
“วิรงค์ พัฒนกำจร” แม่ทัพใหญ่คุมตัวแทน อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ตั้งเป้าปี 2566 เบี้ยประกันรับปีแรก 3.4 พันล้านบาท ตัวแทนใหม่ 8,400 ราย พัฒนา AL ขึ้นระดับ AVP สิ้นปี 24 ราย ชูแคมเปญ Franchise Builder ปลื้มไตรมาสแรกเบี้ยโตกว่า 33% ตัวแทนแอ็กทีฟพุ่ง
วันที่ 10 กรกฎาคม 2566 นายวิรงค์ พัฒนกำจร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารตัวแทน บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต (AZAY) เปิดเผยว่า ในปี 2566 บริษัทตั้งเป้าผลงานเบี้ยประกันชีวิตรับปีแรกผ่านช่องทางตัวแทน จำนวน 3,478 ล้านบาท โดยตั้งเป้าสร้างตัวแทนใหม่ 8,400 ราย จากปัจจุบันที่มีตัวแทนในบริษัทอยู่ทั้งหมด 14,000 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคน Gen Y และ Gen Z
โดยมีค่าเฉลี่ยอายุของตัวแทนของบริษัทประมาณ 30 ปี มีค่าเบี้ยเฉลี่ยต่อลูกค้าต่อรายอยู่ประมาณ 34,000-35,000 บาท คาดว่าแผนการเพิ่มสินค้าประกันสุขภาพและยูนิตลิงก์จะยิ่งช่วยเพิ่มขนาดค่าเบี้ยเฉลี่ยที่จะสูงขึ้นด้วยในอนาคต ซึ่งตอนนี้มีตัวแทนที่มี ic license แล้วกว่า 1,000 ราย
เบี้ยประกันโต 33%
สำหรับผลงานในช่วงครึ่งปีแรกยังไม่ได้รับการอนุมัติจากบริษัทแม่ จึงให้ภาพผลงานได้เฉพาะในช่วงไตรมาส 1/2566 (ม.ค.-มี.ค.) ซึ่งมีเบี้ยปีแรกผ่านช่องทางตัวแทนประมาณ 711 ล้านบาท เติบโตกว่า 33% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) มาจากเบี้ยประกันสุขภาพจำนวน 327 ล้านบาท เติบโตถึง 17% โดยมีจำนวนตัวแทนใหม่ 1,908 ราย เพิ่มขึ้น 22%
และในไตรมาสนี้มีตัวแทนที่แอ็กทีฟมากถึง 2,776 ราย เพิ่มขึ้น 10% ซึ่งสะท้อนผลงานของบริษัทถือว่าอยู่ในระดับต้น ๆ ของบริษัทประกันชีวิตในประเทศไทยในการสร้างตัวแทนใหม่ได้มากในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้
“ตัวเลขที่สำคัญที่เราจะให้ความสนใจคือจำนวนตัวแทนทำงาน เพราะเป็นรากฐานของความสำเร็จ ถ้าเรามีจำนวนตัวแทนมากและมีการเติบโตมาก ก็จะเป็นการสะท้อนถึงการเติบโตของผลผลิตได้อย่างแน่นอน” นายวิรงค์กล่าว
ปัจจุบันตัวแทนของบริษัทจะมีด้วยกัน 3 ระดับคือ 1.ตัวแทน 2.ผู้บริหารตัวแทน (AL) และ 3.ผู้จัดการกลุ่ม (GM) ซึ่งส่วนนี้จะมีแยกออกไปอีก 3 ระดับคือ AVP, VP และ SEVP คือกลุ่มบนของพีระมิดของโครงสร้างฝ่ายขายของบริษัท
ปั้น AVP 24 ราย
ปีนี้ได้วางกลยุทธ์ขับเคลื่อนผลงานเบี้ยช่องทางตัวแทนผ่านแคมเปญ Franchise Builder season 2 ซึ่งเป็นแคมเปญที่ถูกออกแบบมาพิเศษเพื่อพัฒนาการเติบโตของตัวแทนในทุกด้าน ทั้งการสร้างทีมเพิ่มจำนวนตัวแทน และการสร้างผลงานเบี้ยประกัน โดยมีแผนจะมุ่งเน้นพัฒนา AL ขึ้นเป็นระดับ AVP ตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้จำนวน 24 ราย จากปัจจุบันมี AVP แล้ว 180 ราย
ซึ่งปัจจุบันจะมีกลุ่มคนอยู่ 2 กลุ่มคือ 1.Team Summit ซึ่งเป็น AL ที่คัดมาแล้วจำนวน 50 ราย ที่มีแนวโน้มจะเลื่อนตำแหน่งไปสู่ระดับ AVP ได้ในวันที่ 1 ม.ค. 2567 และ 2.Team Peak อีกประมาณ 200 ราย ที่บริษัทมองว่าอาจจะใช้เวลาอีก 1-2 ปี ในการพัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็น AVP
ทั้งนี้สำหรับคุณสมบัติที่จะเลื่อนไปสู่ระดับ AVP ได้นั้น จะต้องมีอายุงานไม่ต่ำกว่า 2 ปี และจะต้องมีเบี้ยปีแรก จำนวน 12.5 ล้านบาท ในช่วง 1 ปี (รวมตัวเอง+ทีม) โดยจะต้องมีทีม AL ภายใต้สังกัดอย่างน้อย 10 หน่วย รวมถึงต้องมีอัตราความยั่งยืนด้วย
“ตอนนี้เรามี AL ทั้งหมดในบริษัทกว่า 2,000 ราย ซึ่งในช่วงไตรมาสแรกที่มีการแข่งขันแคมเปญ Franchise Builder ซึ่งมี AL เข้าร่วมประมาณ 500 ราย โดยสามารถสร้างผลผลิตเบี้ยได้กว่า 60% ของเบี้ยปีแรกของบริษัท สะท้อนถึงคุณภาพในการทำงานที่มากขึ้นกว่า AL ทั่วไป ซึ่งสร้างผลผลิตเบี้ย 280,000 บาทต่อหน่วยต่อเดือน จากทั่วไป 105,000 บาทต่อหน่วยต่อเดือน และมีจำนวนตัวแทนที่แอกทีฟที่สูงขึ้นเป็น 5 รายต่อหน่วย จากทั่วไป 2 รายต่อหน่วย“
นอกจากนี้ทางบริษัทยังได้เตรียมโปรแกรมแข่งขันและพัฒนาตัวแทนอีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโครงการยูนิตลิงก์แชมเปี้ยนลีค มุ่งพัฒนาตัวแทนที่มุ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน โครงการอีลิทโปร มุ่งพัฒนาผู้บริหารตัวแทนคุณภาพ และ MDRT
และที่โดดเด่นที่สุดคือ โครงการหลักสูตรพัฒนาตัวแทนระดับเวิร์ลคลาส โดยการสนับสนุนจาก อลิอันซ์เอเชีย แปซิฟิก และ INSEAD สถาบันการศึกษาด้านธุรกิจชั้นนำของโลก จัดหลักสูตรพิเศษสำหรับตัวแทนมืออาชีพโดยเฉพาะ เพื่อมอบให้กับตัวแทน 31 ราย ที่มีผลงานยอดเยี่ยมผ่านเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด
โดยตัวแทนที่ได้รับการคัดเลือก จะได้เข้ารับการอบรมในแบบออนไลน์และออฟไลน์ที่ประเทศสิงคโปร์ ร่วมกับตัวแทนจากอีก 6 ตลาดของอลิอันซ์ในภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ จีน, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, ศรีลังกา, ไต้หวัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อีกทั้งตัวแทนที่ทำผลงานได้ดีที่สุด 1 ท่าน จะได้รับโอกาสบินลัดฟ้าไปเยี่ยมชมและรับประกาศนียบัตรที่แคมปัสของ INSEAD เมืองฟงแตนโบล ประเทศฝรั่งเศส อีกด้วย
“บริษัทยังคงมีการอบรมพัฒนา แลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างตัวแทนในระดับต่าง ๆ เพื่อพัฒนาทักษะการขาย การบริหาร อยู่อย่างสม่ำเสมอ ล่าสุดได้จัดงานสัมมนาผู้บริหารตัวแทน (AL Seminar 2023) ภายใต้แนวคิด GAME ON พิชิตเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งถือเป็นงานสำคัญประจำปีที่ผู้บริหารตัวแทนจะได้เข้ารับฟังทิศศทางการดำเนินงานของบริษัทเพื่อการเดินหน้าขับเคลื่อนการเติบโตร่วมกัน”