+ 13-14 และ 17 ก.ค.นี้

หุ้นกู้
Image by StockSnap from Pixabay

บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น หรือ SC เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ 2 ชุด ให้ผู้ลงทุนสถาบัน-รายใหญ่ อันดับความน่าเชื่อถือของบริษัท และหุ้นกู้จากทริสเรทติ้งที่ระดับ “BBB+” คาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 13-14 และ 17 กรกฎาคม 2566 

วันที่ 13 มิถุนายน 2566 นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายงานข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้จำนวน 2 ชุด คือ ชุดที่ 1 อายุ 3 ปี และชุดที่ 2 อายุ 4 ปี โดยเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ผ่านธนาคารกสิกรไทย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย และธนาคารทหารไทยธนชาต ทั้งนี้ จะประกาศอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนให้ทราบอีกครั้ง

โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ไปใช้คืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดและเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจและขยายกิจการของบริษัทต่อไป  ผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัท และหุ้นกู้ จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2566 อยู่ที่ระดับ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” แสดงให้เห็นถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งของบริษัท ในตลาดที่อยู่อาศัยระดับกลางถึงระดับบน และรายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร 
นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร

นายอรรถพลกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลการดำเนินงานโดยในช่วง 3 เดือนของปี 2566 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงาน 4,922 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 29% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 และมีกำไรสุทธิ 535 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

โดยในปี 2566 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้และยอดขายที่ 25,000 ล้านบาท และ 30,000 ล้านบาท ตามลำดับ และมีแผนการเปิดตัวโครงการใหม่สูงถึง 25 โครงการ มูลค่ากว่า 40,000 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 75% และคอนโดฯ 25% นอกจากนี้ยังมีการเปิด 2 แบรนด์ใหม่ ได้แก่ “95E1” โครงการบ้านเดี่ยวระดับ 100 ล้านบาท และโครงการคอนโดฯ “COBE” ที่ตอบรับกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

Advertisment

ในส่วนของธุรกิจใหม่ที่เน้นการสร้างรายได้จากค่าเช่าและบริการ บริษัทได้เปิดโรงแรมแห่งแรกเมื่อมีนาคม 2566 ชื่อ Yanh Ratchawat จำนวน 79 ห้อง และมีอัตราเข้าพักสูงถึง 48% และยังมีแผนเปิดโรงแรมเพิ่มเติมในช่วงปี 2568-2569 อีก 2 แห่งคือ ที่สุขุมวิทและพัทยา และในส่วนของคลังสินค้าให้เช่า

บริษัทมีแผนจะเปิดโครงการแห่งแรกที่นครสวรรค์ ในไตรมาส 1 ของปี 2567 และแห่งที่ 2 ที่สมุทรปราการ และอยู่ระหว่างจัดหาเพิ่มอีก 3-4 แห่งในปี 2566 พื้นที่เช่ารวมกว่า 130,000 ตารางเมตร บริษัทคาดว่าปี 2566 นี้ จะสามารถทำผลการดำเนินงานได้ตามเป้าหมาย และรวมถึงสามารถขยายธุรกิจใหม่ได้ตามแผนเช่นกัน